“มิวเซียมสยาม” พาชิม ช็อป แชะ เที่ยวย่านวัฒนธรรม ชวนชมงาน Cultural District เทศกาลศิลปะ เปิดเกาะรัตนโกสินทร์
เป็นเวลากว่า 200 ปีมาแล้ว ที่พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางเมืองหลวง ที่เป็นศูนย์กลางชาติสยาม จุดกำเนิดกรุงเทพมหานครเริ่มต้นที่ “เกาะรัตนโกสินทร์” พื้นที่มรดกทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอังทรงคุณค่าที่สำคัญของประเทศไทย เป็นแหล่งเริ่มต้นของวัฒนธรรมที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งยังมีแหล่งเรียนรู้หลากหลายรูปแบบให้ได้ศึกษา ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น พระราชวัง วัดวาอาราม อาคารราชการ โรงเรียน ตลอดจนสถานที่เก่าแก่สำคัญต่างๆ และแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเติบโตและขยายใหญ่ออกไปนอกเกาะรัตนโกสินทร์ แต่พื้นที่เมืองเก่าแห่งนี้ ก็ยังอบอวลไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ อันผสมผสานให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเสมอมา
และไม่ว่าจะคุ้นเคยกับเมืองเก่า หรือรู้จักแค่เพียงผิวเผิน “มิวเซียมสยาม” พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ภายใต้สถาบันพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ตระหนักถึงความสำคัญในการพลิกฟื้นประวัติศาสตร์ ภายในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ให้กลับมามีชีวิต ที่ครั้งนี้จะพาไปเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรม รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจจาก หนังสือ “รอบเกาะไกด์บุ๊ค” ที่มิวเซียมสยามจัดพิมพ์
เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ยามเริ่มต้นเที่ยวชมเกาะรัตนโกสินทร์ พื้นที่แหล่งรวมอาหารเลิศรสมากมายที่รอให้ทุกคนมาลิ้มลอง เราจะพบร้านเก่าแก่อายุหลายสิปปี จนไปถึงร้านเปิดใหม่ที่รสชาติยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เรียงรายเต็มไปหมด หากไม่ทราบว่าควรจะแวะร้านไหนบ้าง ไม่ต้องกลัวไปเพราะ มิวเซียมสยาม ได้คัดเลือกอาหารจานเด็ดที่ต้องมาชิมเวลามาเยือนพระนครแห่งนี้
ร้าน ออน ล๊อก หยุ่น
เริ่มต้นด้วยการย้อนเวลากลับไปจิบกาแฟ กินอาหารเช้าในบรรยากาศยุค 80 ปืที่แล้วกันแบบชิลๆ ที่ ร้าน ออน ล๊อก หยุ่น ที่มาถึงแล้วต้องลอง เมนูขนมปังชุบไช่ทอด ขนมปังเนื้อนุ่มห่อหุ้มด้วยไข่ทอดสีเหลืองสวย เพิ่มเติมรสชาติด้วยซอสสักนิด พร้อมซดน้ำชาหอมกรุ่นที่ทางร้านบริการฟรีปิดท้ายอีกหน่อย ประทับใจแน่นอน
ร้านกุ๊กสมเด็จ
ต่อกันด้วย ร้านกุ๊กสมเด็จ กับเมนู “พงศ์วารีทีละคำ” เมนูที่ไม่เพียงชื่อจะสะดุดหู แต่บอกเลยว่ารูปโฉมยังสะดุดตาอีกด้วย เพราะส่วนประกอบทำจากปลากะพงทอดหั่นเป็นชิ้น แล้วโรยด้วยใบคะน้าทอด แต้มด้วยครีมน้ำสลัดและมะนาว จากร้านโภชน์สภาคารร้านอาหารไทยดั้งเดิมอายุกว่า 80 ปี และทราบหรือไม่ว่าเจ้าของร้านในอดีตเป็นพ่อครัวประจำห้องเครื่อง ในวังของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์
ร้านเล็กๆ ในตึกแถวแพร่งภูธร
ปิดท้ายกันที่ “เกาเหลามันสมองหมู” เมนูของร้านเล็กๆ ในตึกแถวแพร่งภูธร เสิร์ฟเกาเหลารวมทุกอย่าง ที่เจ้าของร้านทำเองกับมือ ส่วนที่ขาดไม่ได้เลยคือมันสมองหมูที่ทำอย่างพิถีพิถัน น้ำซุปต้มกระดูกหมูรสชาติกล่มกล่อม เสิร์ฟพร้อมกุนเชียงหมู และตับเอาไว้แกล้ม เมื่ออิ่มท้องแล้ว ก็ถึงเวลาเดินย่อย ทราบหรือไม่ว่าร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ที่ซ่อนตัวอยู่ตามย่านต่างๆ ในเกาะรัตนโกสินทร์มีของสวยเก๋เฉพาะตัวทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นร้านเก่าแก่อายุหลายสิบปีที่ขายของคุณภาพดีมานาน หรือร้านใหม่ดีไซน์เก๋ที่เพิ่ง เข้ามาเติมเสน่ห์ให้พระนคร เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อมแล้วออกไปตะลุยหาของเก๋ๆ มาแต่งองค์ให้ครบเครื่องตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเถอะ
ร้าน The Trapeze Swingers Store
ร้านเสื้อผ้าวินเทจคัดสรรชั้นเยี่ยม บ้านไม้ 2 ชั้นสุดเท่ อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าวินเทจมือสองที่คัดสรรมาอย่างดี จุดเด่นของเสื้อผ้าในร้านจึงมีความหลากหลายไม่ซ้ำใคร ทั้งชุดกระโปรงวินเทจตัวสวย เสื้อยืดวินเทจรุ่นสะสม หรือกางเกงยีนส์ฟอกสีเท่ ๆ จะยุค 30 60 หรือ 90 ก็มีให้ค้นหาได้เป็นวันๆ ประกอบกับร้านยืนระยะมานานกว่า 14 ปี จึงรู้จักแหล่งของสินค้าเยอะ ทำให้มีของแรร์ไอเทมที่บางชิ้นหายากแสนยาก แต่คุณจะหาเจอได้ที่ร้านเล็กๆ แห่งนี้
Horselegmarking Shoes
หากใครชอบรองเท้าผ้าใบสวยๆ ต้องไม่พลาด Horselegmarking Shoes ร้านรองเท้าผ้าใบที่บอกเล่าเรื่องราววัมนธรรมไทยสุดเก๋ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถอีแต๋น หยิบลวดลายพื้นฐานที่รถทุกคันต้องมีทีมา ดีไซน์ใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น รวมไปถึงสีสันจัดจ้านหรือบรรยากาศท้องนายามเย็น ก็ถูกนำมาใส่ลงบนในรองเท้าแต่ละซีรีส์ ขั้นตอนการผลิตแบบแฮนด์เมดทำให้ไม่มีคู่ไหนเหมือนกัน แม้จะเป็นรองเท้าแบบเดียวกัน แต่ก็ให้คาแรกเตอร์ที่ต่างกันอย่างแน่นอน
ห้างไนติงเกล-โอลิมปิค
ห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของไทยที่ดำเนินกิจกรรมมาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ยังคงกลิ่นอายสมัยคุณตาคุณยายยังเป็นวัยรุ่นเอาไว้อย่างครบถ้วน ที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางค์สไตล์วินเทจมีไอเทมเด็ดอย่างสีผึ้งไนทิงเกล เนื้อลิปสีแดงแวววาวบรรจุอยู่ในตลับกะทัดรัด เป็นสินค้ายอดฮิตตลอดการ เพราะคุณภาพไม่เหมือนใครและหาไม่ได้ในห้างสรรพสินค้าทั่วไป ราคาก็สุดแสนจะน่ารัก แถมยังได้ถุงกระดาษเอกลักษณ์พิเศษกลับบ้านอีกด้วย
ท้องก็อิ่ม เดินย่อยก็แล้ว แต่เมื่อมาเยือนเกาะรัตนโกสินทร์ที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็จะเห็นตึกรามบ้านช่องเก่าแก่ที่ซ่อนรายละเอียดสถาปัตยกรรมของแต่ละยุคสมัยเอาไว้ บ้างนำศิลปะตะวันตกมาประยุกต์ บ้างรับวัฒนธรรมจากจีนมาปรับใช้ แต่น่าเสียหายหากถูกปล่อยทิ้งไว้ให้หงอยเหงา ฉะนั้นจึงขอชวนทุกคนออกมาตามรอยร้านคาเฟ่รีโนเวต ที่จะมาเลือกมานั่งดื่มกาแฟ จิบชา ชิมขนม และเพลิดเพลินไปกับการแวะถ่ายรูปชิค ๆ ตึกเก่าในพระนครที่ถูกปลุกให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งก็เก๋ไม่หยอก
ฮาเดียน คาเฟ่
ร้านคาเฟ่แสนสะดุดหูนี้ มีที่มาจากตำนานว่า ชาวเวียดนามอพยพตั้งชื่อถิ่นฐานใหม่ว่า ฮาเตียน จนเพี้ยนมาเป็นท่าเตียนในปัจจุบัน ตึกเก่าปี 2470 ได้ปรับปรุงเป็นคาเฟ่ 3 ชั้นที่สะท้อนถึงความเป็นท่าเตียนทุกตารางนิ้วของร้าน ซึ่งเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจที่เจ้าของร้านได้สะสมไว้ คาเฟ่แห่งนี้ใช้ผลไม้ดอกที่คนไทยคุ้นเคยมาเป็นส่วนผสมของเมนู เช่น กาแฟมะตูม เมนูที่กาแฟนมผสมกับไซรัปมะตูมอย่างลงตัวชิมแล้วต้องติดใจ
ร้าน ซี เมียว ตา เฟย Simiao Kate
ตั้งอยู่ข้างวัดราชบพิธฯ ตึกขนาด 2 คูหาทรงชิโนโคโลเนียล แม้ภายนอกจะยังดูดีเหมือนใหม่ แต่แท้จริงแล้วมีอายุกว่า 150 ปี ปัจจุบันอาคารก่ออิฐถือปูนยังเหมือนเดิม มีหน้าต่างสี่เหลี่ยมผนังฉาบเรียบและหลังคาโครงสร้างไม้มุงกระเบื้องว่าว เพิ่มเติมคือการตกแต่งร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์และลวดลายแบบจีน ที่สำคัญอย่าลืมชิม “ก๊กเฟย” กาแฟรสชาติจีนที่ผสม Black Honey และเก๊กฮวยลงไปด้วย
ร้าน Farm to Table
ในซอยเล็กๆ ย่านปากคลองตลาด เดินผ่านสวนหน้าบ้านเข้าไปจะพบประตูสู่ร้าน Farm Table, Hideout ตาเฟ่ที่สร้างสไตล์บ้านโบราณสมัยปลายรัชกาลที่ 5 ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ เพิ่มกิมมิกด้วยการนำตระกร้าขนผักมาใช้แทนลิ้นชัก และนำที่ตักไอศกรีมมาทำด้านจับประตู และเมนูของคาวหวานของที่นี่ล้วนทำจากผักออร์แกนิกทั้งสิ้น ทั้งสลัดผักจานใหญ่ ข้าวไก่อบซอสเสาวรส หรือไอศกรีมไข่เค็มกินกับบัวลอยเผือก อร่อยมาก เรียกได้ว่าอร่อยและยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจาก 200 กว่าแห่งในหนังสือ รอบเกาะไกด์บุ๊ค ที่แนะนำแหล่งเรียนรู้รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งทุกคนสามารถร่วมค้นหามนต์เสน่ห์ไปพร้อมกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ที่ยังคงรอให้ทุกคนไปสัมผัสพร้อมกัน ในงาน “Cultural District เทศกาลศิลปะ เปิดเกาะรัตนโกสินทร์” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 24 พฤศจิกายน 2562 ณ มิวเซียมสยาม ท่าเตียน กรุงเทพฯ และรอบเกาะรัตนโกสินทร์ พร้อมกันนี้หนังสือ รอบเกาะไกด์บุ๊ค ยังเปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีที่ www.museumthailand.com
โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-225-2777 ต่อ 410 หรือเข้าไปที่ www.museumsiam.org