One Day Trip ล่องเรือไฟฟ้าคลองแสนแสบ ไหว้พระ บูชาเทพ เที่ยวตลาดน้ำ ชมตลาดเก่า

One Day Trip ล่องเรือไฟฟ้าคลองแสนแสบ ไหว้พระ บูชาเทพ เที่ยวตลาดน้ำ ชมตลาดเก่า

May 26, 2022

2.01k

หลังจากที่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมคลองแสนแสบ และพัฒนาคุณภาพน้ำในคลองให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเปิดให้บริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (ส่วนต่อขยายท่าเรือวัดศรีบุญเรือง – สำนักงานเขตมีนบุรี) จากคลองสายหลักเพื่อการสัญจร ปัจจุบันคนกรุงเทพ ฯ เริ่มมองเห็นมุมใหม่ของคลองแสนแสบ นั่นคือ เส้นทางการท่องเที่ยวแบบ One Day Trip

ปักหมุดเที่ยวคลองแสนแสบ

สำหรับใครที่กำลังวางแผนการท่องเที่ยวในช่วงหน้าร้อนนี้ และอยากเห็นกรุงเทพฯ ในมุมมองที่เปลี่ยนไป แนะนำให้ลองเดินทางด้วยเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าคลองแสนแสบ ปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียงรายอยู่ตลอดสองฝั่งคลอง โดยเริ่มต้นทริปจาก วัดบำเพ็ญเหนือ และ วัดบางเพ็งใต้ แล้วไปปิดทริปที่ ตลาดเก่ามีนบุรี

วัดบำเพ็ญเหนือ / วัดบางเพ็งใต้

เริ่มปักหมุดกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างวัดบำเพ็ญเหนือ วัดบางเพ็งใต้ โดยวัดทั้งสองแห่งเชื่อมการเดินทางระหว่างกันด้วยสะพานข้ามฟากสำหรับความน่าสนใจของวัดบำเพ็ญเหนือ คือมีศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง และโรงเก็บเรือโบราณให้เยี่ยมชม ส่วนฝั่งวัดบางเพ็งใต้ เป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อดำ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัด ซึ่งประชาชนนิยมมากราบไหว้ขอพร

พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี

อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด คือ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรีที่ตั้งอยู่ในบริเวณอาคารศาลากลางจังหวัดมีนบุรีหลังเก่า ซึ่งเคยมีฐานะเป็นจังหวัดหนึ่งของไทย ก่อนจะถูกรวมไว้กับกรุงเทพฯ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตริมคลองแสนแสบของชาวมีนบุรีในอดีต พร้อมบอกเล่าเรื่องราวผ่านส่วนจัดแสดง 5 ส่วน ได้แก่ (1) หอจดหมายเหตุ (2) หอเกียรติยศ (3) ศิลปกรรม วัฒนธรรม (4) การเมือง การปกครอง และ (5) ศาสนา

วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร มีนบุรี

สำหรับผู้ที่มีความเชื่อและศรัทธาในพระโพธิสัตว์กวนอิม ต้องไปเยือนวิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร มีนบุรี นอกจากเป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานพร ที่มีชื่อเสียงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ผู้มาเยือนยังได้ชมสถาปัตยกรรมของวิหารจีน เสามังกร และภาพวาดฝาผนังรูปเทพและเซียนอันงดงาม เช็กอินถ่ายรูปได้ในวันพักผ่อนหย่อนใจ

ตลาดเก่ามีนบุรี

ปิดท้ายทริปด้วยการย้อนอดีตย่านการค้าสำคัญของมีนบุรี ผ่านการเที่ยวชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของตลาดเก่ามีนบุรีหรือชุมชนมีนบุรีอุปถัมภ์ ที่มีห้องแถวโบราณกว่า 200 ห้องเรียงรายต่อเนื่อง โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ด้วยเอกลักษณ์ในการใช้วัสดุและการก่อสร้างที่แตกต่าง กลุ่มแรกเน้นใช้อิฐมวลแดง กลุ่มที่สองเป็นอาคารที่สร้างด้วยปูน และกลุ่มสุดท้ายโดดเด่นด้วยการใช้ไม้เป็นหลัก นอกจากนี้ ในบริเวณเดียวกันยังเป็นสถานที่ตั้งของศาลเจ้าเจียวตี่เหล่าเอี๊ยหรือศาลเจ้าพ่อมีนบุรี อีกหนึ่งศูนย์รวมจิตใจของชาวมีนบุรีเชื้อสายจีน ที่อยู่คู่กับชุมชนมานานกว่า 80 ปี

“ย่านริมคลอง” แผนพัฒนาของ กทม. อย่างต่อเนื่อง

นอกจากคลองแสนแสบที่ได้รับการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นคลองสายหนึ่งที่เริ่มเห็นแง่มุมของการท่องเที่ยวชัดเจนยิ่งขึ้น กทม. ยังคงเดินหน้าปรับภูมิทัศน์พื้นที่ริมคลองและพัฒนาคุณภาพน้ำ เพื่อสร้างคลองสวย น้ำใสทั่วทั้งเมืองหลวง ซึ่งแผนพัฒนาต่อไปในปี 2565 นี้

กทม. มีย่านริมคลองที่เป็นเป้าหมายในการพัฒนา ได้แก่

ย่านวังเดิม : คลองบางหลวง (คลองบางกอกใหญ่) และคลองชักพระ ในเขตบางกอกใหญ่ เขตภาษีเจริญ เขตตลิ่งชัน และเขตบางกอกน้อย

ย่านวัดกำแพง : คลองบางหลวง (คลองบางกอกใหญ่) และคลองภาษีเจริญ ในเขตบางกอกใหญ่ เขตภาษีเจริญ เขตตลิ่งชัน เขตบางแค และเขตหนองแขม

ย่านตลาดพลู : คลองบางหลวง (คลองบางกอกใหญ่) คลองชักพระ และคลองด่าน ในเขตบางกอกใหญ่ เขตภาษีเจริญ เขตตลิ่งชัน เขตบางกอกน้อย และเขตจอมทอง

ย่านคลองผดุงกรุงเกษม : คลองคูเมืองเดิม คลองรอบกรุง (คลองโอ่งอ่าง – คลองบางลำภู) คลองผดุงกรุงเกษม และคลองมหานาคในเขตพระนคร เขตสัมพันธวงศ์ และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

ย่านช่องนนทรี : คลองช่องนนทรี ในเขตบางรัก เขตยานนาวา และเขตสาทร

ย่านหัวตะเข้ : คลองประเวศบุรีรมย์ ในเขตลาดกระบัง

การพัฒนาย่านริมคลองได้รับความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานในสังกัด กทม. และหน่วยงานภายนอกที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของคลองทุกสายในกรุงเทพฯ ด้วยประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากทุกพื้นที่ริมคลอง ได้รับการพัฒนาจนเสร็จสิ้นตามแผนพัฒนาที่ไม่เพียงเกิดประโยชน์ทางด้านภูมิทัศน์เท่านั้น หากยังสร้างศักยภาพด้านอื่น ๆ ทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน กระตุ้นการท่องเที่ยว รวมไปถึงการปูทางสู่การเป็นมหานครระดับโลกของกรุงเทพฯ ซึ่งเห็นตัวอย่างได้จากหลายประเทศที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองหลวงได้สำเร็จ โดยมีการพัฒนาคลองเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ “เพราะเปลี่ยนคลองเท่ากับเปลี่ยนอนาคตของเมือง”