TOP

ผลงานศิลป์มรดกทางประวัติศาสตร์โลกมูลค่าพันล้าน ให้คนไทยชมฟรี!

ชีวิตยิ่งกว่านิยายชายหนุ่มผู้โชคดีที่สุดในโลกนี้ “คุณจันทร์ เขียวโพธิ์” อดีตเด็กเสิร์ฟร้านอาหารถูกลิขิตให้กลายเป็นทายาทมรดกพันล้านและผู้ครอบครองผลงานศิลป์อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์โลก ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา สองสามีภรรยาชาวอเมริกัน “คุณเดวิด และ คุณวาเลอรี่ เดสเซล” เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย โชคชะตาฟ้าลิขิตให้ทั้งคู่มาพบกับ “คุณจันทร์” เมื่อครั้งที่คุณจันทร์เป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่ง ด้วยต้องชะตาเกิดความประทับใจในตัวคุณจันทร์จนถึงขั้นให้ที่อยู่ติดต่อต่างประเทศและเชื้อเชิญให้ไปท่องเที่ยว เมื่อคู่สามีภรรยาเดินทางกลับไปทั้งสองฝ่ายยังคงได้เขียนจดหมายถึงกันไปมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี และในอีก 2 ปีถัดมา “คุณจันทร์” ก็ได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยียนทั้งสองท่าน และกลับพบความจริงที่ว่าท่านทั้งสองเป็นระดับมหาเศรษฐีที่มีความเป็นอยู่ชีวิตหรูหราในคฤหาสห์หลังใหญ่ที่สุดในรัฐฮาวาย มีห้องพักมากมายถึง 44 ห้อง คุณเดวิดยังเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์และเป็นบุคคลสำคัญในกองทัพ แต่มีหัวใจรักในศิลปะและสรรหาสะสมผลงานศิลป์อันทรงคุณค่าระดับมาสเตอร์พีซชนิดที่หายากของศิลปินชื่อดังระดับโลก เรียกได้ว่าผลงานศิลป์มากมายรอบคฤหาสน์ราวกับพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ทุกชิ้นผลงานที่คุณเดวิดได้ถือครองนั้นไม่ธรรมดามีมูลค่ามหาศาลเกินประมาณค่า ที่มาพร้อมเรื่องราวอันเกี่ยวข้องกับแรงบันดาลใจในแต่ละยุคสมัย คุณจันทร์ได้มีโอกาสเดินทางไปๆ มาๆ สัมผัสกับจิตรกรรมชิ้นเอกจากรอบโลกอย่างใกล้ชิดมากกว่าใครตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ได้เดินทางไปกลับประเทศไทย – ฮาวายหลายครั้ง ความรักเอ็นดูในความซื่อตรงมีน้ำใจในตัวของคุณจันทร์ ทำให้สองสามีภรรยาออกปากต้องการรับคุณจันทร์เข้าสู่ครอบครัวอย่างเป็นทางการในฐานะ “ลูก” บุญหล่นทัพยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ในฐานะว่าที่ทายาทเพียงคนเดียวจะได้สืบทอดมรดกพันล้านอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยที่คุณเดวิดเผยพินัยกรรมตั้งแต่ครั้งยังมีชีวิตอยู่ และรวมไปถึงผลงานศิลปะอันประเมินมูลค่ามิได้นี้ด้วย ปัจจุบันนี้ผลงานศิลป์ทั้งหมดได้เดินทางจากรัฐฮาวายสู่ประเทศไทย ภายหลังจากที่คุณเดวิดและคุณวาเลอรี่ตัดสินใจขายคฤหาสน์และย้ายถิ่นฐานเลือก “จังหวัดบุรีรัมย์” เป็นแผ่นดินปั้นปลายชีวิตและให้คุณจันทร์ได้สานต่อเจตนารมณ์

“จงไปหาผู้นำทางให้มานำสิ่งเหล่านี้ไปสู่ในที่ควรอยู่ แล้วเจ้าจะหมดภาระของเจ้าเอง” เป็นประโยคที่คุณเดวิดพ่อบุญธรรมฝากไว้กับคุณจันทร์ก่อนท่านเสียชีวิต เมื่อย้อนคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขา “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องที่โชคชะตาถูกกำหนดมาแล้วต่างหาก” ผลงานทั้งภาพเขียน ภาพพิมพ์เก่าแก่อันทรงคุณค่าทุกชิ้น คือสมบัติทางประวัติศาสตร์โลกที่อยู่ในมือคนไทยและประเทศไทยเวลานี้ ที่เราลองนึกภาพว่าการได้ชมผลงานระดับนี้ต้องไปไกลถึงมิวเซี่ยมระดับโลกในต่างประเทศเท่านั้น นี่เป็นโอกาสสำคัญที่คนไทยไม่ควรพลาด! มันเป็นเรื่องอะเมซิ่งที่คุณจันทร์ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราว และเปิดโอกาสให้คนไทยได้เข้าชมผลงานศิลป์อย่างใกล้ชิดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย! อันเรียกได้ว่าเราคนไทยจะได้สัมผัสเต็มตากับสุดยอดจิตรกรรมภาพวาดหนึ่งเดียวในโลกผลงาน “ภาพวาดสีน้ำมัน มารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette) ในพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส” ผลงานโดยศิลปินจิตรกรชาวฝรั่งเศสชื่อดัง “ฌ็อง-บาติสต์-ซีเมอง ชาร์แด็ง” (Jean-Baptiste-Siméon Chardin) และอีกหลายผลงานศิลป์ของหลายศิลปินระดับตำนาน ก่อนที่ผลงานเหล่านี้จะออกเดินทางอีกครั้งไปยังสถานที่ต่างๆ รอบโลกด้วยการถูกประมูลออกไปเปลี่ยนมือผู้ถือครองในอีกไม่นานนี้ ด้วยเจตนารมณ์ที่คุณจันทร์มุ่งมั่นนำเงินที่ได้จากการนำภาพออกประมูล ส่งต่อให้ผู้ที่เห็นคุณค่างานศิลป์ได้ไว้ชื่นชม และบางชิ้นสู่พิพิธภัณฑ์เพื่อผลงานศิลป์ยังคงเล่าเรื่องราวแห่งประวัติศาตร์ต่อไป จำนวนเงินที่จะมีผู้ใจบุญประมูลงานศิลป์ คุณจันทร์จะนำไปเพื่อสาธารณประโยชน์ โรงเรียน ศูนย์เด็ก บำรุงพุทธศาสนา และนำมาทำการก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมด้วยมุ่งหวังให้ผู้คนค้นพบความสุขภายในตนเอง และคุณจันทร์มีความมุ่งมั่นตั้งใจจะบวชตลอดชีวิตหลังจากภาระกิจนี้ลุล่วง

 

ผลงานศิลปะที่นำมาจัดแสดง

ชื่อภาพ: มารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette) 

ฝีมือศิลปินจิตรกรชาวฝรั่งเศสชื่อดัง “ฌ็อง-บาติสต์-ซีเมอง ชาร์แด็ง” (Jean-Baptiste-Siméon Chardin) วาดภาพถูกวาดขึ้นนี้ในสมัยหลุยส์ที่ 15 พระองค์ทรงวางพระหฤทัยในทรงวาดภาพต่างๆในช่วงที่มีชีวิตอยู่ ซึ่งมีภาพต่างๆไม่เกิน 200 ภาพ และภาพนี้ได้ถูกวาดขึ้นเป็นหนึ่งใน 200 ภาพมีปรากฏหลักฐานชัดเจนเป็นลายเซ็นต์ของศิลปินทางด้านขวาของรูป ความโดดเด่นของภาพนี้อยู่ที่ดวงตาและรอยยิ้มอันงดงามของพระนาง ตามหลักฐานที่มีอยู่ในใบเซอร์ซึ่งได้มาจากการประมูลของร้าน Fine Art Gallery ที่ฮาวาย ภาพนี้มีอายุมากกว่า 200 ปี ซึ่งเมื่อย้อนไปในศตวรรษที่ 16-17 ศิลปินสมัยนั้นนิยมวาดเฉพาะขุนนางหรือเจ้านาย ผลงานชิ้นนี้มีมูลค่าการประเมินประมาณเกือบ 200 ล้านบาท

ชื่อภาพ: Classical Scene with Children Dancing

ภาพนี้เขียนโดยศิลปิน “นิโครัค ภูซิน” (Nicolas Poussin) และถูกตั้งชื่อภาพโดย Sotheby’s (ซัทเทบีส์) บริษัทจัดการประมูลที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ และเก่าแก่เป็นอันดับสามของโลก ภาพนี้มีอายุเก่าแก่มากกว่า 350 ปี และได้ถูกส่งไปพิสูจน์ยัง Old Master Picture ที่ New York โดยคุณเดวิดได้ร้องขอเมื่อ 10 ปีก่อน ความพิเศษของภาพนี้เป็น 1 ในจำนวน 3 ภาพที่ “ภูซิน” ได้เขียนไว้โดยการบอกเล่าของ Sotheby’s

ชื่อภาพ: Mystery of the Picture ปริศนาแห่งรูปภาพ ศิลปินเปลี่ยนใจ

โดยภาพนี้ยังไม่ปรากฏแน่ชัดวาดโดยศิลปินผู้ใด โดยกรอบรูปเดิมเป็นของศิลปินชาวอังกฤษ “Sir Thomas Lawrence” แต่ภาพกลับกลายเป็นของศิลปินชาวฝรั่งเศส โดยทางคุณจันทร์ได้ส่งภาพนี้ไปยัง Old Master Picture ที่ New York เพื่อตรวจสอบและได้รับการตอบกลับมาว่าไม่อาจเรียกภาพนี้เป็นของ Sir Thomas Lawrence ตามที่ได้บันทึกไว้ภาพของ Lady Harvey นั้นส่วนใหญ่อยู่กับลูกสาวของเธอ ดังนั้นภาพนี้อาจจะมีความสำคัญอย่างยิ่งจากร่องรอยการพิสูจน์ด้วยวิธีการต่างๆ จากฟิล์มเอ็กซเรย์ภายในภาพมีความแตกต่างจากภาพที่ดูด้วยตาเปล่า และฟิล์มถ่าย Negative ที่ถูกถ่ายด้วยคำแนะนำของ Sotheby’s เพื่อหาร่องรอยคาร์บอนในรูปภาพ ปรากฎว่าไม่พบร่องรอยของคาร์บอนในรูปภาพแต่อย่างใด ทำให้รู้ได้ว่าภาพนี้ออริจินอลไม่ใช่ภาพก็อปปี้แน่นอน และยังพิสูจน์ด้วยการหาเม็ดสีเพื่อเปรียบเทียบกับภาพของ Sir Thomas Lawrence ทำให้รู้ว่าเม็ดสีในภาพที่ใช้ไม่ตรงกับสีที่ Sir Thomas Lawrence ใช้และอาจมีความเก่าแก่กว่า แต่ยังคงเป็นภาพแห่งปริศนาต่อไป

 

นอกจากภาพที่เป็นไฮไลท์ทั้ง 3 ภาพที่กล่าวมา ภายในบริเวณโถงจัดแสดงยังได้สัมผัสผลงานศิลป์จากศิลปินมีชื่อเสียงระดับโลกที่มีความเก่าแก่อีกมากมาย อาทิ 4 ภาพวาดผลงานของ ศิลปินที่มีชื่อเสียงของกัมพูชา “Vann Nath” (วาน นาท) ภาพอันทรงคุณค่าที่มาพร้อมความรู้สึกอันเจ็บปวดที่ “วาน นาท” ถ่ายทอดลงบนภาพวาดถึงเรื่องราวความทรงจำอันสุดทรมาน จากการที่ตัว “วาน นาท” เองเคยติดคุกในยุคสงครามเขมรแดง ถูกจับไปขังทั้งที่ไม่มีความผิดใดๆ ความทรงจำอันแจ่มชัดไม่มีวันเลือนไปจากความทรงจำ แม้เขาจะรอดชีวิตออกมาจากคุกในวันหนึ่ง คุณเดวิดพ่อบุญธรรมได้เดินทางไปกรุงพนมเปญพร้อมคุณจันทร์เพื่อร้องขอให้ “วาน นาท” วาดภาพเขียนที่อยู่ในความทรงจำช่วงสงครามของเขา “วาน นาท” แม้จะปฎิเสธด้วยไม่ต้องการตอกย้ำความทรงจำอันเลวร้ายนั้น แต่ในที่สุดเขาก็เล่าเรื่องราวชีวิตอันมืดมนประวัติศาสตร์แผ่นดินเลือดที่ติดตรึงในความคำนึงของผู้ที่ผ่านเหตุการณ์อันเลวร้ายนั้นทุกคน สื่อผ่านภาพ 4 ภาพนี้ที่วาดขึ้นเฉพาะมอบให้เป็นประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำ ผลงานอันทรงคุณค่าระดับโลก ถือเป็นผลงานชุดสุดท้ายก่อนที่ “วาน นาท” จะลาจากโลกนี้ไปอย่างสงบ

 

รูปภาพพิมพ์ “ฮิโรชิเงะ” ผลงานของศิลปินเอกของญี่ปุ่นในช่วง คศ. 18 ซึ่งภาพพิมพ์ญี่ปุ่นให้อิทธิพลสูงมากกับลัทธิอิมเพรสชันนิสม์ในประวัติศาสตร์ อาทิ ศิลปิน Claude Monet ชาวฝรั่งเศสในยุคนั้น เป็นอีกผู้หนึ่งที่ชื่นชอบผลงานภาพพิมพ์ญี่ปุ่นของ “ฮิโรชิเงะ” สะสมเป็นคอลเลคชั่นส่วนตัวทั้งที่บ้านและสตูดิโอ ภาพพิมพ์อันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นปัจจุบันมีมูลค่าสูงมาก ได้มีการประมูลผลงานของฮิโรชิเงะ ล่าสุดถึง 5,000- 10,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งภาพพิมพ์ผลงาน “ฮิโรชิเงะ” ที่คุณจันทร์ได้ครอบครองนี้อยู่ในช่วง คศ.1818 – 1858

สามารถชมผลงานศิลป์ที่มีความเก่าแก่อายุเกินกว่า 300 ปี จากศิลปินระดับโลก ที่ “คุณจันทร์ เขียวโพธิ์” ทำการจัดแสดง

ณ เพนนินซูล่าพลาซ่า ชั้น 1 ถนนราชดำริ

ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน 2562 

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด