อนันตรารุกตลาดมอริเชียส เตรียมเปิดตัว ‘อนันตรา มอริเชียส รีสอร์ท’ อย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้
กลุ่มโรงแรมอนันตรา เตรียมรุกตลาดโรงแรมหรู บนเกาะมอริเชียสกลางมหาสมุทรอินเดีย โดยประกาศเปิดตัว ‘อนันตรา มอริเชียส รีสอร์ท’ (Anantara Mauritius Resort) ที่พักสุดหรูแห่งใหม่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ โดยมีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ของปี 2562 นี้
รีสอร์ทแห่งใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาชายฝั่งแบบบูรณาการ ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติเซอร์ ซีวูซากูร์ รามกูลัม (Sir Seewoosagur Ramgoolam International Airport) เพียง 15 นาที และอยู่ใกล้กับอุทยานทางทะเลบลูเบย์ (Blue Bay Marine Park) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการอนุรักษ์ ล้อมรอบด้วยมหาสมุทรอินเดียที่ใสราวคริสตัล และหาดทรายขาวละเอียด อีกทั้งแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์ของอ่าวบลูเบย์ ทำให้ที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในสุดยอดของจุดหมายปลายทาง ของผู้ชื่นชอบการดำน้ำอีกด้วย
อนันตรา มอริเชียส รีสอร์ท มีห้องพักและห้องสวีทรวมทั้งหมด 164 ห้อง โดยมีพูลวิลล่าสุดหรู 8 หลัง แบ่งเป็น พูลวิลล่าแบบสองห้องนอน จำนวน 2 หลัง และพูลวิลล่าแบบสี่ห้องนอน จำนวน 6 หลัง ซึ่งวิลล่าเหล่านี้จะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 สิ่งอำนวยความสะดวกที่รีสอร์ท ไม่ว่าจะเป็น ห้องอาหารสไตล์กริลล์และซีฟู้ด ซี.ไฟร์.ซอลท์ (Sea.Fire.Salt) ที่มีบริเวณเอาท์ดอร์เป็นสนามหญ้าและชายหาด ห้องอาหารแบบออลเดย์ไดน์นิ่ง ห้องอาหารส่วนตัวพร้อมห้องเก็บไวน์ คาเฟ่ที่เน้นอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ บาร์เครื่องดื่มบริเวณริมสระว่ายน้ำและชายหาด รวมถึงสระว่ายน้ำแบบโอโซนความยาว 30 เมตร ห้องออกกำลังกาย อนันตราสปา และคิดส์คลับ
รีสอร์ทแห่งใหม่นี้ ได้รับการออกแบบสร้างสรรค์โดย กราวด์ เคนท์ (Ground Kent Architects) บริษัทออกแบบชื่อดังจากออสเตรเลียที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ร่วมกับสำนักงานสถาปัตยกรรมของมอริเชียส (the Office of Global Architecture) และนักออกแบบตกแต่งภายใน จาก อบาคัส ดีไซน์ (Abacus Design) ประเทศไทย การออกแบบรีสอร์ทแห่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาของการหลอมรวมประเทศ โดยได้รับอิทธิพลการออกแบบจากมรดกทางสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ดังที่เห็นได้จากเมืองพอร์ตหลุยส์ (Port Louis) ซึ่งเป็นเมืองหลวง และสถาปัตยกรรมอีกมากมายโดยรอบเกาะ วัสดุธรรมชาติจากท้องถิ่นมีความสำคัญ ในการช่วยให้รีสอร์ทมีความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ และด้วยแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุคโคโลเนียล ทำให้ได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายในแบบของบ้านริมทะเลเขตร้อน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความรู้สึกโมเดิร์นอย่างชัดเจน
การใช้แสง การตกแต่งด้วยหินบะซอลต์และหินภูเขาไฟ ขอนไม้ ผสานลวดลายแพทเทิร์นระลอกคลื่น และโทนสีทรายธรรมชาติ ช่วยให้บรรยากาศในร่มและกลางแจ้งเกิดความกลมกลืน ผืนผ้าและงานศิลปะที่ได้รับการคัดสรรมาสำหรับตกแต่งห้องพัก เป็นการผสมผสานระหว่างคู่สีตรงข้ามทั้ง สีส้ม น้ำเงินสด และสีเหลือง เพื่อสื่อถึงกับน้ำทะเลสีฟ้าใสราวคริสตัลในอ่าวบลูเบย์ หาดทรายสีทอง และสีสันยามพระอาทิตย์ตกในตำนาน
แขกผู้มาพักจะได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่อาหารแบบครีโอลดั้งเดิม (creole cooking) ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากอาหารจากหลากหลายชาติ อาทิ ฝรั่งเศส สเปน แอฟริกาตะวันตก อเมริกันอินเดียน เฮเตียน เยอรมัน และอิตาเลียน ไปจนถึงอาหารแบบไฟน์ไดน์นิ่ง ที่ผสมผสานประสบการณ์อาหารแบบ ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา โดยวัตถุดิบและส่วนผสมส่วนใหญ่จะมาจากในพื้นที่ เนื่องจากมอริเชียสมีดินที่อุดมสมบูรณ์อย่างมาก อีกทั้งล้อมรอบด้วยมหาสมุทรซึ่งเป็นแหล่งอาหารทะเลชั้นเยี่ยม
เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นของแบรนด์อนันตราที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทางรีสอร์ทจะใช้เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับการทำน้ำร้อนในห้องพักทุกห้องเพื่อลดการใช้พลังงาน และยังมีโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ได้แก่ การปลูกพืชท้องถิ่นในโรงแรม การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่เพื่อการชลประทานและการทำความสะอาด การนำวัสดุรีไซเคิลกลับมาใช้ในการตกแต่งรีสอร์ท รวมถึงการงดใช้หลอดพลาสติก ซึ่งเป็นมาตรฐานของโรงแรมเครืออนันตราทั่วโลก และในอนาคตอาจมีการส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ สำหรับซัพพลายเออร์ของห้องอาหารของรีสอร์ท
มอริเชียส เป็นประเทศเล็กๆ มีลักษณะเป็นเกาะ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรอินเดีย และเป็นที่รู้จักกันดีในด้านความหลากหลายของพืชและสัตว์สายพันธุ์ท้องถิ่น ที่มีอยู่บนเกาะแห่งนี้เท่านั้น โดยเฉพาะ “นกโดโด” (dodo) นกสายพันธุ์หนึ่งซึ่งได้สูญพันธุ์ไปในราวยุค1600 ซึ่งเกาะมอริเชียสนี้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยเฉพาะแห่งเดียวของมัน เกาะแห่งนี้ยังมีกิจกรรมทางธรรมชาติทั้งทางบกและทางน้ำ ผู้มาเยือนสามารถเช่าเรือเพื่อตกปลาทะเลน้ำลึก เพลิดเพลินกับการพายเรือคายัคที่ท้องเรือเป็นกระจกใส ชมน้ำทะเลสีฟ้าใส ดำน้ำตื้นชมปะการังได้ด้วย ดูนกบนเกาะใกล้เคียง การสำรวจสวนพฤกษศาสตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย
กอล์ฟเป็นกิจกรรมยอดนิยมอีกรายการหนึ่งสำหรับผู้มาเยือน บนเกาะแห่งนี้มีสนามกอล์ฟที่มีทัศนียภาพสวยงามให้เลือกกว่า 12 แห่ง รวมถึงสนามกอล์ฟ 18 หลุม พร้อมวิวทะเล ห่างจากรีสอร์ทเพียง 30 นาที ส่วนนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบวัฒนธรรม จะได้เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และสำรวจบ้านยุคอาณานิคมที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ด้วยระเบียงกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบทรอปิคอล
แขกของอนันตราจะสามารถเที่ยวชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ทิวทัศน์อันงดงาม รวมถึงกิจกรรมผจญภัย ได้บริเวณทางตอนใต้ของเกาะ อาทิ เมืองมาเฮบอร์ก (Mahebourg) เมืองหลวงแห่งแรกของมอริเชียส ใช้เวลาขับรถเพียง 15 นาที จากรีสอร์ท เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับตลาดท้องถิ่น พิพิธภัณฑ์ ป้อมปราการ และการต่อสู้ทางประวัติศาสตร์ระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษ ห่างออกไปอีกเล็กน้อย คือ อุทยานแห่งชาติ แบล็ค ริเวอร์ จอร์จ (Black River Gorges National Park) มีน้ำตกและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะแก่การเดินป่า ส่วนกิจกรรมสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยก็มีทั้ง รถเอทีวี และซิปไลน์