กทม. วางแผนรองรับด้านการศึกษา และสำรวจความพร้อมการเรียนการสอนออนไลน์
หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ยังคงมีระยะยาวต่อเนื่องไปอีก ทางสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร เตรียมวางแผนรองรับด้านการศึกษา และทำการสำรวจเตรียมความพร้อมในการเรียนออนไลน์ ทั้งความพร้อมของครู นักเรียน และผู้ปกครอง รวมถึงสำรวจความพร้อมของอุปกรณ์และเทคโนโลยี การจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานคร
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เล่าถึงแผนรองรับด้านการศึกษาในครั้งนี้
กทม. ปรับแผนการศึกษาหลังมติ ครม.เลื่อนเปิดภาคเรียน
“ตามที่มติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้เลื่อนวันเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 นั้น กรุงเทพมหานครโดยสำนักการศึกษา ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับการเลื่อนเปิดภาคเรียน ไว้ดังนี้ “สำนักการศึกษาดำเนินการรวบรวมแหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้สำหรับให้ครูและนักเรียน ใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนการสอน จัดทำวิดีโอการสอนของครูสอนเก่ง เพื่อเผยแพร่บนเว็บไซต์ และช่องทางออนไลน์ต่างๆ ประสานขอความร่วมมือในการสนับสนุนช่องทาง และพื้นที่ในการอัพโหลดวิดีโอ และเผยแพร่สื่อออนไลน์จากผู้ให้บริการ เช่น CAT ฯลฯ ตลอดจนส่งเสริมและให้ความรู้ครู ที่ขาดทักษะการจัดทำสื่อ และการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ สำหรับสถานศึกษาและครูผู้สอน ได้ดำเนินการสำรวจความพร้อมในการเรียนออนไลน์ จัดทำฐานข้อมูลของกลุ่มผู้เรียน ที่มีความพร้อมในการเรียนออนไลน์ และกลุ่มที่ไม่พร้อม รวมถึงจัดทำสื่อการเรียนรู้ให้ครอบคลุมสำหรับผู้เรียนทั้งสองกลุ่ม จากนั้นดำเนินการทดสอบความพร้อม ของระบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ทั้งระบบ อย่างน้อย 1 ห้องเรียน ทั้งนี้ ให้โรงเรียนจัดเตรียมช่องทางในการสื่อสาร กับผู้เรียนและผู้ปกครองให้ชัดเจน เพื่อชี้แจงและประชาสัมพันธ์การดำเนินการจัดการเรียนการสอน ให้ได้รับทราบและเข้าใจตรงกัน ส่วนผู้ปกครองและนักเรียนที่ยังไม่พร้อมในการเรียนการสอนออนไลน์ สำนักการศึกษาได้มีแนวทางรองรับ โดยจะจัดการเรียนการสอนผ่านทีวีดิจิทัล และจัดทำคู่มือการเรียนให้นักเรียนอีกทางหนึ่ง”
วางแผนให้สอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้
“มีการจัดกลุ่มผู้เรียนเป็น 3 ระดับ และวางแผนการเรียนการสอนออนไลน์ ให้สอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ คือ ปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ซึ่งผู้เรียนทั้ง 3 ระดับ จะมีรูปแบบการเรียนรู้ต่างกัน โดยระดับมัธยมศึกษาจะเป็นกลุ่มที่นำการสอนแบบออนไลน์ มาใช้ในสัดส่วนที่มากกว่าชั้นประถมศึกษา ส่วนปฐมวัยนั้นจะไม่เน้นการเรียนรู้ออนไลน์ สำหรับในรายวิชาที่เป็นวิชาปฏิบัติ หรือต้องมีกิจกรรมการเรียนรู้แบบปฏิสัมพันธ์ ให้ปรับการเรียนการสอนเป็นแบบ Project-based หรือ Research-based โดยมอบหมายงานผ่านช่องทางออนไลน์ ตลอดจนให้ประเมินผลผู้เรียนเป็นระยะๆ โดยป้อนข้อมูลกลับผ่านช่องทางออนไลน์”
แม้เรียนออนไลน์ ทั้งครูและนักเรียนยังคงมีปฏิสัมพันธ์กันได้
“เมื่อมีฐานข้อมูลทั้งกลุ่มที่พร้อม และไม่พร้อมเรียนออนไลน์ กทม. จะดำเนินการจัดการเรียนการสอนสำหรับผู้เรียนแต่ละกลุ่มไว้อย่างชัดเจน สำหรับกลุ่มผู้เรียนที่พร้อมเรียนออนไลน์ จะสอนสดผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งครูสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนได้ ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Microsoft Team, Google Classroom, Zoom และ Facebook Live เป็นต้น โดยครูผู้สอนจัดหาสื่อออนไลน์ เพื่อให้นักเรียนได้ใช้เรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถทบทวนบทเรียนได้ตลอดเวลา สำหรับกลุ่มผู้เรียนที่ไม่พร้อมเรียนออนไลน์ ครูผู้สอนจะจัดทำคู่มือการเรียนรู้ด้วยตนเอง หรือเอกสารการเรียนรู้ต่างๆ เช่น ใบงาน แบบฝึกหัดจัดส่งให้นักเรียนและผู้ปกครอง”
กรอบระยะเวลาใหม่ ของภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563
ระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคม พ.ศ. 2563
– รับสมัครนักเรียนในระบบออนไลน์
เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563
– สอบคัดเลือก จับฉลาก ประกาศผล รายงานตัว และมอบตัว
* * * * * * * * * *
เรื่องโดย : อโนชา ทองชัย
ที่มา : ฺBKK NEWS issue 269 | กรุงเทพมหานคร