กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินงานด้านการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจกรุงเทพฯ ทุกพื้นที่ รวมไปถึงการพัฒนาคลองต่าง ๆ ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โดย กทม. ได้เร่งปรับภูมิทัศน์คลองให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม สำหรับปักหมุดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งคลองแต่ละแห่งล้วนมีจุดเด่นของตัวเองที่ตอบสนองความสนใจของผู้คน และนี่คือ 4 คลองย่านสร้างสรรค์ที่อยากให้ไปเที่ยวชมกัน

ล่อง ‘คลองประเวศบุรีรมย์’
ชมตลาดโบราณริมคลองขนานแท้

“คลองประเวศบุรีรมย์” ถูกขุดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยที่ผ่านมา คลองแห่งนี้มีบทบาทเป็นคลองส่งน้ำไปสู่ชุมชน และเป็นเส้นทางระบายน้ำออกสู่แม่น้ำและทะเลเท่านั้น แต่ปัจจุบัน วิถีชุมชนริมน้ำเปลี่ยนไป มีการร่วมกันฟื้นวิถีชีวิตทางน้ำที่มีอัตลักษณ์ของชาวชุมชนให้กลับมา พร้อมกับ กทม.รณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนไม่ทิ้งขยะลงคูคลอง เพื่ออนุรักษ์และรักษาแม่น้ำคูคลองให้คงอยู่ตลอดไป ทำให้สามารถพัฒนาคลองประเวศบุรีรมย์เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชาวชุมชนด้วย โดยประเพณีสำคัญของที่นี่ในทุกฤดูน้ำหลากหรือประมาณเดือนสิบของทุกปี คือ “ประเพณีแข่งเรือคลองประเวศบุรีรมย์” ซึ่ง กทม. ร่วมกับคณะกรรมการบริหารและพัฒนาท้องถิ่นเขตประเวศ และวัดกระทุ่มเสือปลาพลิกฟื้นประเพณีท้องถิ่นเพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเห็นคุณค่า และช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ วิถีชีวิตชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่เป็นมรดกแก่คนรุ่นหลัง นอกจากนี้ หากล่องเรือไปตามคลอง จะพบตลาดน้ำตามหัวคลองต่าง ๆ ในบรรยากาศตลาดโบราณริมคลองขนานแท้ ที่ยังคงความสวยงามของสถาปัตยกรรมเรือนแถวไม้ริมน้ำไว้อย่างน่าชื่นชม

ท่องเที่ยวเชิงเกษตรริม ‘คลองบางมด’

“คลองบางมด” เป็นคลองอีกแห่งที่เต็มไปด้วยความงดงามธรรมชาติ สงบร่มรื่นทั้งสองฝั่งคลอง โดดเด่นด้วยวิถีชีวิตเกษตรกรที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร และสัมผัสความงามของพหุวัฒนธรรมที่ผู้คนต่างความเชื่อทางศาสนา แต่มาอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น และร่วมแรงร่วมใจรักษาความสะอาดคลองแห่งนี้ โดย กทม. ช่วยติดตั้งบ่อดักไขมันก่อนปล่อยทิ้งลงสู่แหล่งน้ำ เป็นอีกย่านสร้างสรรค์ของกรุงเทพฯ ที่อยากให้มาเที่ยวชม เมื่ออดีตชาวคลองบางมดเคยหันหลังให้คลอง กระทั่ง กทม. เข้ามาช่วยฟื้นฟูกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่นักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย สามารถเที่ยวและทำกิจกรรมร่วมกันได้ ไม่ว่าจะไปแวะชิมส้มบางมด ส้มเขียวหวานขึ้นชื่อย่านบางมด ที่ยังคงเป็นที่ติดอกติดใจของผู้คน รวมถึงมะพร้าวน้ำหอมสด ๆ จากสวนชาวบ้าน โดยเฉพาะสวนลุงวิชัยที่กลายเป็นแหล่งผลิตมะพร้าวน้ำหอมที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ส่วนสายช้อป ชิม แชะ ยังสามารถไปแวะตลาดมดตะนอย ที่เต็มไปด้วยของอร่อยกินง่าย กินเพลิน เดินสนุก รวมถึงริมคลองบางมดมีมุมถ่ายภาพเก๋ ๆ ของสตรีทอาร์ตที่ปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดของ กทม. สร้างความมั่นใจในการเที่ยวย่านริมคลองบางมดแก่ทุกคน

อิ่มท้อง อิ่มบุญ ริม ‘คลองพระโขนง’

“คลองพระโขนง” เป็นคลองสายเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อยู่คู่คนกรุงมาช้านาน หากอยากเที่ยวคลองแห่งนี้ให้ลองนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีพระโขนง จากนั้นเดินมุ่งหน้าริมฝั่งคลองมาถึงท่าเรือพระโขนง แล้วลงเรือนั่งชิลมาถึงท่าตลาดเอี่ยมสมบัติ ตลาดที่รวบรวมอาหารฮาลาลรสชาติดีหากินยาก เช่น ข้าวหมกแพะ ซุปหางวัว มัสมั่นเนื้อ ขนมบาเยีย (ขนมที่ทำจากถั่วทองกรอบ) ฯลฯ เสร็จแล้วแวะไปถ่ายภาพที่ มัสยิดอัลกุ๊บรอ (สุเหร่าใหญ่คลองเคล็ด) มัสยิดอายุกว่า 200 ปี และหากเดินข้ามคลองไปจะเจอ วัดต้นไทรย์ และ วัดปากบ่อ สามารถเข้าไปสักการะพระพุทธรูปในวัดเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้อยากให้เดินเลียบคลองต่อไปเพื่อแวะดูตำนานแม่นาคพระโขนงที่ วัดมหาบุษย์ ชมพระไตรปิฎกใบลานเก่าแก่ที่วัดใต้ ปิดท้ายทำบุญทำทานให้อาหารสัตว์ปล่อยนกปล่อยปลา เป็นทริปหนึ่งวันที่ทั้งอิ่มท้องอิ่มอกอิ่มใจและอิ่มบุญ

นั่งเรือไฟฟ้า ฟรี!

ชมวิถีชีวิตริม ‘คลองแสนแสบ’

“คลองแสนแสบ” ถือเป็นคลองสำคัญที่ใช้ในการคมนาคมเป็นหลักมายาวนาน โดย กทม. ไม่ได้พัฒนาเฉพาะด้านการจัดการขยะ ดูแลความสะอาด เพิ่มคุณภาพของน้ำและปรับภูมิทัศน์สองฝั่งคลอง แต่ กทม. ยังเล็งเห็นความเป็นไปได้ในมิติการท่องเที่ยว จึงขอเชิญชวนชาวกรุงเทพฯ มานั่งเรือไฟฟ้าเที่ยวชมวิถีชีวิตริมคลองแสนแสบในวันหยุดสุดสัปดาห์ ในเส้นทางวัดศรีบุญเรือง-สำนักงานเขตมีนบุรี ซึ่งเป็นส่วนต่อขยาย 11 ท่าเรือ โดยให้บริการฟรีตลอดเส้นทางทุกวัน สำหรับสายกินเที่ยว แนะนำไปปักหมุด 3 ร้านอร่อย ได้แก่ ร้านอาอิซะห์แซ่บเว่อร์ฮาลาลฟู้ด ที่ท่าเรือสุเหร่าแดง, ร้านเป็ดอบอ้อย แป๊ะแค ที่ท่าเรือตลาดมีนบุรี และก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม ที่ท่าเรือวัดบำเพ็ญเหนือ นอกจากนี้ยังมีข่าวดีของสายปั่นจักรยาน เพราะเรือไฟฟ้าคลองแสนแสบส่วนต่อขยายนี้ สามารถนำจักรยานขึ้นเรือได้ด้วยระยะเวลาให้บริการเรือไฟฟ้าคลองแสนแสบส่วนต่อขยาย วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.30 – 20.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เวลา 06.00 – 19.00 น.

________________________________________________

เรื่องโดย: กองบรรณาธิการ Bangkok News (กทม.สาร) 

ที่มา: Bangkok News (กทม.สาร) ฉบับ 287

คลิกอ่านฉบับเต็มของ Bangkok News (กทม.สาร) ฉบับ 287 ได้ ที่นี่