TOP

6 พิกัดจุดหมายต่างแดนหลากสีสัน ถ่ายรูปสวยปังแบบไม่ง้อฟิลเตอร์!

เมื่อฤดูหนาวมาเยือนอีกครั้ง จึงไม่น่าแปลกใจที่กลางวันจะสั้นลงและกลางคืนจะยาวขึ้น ทำให้รู้สึกได้ว่าท้องฟ้ามืดเร็วกว่าปกติ ภาพจำของฤดูหนาวคงหนีไม่พ้นสีขาวๆ เทาๆ ความหนาวเย็น และบรรยากาศหม่นๆ แต่หากกำลังวาดฝันถึงสถานที่บรรยากาศดีท้องฟ้าสีครามแจ่มใส แสงแดดไล้ผิวให้รู้สึกอบอุ่นในอีกซีกโลกอยู่ละก็ Booking.com ผู้นำด้านการเดินทางแบบดิจิตอล เชื่อมโยงผู้เดินทางกับตัวเลือกที่พักแปลกใหม่อันหลากหลาย ได้สำรวจผู้เดินทางชาวไทยส่วนใหญ่ต่างกล่าวว่า ปัจจัยสำคัญในการเลือกจุดหมายปลายทางสำหรับทริปถัดไปของพวกเขาคือ “บรรยากาศแปลกใหม่” (87%) และ “อากาศไม่แปรปรวน” (83%)

 

Booking.com ได้คัดสรรค์ 6 พิกัดจุดหมาย

สถานที่สีสันสดใสที่สุดในโลก ให้ได้เร้นกายหลบไปชาร์จแบต เติมพลังความสดใสให้ชีวิตในช่วงหนาวนี้ ไล่ตั้งแต่สถาปัตยกรรมอันมีความสวยงามหลากสีสัน เมนูอาหารอวลกลิ่นเครื่องเทศ อาบแสงแดดรับวิตามินดี ที่หนาวนี้จะมีความสุขสดใสยิ่งขึ้นแน่นอน

 

เชฟชาอูน ประเทศโมร็อกโก

“เมืองสีฟ้าแห่งโมร็อกโก” แห่งนี้ได้รับความนิยมในบรรดาสาวกอินสตราแกรมเป็นอย่างมาก ด้วยสภาพแวดล้อมที่สวยงาม สีสันเตะตาของบ้านเรือนและร้านค้าจำนวนมหาศาล ที่ถูกละเลงเป็นเฉดสีต่างๆ ทั้งสีท้องฟ้า สีดอกไอริส และสีคราม นอกจากนี้ยังมีแสงอาทิตย์แอฟริกาเหนือ ที่คอยมอบความอบอุ่นให้กับเมืองนี้ ในขณะที่บรรยากาศโดยรอบ ตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นสดชื่นของเครื่องเทศบดสดใหม่แสนเย้ายวน และเสียงเจื้อยแจ้วในตลาดของนักสะสมที่กำลังต่อราคาสินค้างานฝีมือทั้งหลายอย่างกระตือรือร้น ในช่วงฤดูหนาวที่นี่มีอุณหภูมิอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียสโดยเฉลี่ย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เดินทางที่ไม่ชอบอากาศร้อนอบอ้าว และเบียดเสียดกับผู้คนมากมาย แต่หากต้องการสัมผัสความร้อน หรือผ่อนคลายหลังออกไปตะลอนมาทั้งวัน ก็สามารถไปเรียกเหงื่อได้ที่สปาฮัมมัม (โรงอาบน้ำสไตล์ตุรกีดั้งเดิม) ซึ่งมีอยู่ทั่วเมืองเชฟชาอูน

ที่พักแนะนำ: Dar Jasmine เป็นเกสต์เฮาส์แสนสบาย อยู่ไม่ไกลจาก Ras El Ma ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดื่มของหมู่บ้านและมีความสวยงามเหมาะกับการถ่ายรูป เนื่องจากการมาเยือน เชฟชาอูน ต้องใช้รถยนต์หรือรถบัสเท่านั้น จึงควรใช้โอกาสนี้แวะ เมืองเฟส ระหว่างทางด้วยเช่นกัน ส่วนกำแพงเมืองโบราณนั้น ใช้เวลาขับรถจากเชฟชาอูนประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ถึงจะอยู่ไกลจากตัวเมืองแต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อย่างตรอกซอกซอยแคบๆ สวนลับที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ และกลิ่นอโรม่าแสนเย้ายวน

 

โบ-คาบ เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้

ในขณะที่ซีกโลกเหนือกำลังเผชิญกับความหนาวเย็น แต่ในเคปทาวน์กลับเป็นฤดูร้อน! หากอยากสัมผัสเมืองแห่งสีสัน แสงแดดอุ่น และหอมกลิ่นเครื่องเทศ ขอแนะนำให้สำรวจย่าน โบ-คาบ อันเก่าแก่ ซึ่งปูถนนด้วยก้อนหินและเต็มไปด้วยบ้านเรือนโทนสีลูกกวาด โบ-คาบ ซึ่งมีความหมายว่า “เหนือแหลม” ในภาษาแอฟริคานส์นั้น เป็นย่านชุมชนชาวเคปมาเลย์ (ชนกลุ่มน้อยเชื้อสายมาเลย์ในแอฟริกาใต้) และจุดศูนย์กลางของวัฒนธรรมชาวเคปมาเลย์ ที่ได้รับอิทธิพลผสมผสานระหว่างอินโดนีเซียและยุโรป มาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของชาวดัตช์ จึงทำให้เมืองนี้อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารและตลาด ที่รวมความต่างของสองวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ห้ามพลาดชิมแกงกะหรี่รสหวานเผ็ดสไตล์เคปมาเลย์ดั้งเดิม และเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์ Bo-Kaap Museum ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ.1760

ที่พักแนะนำ: Nazari House อพาร์ตเมนต์สีสันสดใสดูทันสมัยแปลกตา ที่พักตั้งอยู่ใจกลางเมืองโบ-คาบ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสำรวจทั้งในย่านตัวเมือง และบริเวณอื่น ๆ ที่ไกลออกไปของเมืองเคปทาวน์

 

จ๊อดปูร์ ประเทศอินเดีย

เมืองจ๊อดปูร์ จะได้พบกับบ้านเรือนนับพันในหลากเฉดสีของท้องฟ้าและทะเล เท่าที่จะจินตนาการได้ อุณหภูมิในหน้าหนาวของที่นี่จะอยู่ที่ประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส เมืองนี้จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนสบายๆ ในอากาศอุ่นกำลังดี อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ให้ไปสำรวจ และอาหารรสชาติเผ็ดร้อนให้ลิ้มลองอีกด้วย ที่นี่มี ป้อมเมห์รานการห์สีทราย ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1459 และตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาสูง 125 เมตร ริมทะเลเหนือทิวทัศน์ของตัวเมืองจ๊อดปูร์ โดยเรียกได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญที่ใหญ่ที่สุด และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง กิจกรรมห้ามพลาดอื่นๆ ได้แก่ การเดินเล่น และเยี่ยมชมวัดที่สวนสาธารณะ Mandore Gardens ตลอดจนชิมอาหารท้องถิ่นอร่อยๆอย่าง Mirchi Bada (ของทานเล่นรสเผ็ดร้อน) และ pyaaz ki kachori (แป้งทอดยัดไส้หัวหอมผัดเครื่องเทศ) เที่ยวจ๊อดปูร์แล้วคุณจะได้รับความสุขครบรสทุกด้าน และไม่น่าแปลกใจที่สถานที่แห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังติดหนึ่งในลิสต์ จุดหมายมาแรงในปี 2020 ของ Booking.com อีกด้วย

ที่พักแนะนำ: The Almond Tree ตั้งอยู่ในย่านเงียบสงบโอบล้อมด้วยความเขียวชอุ่ม อยู่ไม่ไกลจากป้อมเมห์รานการห์ บีแอนด์บีแห่งนี้ผสมผสานเสน่ห์ ความหรูหรา และความผ่อนคลายได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความเร่งรีบวุ่นวาย นอกจากนี้ผู้เข้าพักก็ยังสามารถอิ่มอร่อยกับอาหารโฮมเมด ณ ห้องบนอาหารบนดาดฟ้าของที่พัก ระหว่างดื่มด่ำกับวิวตระการตาของ Umaid Bhawan Palace (หนึ่งในที่อยู่อาศัยส่วนตัวซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก) และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปพร้อมกัน

 

ย่านซานฮวนเก่า ประเทศเปอร์โตริโก

อีกหนึ่งเมืองซึ่งอยู่ในลิสต์จุดหมายมาแรงในปี 2020 ของ Booking.com ซานฮวน ขึ้นชื่อเรื่องประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ อาหารรสเลิศ ไนท์ไลฟ์แสนคึกคัก และสถาปัตยกรรมแบบสเปนสีสันสดใส ทั้งหมดนี้อยู่ในย่านใจกลางดั้งเดิม Viejo San Juan หรือ “ซานฮวนเก่า” นั่นเอง เตรียมรองเท้าคู่โปรดแล้วมาเดินสำรวจเมืองงดงามนี้ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะออกไปเตร็ดเตร่รอบลานพลาซ่าใต้แสงแดด หรือเต้นสุดเหวี่ยงตลอดคืนกับคนท้องถิ่นในปาร์ตี้กลางถนน แบบด้นสดไปตามดนตรีจังหวะซัลซ่า ฟลาเมงโก ชะชะช่า หรือแจ๊ส เรียกได้ว่าซานฮวนนั้นจะช่วยปัดเป่าความหม่นหมองช่วงฤดูหนาวได้อย่างแน่นอน

ที่พักแนะนำ: Santurcia Hostel ตั้งอยู่ในใจกลางย่าน Santurce Art District อันมีชีวิตชีวาของซานฮวน เหมาะกับการพบปะนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จากทั่วโลก ผู้เข้าพักที่จองผ่าน Booking.com ต่างชอบที่นี่ เพราะพนักงานเป็นมิตร รวมไปถึงลานระเบียงดาดฟ้ามองเห็นวิวเมืองสุดตระการตา ตลอดจนดีไซน์สุดโมเดิร์น และกิจกรรมพิเศษที่จัดโดยทางโฮสเทล อย่างคลาสเล่นโยคะท่ามกลางแสงจันทร์ และการฉายภาพยนตร์ยามค่ำคืน

 

วิลเลมสตัด ประเทศคูราเซา หมู่เกาะเนเธอร์แลนด์แอนทิลลิส

สถาปัตยกรรมสไตล์ดัตช์ดั้งเดิม ในโทนสีสดๆ อย่างส้ม ชมพู และเหลือง ตลอดจนเมืองหลวงอันมีชีวิตชีวาของเกาะในทะเลแคริบเบียนอย่างคูราเซา หลอมรวมกันกลายเป็นการบำบัดอย่างดีในบรรยากาศฤดูร้อน สำหรับผู้ที่ไม่อยากติดแหงกอยู่กับความอึมครึมช่วงหน้าหนาว วิลเลมสตัด เป็นเมืองสุดงดงามที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกของ UNESCO ที่นอกจากจะทำให้คุณอารมณ์ดีแล้ว ยังเพิ่มความสดใสให้ฟีดในโซเชียมีเดียลของคุณอีกด้วย ไม่ว่าจะไปช้อปปิ้งผลไม้สดที่ตลาดน้ำชื่อดัง หรือจะเดินเอื่อยเฉื่อยไปตามถนนหินบริเวณย่านริมน้ำเก่าแก่เพื่อถ่ายภาพสวยๆ ของท่าเรือ จาก สะพาน Queen Emma Bridge ผู้เดินทางที่จองผ่าน Booking.com บอกต่อกันอย่างล้นหลามว่า ‘วิลเลมสตัด’ นั้นมีดีเรื่องชายหาด การผ่อนคลาย การดำน้ำตื้น และอากาศแจ่มใส ถูกใจทุกคนอย่างแน่นอน ในพื้นที่ซึ่งค่อนข้างกะทัดรัดนี้ (444 ตารางกิโลเมตร หรือ 277,500 ไร่) มีชายหาดกว่า 20 แห่งให้ไปสำรวจ สำหรับใครที่อยากสำรวจความงามทางธรรมชาติสุดตื่นตาบนเกาะแห่งนี้ ขอแนะนำให้เช่ารถเพราะเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุด หลังจากนั้นก็ไปดื่มด่ำกับค็อกเทล (ชงจากเหล้าสีฟ้าสูตรเฉพาะของเกาะ) ฉลองให้กับการเอาชนะความหม่นหมองในฤดูหนาวที่คาเฟ่ริมทะเล

ที่พักแนะนำ: Bed & Bike Curacao เป็นที่พักสมชื่อ เพราะนอกจากห้องพักก็ยังมีบริการจักรยานฟรีให้ผู้เข้าพัก ใช้ออกสำรวจเมืองอีกด้วย ที่พักนี้ตั้งอยู่ใจกลางวิลเลมสตัด ไม่ไกลจากทะเล อีกทั้งยังอยู่ในย่านยอดนิยมอย่าง Pietermaai District ซึ่งเป็นแหล่งร้านอาหารดีๆ และที่เที่ยวกลางคืนสุดเจ๋ง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักในเสียงดนตรี หรือการพบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และศิลปินท้องถิ่น

 

จอร์จทาวน์ เกาะปีนัง

จอร์จทาวน์ เมืองหลวงของเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ที่นี่เป็นจุดหมายสุดคึกคักที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาตร์ รวมไปถึงงานศิลปะแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย เนื่องจากจอร์จทาวน์ไม่มีฤดูหนาว จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเหล่านักเดินทางที่อยากหนีหนาวมาหาความอบอุ่น เพราะมีแดดจ้าตลอดตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเมษายน ที่นี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินสำรวจสัมผัสอากาศอุ่นๆ และชมสตรีทอาร์ตตื่นตา บ้านเรือนเก่าแก่ ร้านค้าสไตล์จีนโบราณ ตลอดจนวัด มัสยิด และโบสถ์แสนสวย ‘จอร์จทาวน์’ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงด้านอาหารของมาเลเซีย คุณจะได้พบกับสตรีทฟู้ด และฟู้ดทรัคอยู่ทั่วทุกมุมเมือง พร้อมเมนูอาหารที่หลากหลาย ขนทัพกันมาตั้งแต่อาหารอินเดีย อาหารกวางตุ้ง อาหารมาเลย์ ไปจนถึงอาหารจีนฮกเกี้ยน นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่เก๋ๆ อีกมากมายให้คอกาแฟได้ผ่อนคลายระหว่างวันอีกด้วย

ที่พักแนะนำ: Campbell House เป็นโรงแรมบูติคสุดหรูและไฮคลาส ที่รายล้อมไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารท้องถิ่นมากมาย แม้ว่าจอร์จทาวน์จะขึ้นชื่อเรื่องสตรีทฟู้ดอร่อยๆ แต่หากอยากทานอาหารอิตาเลียนรสเลิศสักมื้อ ห้องอาหารของโรงแรมไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด