TOP

ทริปเรียนรู้วิถีไทยหัวใจชุมชน ย้อนรอยต่อของอดีตและปัจจุบัน ณ ตำบลบ้านแหลม

AROUND Online ร่วมออกเดินทางไปกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในกิจกรรม Thailand Village Academy Showcase ทริปท่องเที่ยวชุมชนวัฒนธรรมในภาคกลาง เปิดประสบการณ์ ตะลุยดินแดนมหัศจรรย์แห่งการเรียนรู้วัฒนธรรมไทยสาหรับเยาวชน ณ ชุมชนตาบลบ้านแหลม จ.สุพรรณบุรี

หากคุณอยากไปเห็นกับตาว่าบางปลาม้าและบ้านแหลมนั้นสวยงามขนาดไหน ถึงได้เป็นหนึ่งในชื่อที่สุนทรภู่ถึงกับต้องยกมาใส่ไว้ในบทนิราศ คุณคงต้องหาเวลามาที่นี้แล้วนั่งเรือชมสถานที่ประวัติศาสตร์อันสวยงาม ชมวิถีชีวิตของคนในชุมชน ดูสักครั้ง และเพลิดเพลินไปกับการนั่งรถอีแต๊กลุยทุ่งนาไปเก็บไข่เป็ดในยามเช้า หรือจะลองขี่ควายลุยโคลน และอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดคือการทำขวัญข้าว พร้อมทั้งยังได้เรียนรู้กับปราชญ์ชุมชนที่จะมาให้ความรู้และสอนทำอาหารคาวพื้นถิ่น และขนมไทยโบราณอันเรื่องชื่อของชุมชน

ชุมชนตำบลบ้านแหลม

ชุมชนโบราณสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ปลูกบ้านทรงไทยเรียงรายขนานกับแม่น้ำสุพรรณ ตลอดระยะทางประมาณ 7 กม. ซึ่งในอดีตมีความสำคัญเป็นเส้นทางทัพอังวะในสมัยโบราณ จนเรียกขานกันว่าบางพม่า และต่อมากลายเป็นบางปลาม้า ทำให้สถานที่เรื่องเล่าในตำนานให้ได้พูดต่อๆ กันมา

เมื่อ พ.ศ. 2374 กวีเอกของโลกสุนทรภู่ ได้นำเรื่องราววิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนชุมชนบ้านแหลม มาเขียนเป็นโคลงสี่สุภาพดังปรากฎในนิราศสุพรรณ ซึ่งปัจจุบันเรายังคงเห็นวิธีชีวิตเดิมอยู่ อีกประวัติศาสตร์นึงที่สำคัญคือชุมชนตำบลบ้านแหลม ยังเป็นเส้นทางเสด็จประพาสต้นครั้งแรก รัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2447

เดิมที่สมัยก่อนเรียกพื้นที่นี้ว่า บ้านดารา บ้านไผ่ตาพุด บ้านชีปะขาว แต่เมื่อมีการปรับเปลี่ยนการปกครอง เป็นแบบมณฑลสมัยรัชกาลที่ 6 ตั้งเป็นตำบล จึงเรียกพื้นที่นี้ว่า ชุมชนตำบลบ้านแหลม นับแต่นั้นมา

ปัจจุบัน ชาวบ้านชุมชนได้รวมกลุ่มจัดเป็นการท่องเที่ยวประเภทแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีและประวัติศาสตร์ของวิถีชีวิตริมน้ำสุพรรณ โดยใช้บ้านสวนแผ่นดินแม่ เป็นศูนย์กลางประสานงานบริการนักท่องเที่ยว มีโฮมสเตย์มาตรฐานไทย เรื่อบริการนำเที่ยว ร้านอาหาร จัดเป็นหนึ่งในสิบของโครงการ “Village to The World” และล่าสุดจัดเป็นหนึ่งใน 22 โครงการ Thailand Village Academy ดินแดนมหัศจรรย์แห่งการเรียนรู้วัฒนธรรมไทยสาหรับเยาวชน

1 วัน ณ ชุมชนตำบลบ้านแหลม

เมื่อเดินทางมาถึงชุมชน เราก็ได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านชุมชนด้วยบทเพลงและการเล่นโบราณอย่างกันอย่างอบอุ่นและสนุกสนาน พร้อมทำความรู้จักกับปราชญ์ชุมชน คุณโสภณ พันธุ ที่จะมาให้ความรู้และอยู่กับพวกเราในทุกๆ ที่ตลอด 1 วันเต็มๆ

หลังจากได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีแล้ว พวกเราและคณะก็ได้แบ่งกลุ่มและแยกออกไปตามฐานเรียนรู้ที่ชาวบ้านเตรียมใว้

กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ได้แก่ การตำน้ำพริกเผาโบราณ การทำขนมไทยโบราณ การทำธูปหอมสมุนไพรหลากหลายสีประจำวันเกิด ซึ่งแต่ละฐานจะมีชาวบ้านค่อยให้ความรู้และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำเองด้วย

หลังทำกิจกรรมช่วงเช้าเสร็จ ก็ได้เวลาอาหารกลางวัน ที่ชุมชนบ้านแหลมได้จัดเตรียมเมนูอาหารกลางวันทานกันบนเรือ ได้ชมบรรยากาศสองข้างริมคลองแม่น้ำสุพรรณ พร้อมทั้งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ย้อนรอยเยี่ยมชมพื้นที่ในตำนานนิราศสุพรรณ ท่านสุนทรภู่ และแวะไหว้พระหลวงพ่อสีแสง และรอยพระพุทธบาทวัดป่าพฤกษ์ และที่อื่นๆ เสร็จจากล่องเรือ อิ่มหน่ำสำราญกับอาหารสุดเลิศรส พวกเราก็ไปต่อกับฐานกิจกรรมการเรียนรู้อาชีพเสริมของชาวบ้าน  ที่นี้เราได้เรียนรู้การเก็บผักตบชวา และจักสานปลาตะเพียนจากผักตบชวา เรียนรู้วิธีการทำไข่เค็มสูตรเด็ด

ช่วงเย็นเราก็ได้มีโอกาสนั่งรถอีแต๊กชมไร่นาสวนผสม และที่พิเศษสุดคือการได้ลุยน้ำเก็บผักตบชวา และสายบัวมาทำอาหารเย็น ซึ่งเราได้เรียนรู้การนำเอาวัตถุดิบในชุมชนมาปรุงอาหาร โดยมีเชฟชาวบ้านมาสอนเราทำอาหารด้วย! ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการรับประทานอาหารจากผีมือชาวบ้านหรือผีมือตัวเองเอง นั่งชมบรรยากาศเย็นๆ ริมท้องนา และบึง พูดคุยและรับฟังชาวบ้านเล่าถึงวิถีชีวิตแบบชุมชน

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

วัดสำปะซิว

สร้างเมื่อปีพุทธศักราช ๑๘๕๗ ยุคสมัยประวัติศาสตร์ ( อยุธยาตอนต้น) ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อพุทธศักราช ๑๘๖๐ เนื้อที่ประมาณ ๒๐ ไร่เศษ ภายในวัดสำปะซิว ยังมีการขุดพบแหล่งโบราณคดี เป็นแหล่งที่ตั้งเตาเผาภาชนะดินเผา ( ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา ) ซึ่งเตาเผาอิฐเป็นแบบระบายความร้อนผ่านเฉียงขึ้น ซึ่งสามารถ เผาภาชนะดินเผาเนื้อแกร่งแบบเคลือบและแบบไม่เคลือบได้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนทั้ง๒ ฝั่งเพราะสะดวก ในการขนส่งวัตถุดิบต่างๆทางเรือนับว่าเป็นสินค้าส่งออกลักษณะของดิน เกิดจากวัตถุต้นกำเนิดดินที่ถูกการเคลื่อนย้ายพัดพามา จึงทำให้ดินมีคุณภาพดีเหมาะ สำหรับในการทำภาชนะดินเผาเคยขุดค้นพบเศษเครื่องสังคโลกและเครื่องถ้วยจีนซึ่งนำมา เป็นตัวอย่าง ในการผลิตประเภทถ้วยชามส่วนหม้อไหมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นาเฮียใช้

สร้างขึ้นจากความจงรักภักดีและสำนึกในคุณงามความดีของในหลวง พระมหากษัตริย์ที่ทรงงานอย่างหนักเพื่อประชาชนคนไทย ก่อตั้งโดย คุณนิทัศน์ เจริญ ธรรมรักษา ที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับชาวนาและข้าว ใช้ชีวิตภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้เพียงพอต่อความต้องการของ เกษตรกร พร้อมเล็งเห็นความสำคัญของการให้ความรู้และการทำนาอย่างถูกวิธี ซึ่งจะมี ประโยชน์แก่ส่วนรวมและสมาชิกของสมาคม ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ให้บุคคลทั่วไปที่ เห็นความสำคัญของข้าวและชาวนา อีกทั้งยังเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยว ให้ผู้สนใจได้เข้าชม ซึ่งแต่ละโซนจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและความรู้ เกี่ยวกับโซนต่าง ๆ อีกด้วย

ผอ. อภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อานวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “จากการจัดทริปพา เยาวชน สื่อและ บล็อกเกอร์ ร่วมเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยววัฒนธรรมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก เพราะนอกจากที่ทุกคนได้เรียนรู้วิถีชีวิตผ่านกิจกรรมชุมชนอย่างสนุกสนานแล้ว ยังได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้งที่ถูกถ่ายทอดจาก Local Masters ปราชญ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชุมชน และเพื่อเป็นการต่อยอดในการส่งเสริมการตลาดอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ททท. ภาคกลาง ร่วมกับทางโครงการฯ ได้มีกาหนด จัดกิจกรรม Thailand Village Academy Showcase อย่างต่อเนื่อง โดย เชิญ บริษัททัวร์ท่องเที่ยวเยาวชน,สถาบันการศึกษานานาชาติ ตัวแทนขายท่องเที่ยวออนไลน์ สื่อและบล็อกเกอร์ ให้มาร่วมกิจกรรมทริปต้นแบบท่องเที่ยววัฒนธรรมสาหรับเยาวชนต่างชาติ ชุมชนตาบลบ้านแหลม จ.สุพรรณบุรี วันที่ 17 -18 กันยายน 2562 เยาวชนที่มานี่จะได้เรียนรู้วิถีชีวิต ภูมิปัญญาของชุมชน เช่น เรียนรู้วิถีชีวิตริมน้าของชุมชน เรียนรู้การทาขนมเจ้าบ้านเจ้าเรือน ขนมไทยโบราณ เรียนรู้การทาน้าพริกเผาโบราณพื้นถิ่น และ ได้เรียนรู้การสานปลาตะเพียนด้วยผักตบชวา เป็นต้น”

หากคุณอยากไปเห็นกับตาว่าบางปลาม้าและบ้านแหลมนั้นสวยงามขนาดไหน ถึงได้เป็นหนึ่งในชื่อที่สุนทรภู่ถึงกับต้องยกมาใส่ไว้ในบทนิราศ คุณคงต้องหาเวลามาที่นี้แล้วนั่งเรือชมสถานที่ประวัติศาสตร์อันสวยงาม ชมวิถีชีวิตของคนในชุมชน ดูสักครั้ง และเพลิดเพลินไปกับการนั่งรถอีแต๊กลุยทุ่งนาไปเก็บไข่เป็ดในยามเช้า หรือจะลองขี่ควายลุยโคลน และอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดคือการทำขวัญข้าว พร้อมทั้งยังได้เรียนรู้กับปราชญ์ชุมชนที่จะมาให้ความรู้และสอนทำอาหารคาวพื้นถิ่น และขนมไทยโบราณอันเรื่องชื่อของชุมชน

ภาพ: Mo Sneaker และ Piti Plug

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด