ภายหลังจาก กรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินหน้าปรับปรุงพื้นที่และภูมิทัศน์ในกรุงเทพฯ ทำให้หลายพื้นที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ประชาชนได้ไปพักผ่อนหย่อนใจ ดูแลสุขภาพ ชื่นชมศิลปวัฒนธรรม รวมถึงเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ซึ่งพื้นที่เป้าหมายต่อไปคือ เขตบางขุนเทียน โดย กทม. มีนโยบายเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เชื่อมต่อการท่องเที่ยวทางน้ำ

จากฝั่งธนบุรี ถึงปากอ่าวบางขุนเทียน

จากแผนพัฒนาของ กทม. ที่เล็งเห็นศักยภาพการท่องเที่ยวทางน้ำ ที่สามารถเริ่มต้นจากคลองประวัติศาสตร์ฝั่งธนบุรี และไปสิ้นสุดการเดินทางที่ทะเลบางขุนเทียน ตลอดเส้นทางจะรายล้อมไปด้วยบรรยากาศที่แตกต่างของแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีเส้นทางการเดินเรือดังนี้ จุดเริ่มต้นจาก ท่าเรือยอดพิมาน บริเวณปากคลองตลาด หรือท่าเรือวัดกัลยา จากนั้นเรือจะมาจอดที่ ตลาดพลู ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้แวะซื้อของกิน ของใช้ ของที่ระลึก จุดนี้ ยังมีวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ให้เดินชมความงดงามมากมาย เมื่อกลับมาลงเรืออีกครั้งจะเดินทางผ่านย่านกลางเมืองไปสู่ความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ตลอดสองฝั่งจะได้ชมบ้านเรือนและวิถีชีวิตริมน้ำ เมื่อพ้น เขตธนบุรี และเข้า เขตบางขุนเทียน ภูมิประเทศจะเปลี่ยนสู่ความเขียวขจีของป่าชายเลน ท้ายสุดคือ ทะเลอ่าวไทย ที่เป็นจุดหมายการเดินทาง

-🌳-

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

สู่เส้นทางการท่องเที่ยวในอนาคต

เส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำจาก “ฝั่งธนบุรี” สู่ “ทะเลบางขุนเทียน” จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดแรงสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่ง นายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยถึงความร่วมมือที่เกิดขึ้นว่า “อย่างแรกคือประชาชนที่อาศัยอยู่ในแต่ละพื้นที่ตามเส้นทางท่องเที่ยวนี้ เราต้องรับฟังความคิดเห็นของเขาอย่างเต็มที่ และที่สำคัญยิ่งกว่าคือความร่วมมือที่จะร่วมกันพัฒนา พยายามสร้างจุดเด่นของชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อดึงดูดความสนใจในแง่การท่องเที่ยว พร้อมๆ กับช่วยกันดูแลคลองที่เปรียบเสมือนบ้านของเขาให้สะอาดเสมอ สำหรับภาคธุรกิจ เราได้เชิญสมาคมผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยามาร่วมล่องเรือ และหารือกันถึงธุรกิจที่จะเกิดขึ้น โดยช่วยกันพิจารณาว่าตรงไหนที่ควรจะพัฒนา ซึ่งการที่ได้มาสัมผัสบรรยากาศและพื้นที่จริง จะทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น และที่ขาดไม่ได้คือ พลังจากหลากหลายองค์กรที่จะส่งให้การท่องเที่ยวเกิดความยั่งยืน เช่น กลุ่มปั้นเมือง รวมไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่จากสถาบันการศึกษาต่างๆ ซึ่งพวกเขาจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างเมือง ในรูปแบบที่เขาต้องการจะอยู่และใช้ชีวิตในอนาคต เช่น นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยศึกษาและเก็บข้อมูลในระดับชุมชน โดยเราจะจัดตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานย่อย เพื่อทำงานในแต่ละพื้นที่ หลังจากนั้น จะนำข้อมูลและการออกแบบต่างๆ มาปรับใช้ สุดท้ายจะเกิดการผสมผสานระหว่างของเก่ากับของใหม่อย่างลงตัว และเห็นแนวทางการพัฒนาที่ชัดเจนต่อไป”

-🌳-

เติมสีสันปลุก “สวนบวรประชานันท์” ให้กลับมามีชีวิต

สำหรับการเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวให้กับเมืองชายทะเลแห่งนี้ ในภาพกว้างเขตบางขุนเทียน ได้เล็งเห็นถึงรากฐานสำคัญ นั่นคือคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนท้องถิ่น จึงได้เริ่มต้นโครงการปรับปรุง สวนบวรประชานันท์ สวนสาธารณะเก่าแก่ที่ตั้งชื่อตามนายอำเภอคนแรกของบางขุนเทียนคือ ขุนบวรประชานันท์ จากที่เคยอยู่ในสภาพทรุดโทรม ปัจจุบันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยนอกจากต้นไม้ที่เพิ่มพื้นที่สีเขียวแล้ว ยังมีการเติมสีสันตามทางเดินกลางบึงด้วยสีรุ้งสดใส ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการประชาชน และได้รับผลตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี

-🌳-

เส้นทางเดิน – วิ่ง และปั่นจักรยาน

ริม “คลองเฉลิมชัยพัฒนา”

นอกจาก กทม. โดยสำนักงานเขตบางขุนเทียน ได้พัฒนาสวนสาธารณะดั้งเดิม ให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนแล้ว บริเวณด้านหลังสวนที่ติดกับริม คลองเฉลิมชัยพัฒนา ได้มีการสร้างเส้นทางเดิน – วิ่ง และปั่นจักรยาน ความยาว 700 เมตร โดยเริ่มจาก สวนบวรประชานันท์ ไปสิ้นสุดที่ วัดหัวกระบือ ซึ่งผู้ที่เดินทางมาออกกำลังกาย จะได้บรรยากาศธรรมชาติของคลองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ภายในพื้นที่ของกรุงเทพฯ นี้เอง

-🌳-

จากคลองประวัติศาสตร์
สู่แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของบางขุนเทียน

เมื่อพัฒนาปรับปรุงสวนสาธารณะแห่งเดียวของบางขุนเทียนเรียบร้อยแล้ว ต่อไปคือ การสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ นั่นคือ กลุ่มเกาะสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพฯ พร้อมกับการเชื่อมต่อสถานที่สำคัญริมคลอง ในพื้นที่เขตบางขุนเทียนไปจนถึงชายทะเล ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ทั้งการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้เกิดรายได้ในชุมชน โดย นายพลเฉลิมศรมณี ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน ได้บอกเล่าถึงภาพรวมในการทำงานครั้งสำคัญนี้ว่า “ก่อนจะพูดถึงแลนด์มาร์กแห่งใหม่ คงต้องเล่าย้อนถึงประวัติความเป็นมาของ คลองเฉลิมชัยพัฒนา ซึ่งเดิมมีชื่อว่า คลองหัวกระบือ ย้อนเวลากลับไปคลองแห่งนี้มีความคดเคี้ยวมาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริให้ขุดคลองเป็นเส้นตรง เพื่อให้เกิดเป็นเส้นทางเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม ผลพลอยได้จากการขุดคลองนั้น ทำให้เกิดเกาะกลางน้ำหลายเกาะ ซึ่งปัจจุบัน กทม. มีโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวของเขตบางขุนเทียน เราจึงมีแนวคิดที่จะทำให้เกาะเหล่านี้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ เป็นสวนสาธารณะที่มีลักษณะเป็นกลุ่มเกาะแห่งแรกของกรุงเทพฯ ซึ่งที่ตั้งคือ ฝั่งตรงข้ามของด้านหลังสวนบวรประชานันท์ โดยเราจะสร้างสะพานข้ามไปที่เกาะ พร้อมๆ กับสร้างสะพานเชื่อมระหว่างเกาะ ด้วย ที่กล่าวไปข้างต้นคือเฉพาะแลนด์มาร์ก แต่หากพูดถึงเส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำทั้งหมดของเขตบางขุนเทียน ที่กำลังดำเนินการอยู่ จะเริ่มต้นนับตั้งแต่ อนุสาวรีย์คุณกะลา ซึ่งเป็นอดีตลิงทรงเลี้ยงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งปัจจุบันลูกหลานของคุณกะลา ยังคงอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ประมาณ 300 ตัว เมื่อล่องเรือต่อมา

จะผ่าน สวนบวรประชานันท์, วัดหัวกระบือ, วัดหลวงพ่อเต่า หลักเขตที่ 28 ที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างกรุงเทพฯ กับสมุทรปราการ ต่อเนื่องไปถึงหลักเขตที่ 29 เส้นแบ่งระหว่างกรุงเทพฯ กับสมุทรสาคร จากนั้นล่องเรือกลับมาที่ สะพานรักษ์ทะเล ผ่าน คลองพิทยาลงกรณ์ และ จุดสุดท้ายคือ โครงการปลูกป่าชายเลน ทั้งหมดคือเส้นทางล่องเรือในเขตบางขุนเทียนของเรา”

-🌳-

ที่มา: BANGKOK NEWS (กทม.สาร) Issue 277