สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้กว่า 2 ปีที่ผ่านมา จุดหมายปลายทาง ของนักท่องเที่ยว เมื่อมาเยี่ยมเยียนประเทศไทย ได้แก่ พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ค่อนข้างเงียบเหงา แต่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังคงเดินหน้าปรับภูมิทัศน์เพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ ทั้งด้านความสวยงาม การสัญจรที่สะดวกและปลอดภัย ตาม โครงการ “อุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลานและถนนมหาราช” ที่ BANGKOK NEWS (กทม.สาร) ชวนมาเที่ยวชมความงามที่เปลี่ยนไปด้วยกัน

เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน

ภารกิจเที่ยวย่านพระนคร ชมอุโมงค์ทางลอดใหม่ครั้งนี้ เราเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงที่ สถานีสนามไชย มุ่งหน้าไปยัง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ไหว้พระนอนในวิหารพระพุทธไสยาสน์ เพื่อความเป็นสิริมงคล และได้เข้าไปกราบสักการะ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล เป็นองค์เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองสูง 42 เมตร ประดับกระเบื้องเคลือบและกระเบื้องเครื่องถ้วยลวดลายต่าง ๆ ประตูทางเข้าเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์แบบจีน ประดับด้วยกระเบื้องเครื่องถ้วยหลากสี และตุ๊กตาหินจีน

ถนนมหาราช – ถนนหน้าพระลาน

ในภูมิทัศน์ใหม่เมื่อออกจากวัดโพธิ์มาฝั่งถนนมหาราช จะพบกับความงามของตึกเก่าย่านท่าเตียนที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 เป็นตึกสองชั้น สถาปัตยกรรมแบบยุโรป โดดเด่นด้วยซุ้มหน้าต่างรูปโค้งก่อปูนเป็นลายอิฐตามกรอบรูปโค้ง มีทั้งร้านขายยาแผนไทยและสมุนไพร น้ำมันนวดต่าง ๆ ตามตำรับวัดโพธิ์ และยังมีร้านน่านั่งหลากหลายที่เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวที่เริ่มหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยแล้ว จากนั้นเดินเลียบกำแพงวังตั้งแต่ ถนนมหาราช จนถึง ถนนหน้าพระลาน ด้วยบรรยากาศสบายตาหลังการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ย่านนี้ใหม่ ทำให้ยามเย็นของที่นี่สวยงามและมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ

“อุโมงค์มหาราช” อุโมงค์ทางลอดแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้

กทม. มอบหมายให้สำนักการโยธา ดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลานและถนนมหาราช โดยเปิดใช้งานแล้ว 1 จุด คือ อุโมงค์ทางลอดมหาราช ระยะทาง 90 เมตร พื้นที่รวม 1,150 ตารางเมตร ประกอบด้วย โถงทางเดิน พร้อมห้องน้ำบริการ ทางขึ้น – ลงเป็นบันไดเลื่อน 2 จุด ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบด้านการจราจรบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ ทำให้การจราจรเป็นระเบียบและคล่องตัว เพิ่มความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว ลดอุบัติเหตุจากการข้ามถนน มีจุดพักผ่อน จุดนัดพบใช้บริการห้องน้ำก่อนเข้าชมพระบรมมหาราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณสนามหลวง คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่สำรวจความพร้อมการเปิดใช้งาน พบว่าโครงการฯ มีความก้าวหน้า 99% อยู่ระหว่างเก็บรายละเอียดงานสถาปัตยกรรมและงานทำความสะอาด ส่วนงานติดตั้งลิฟท์โดยสารคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2565 และจะเปิดอุโมงค์ทางลอดส่วนที่เหลือเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์

ชมนิทรรศการประวัติศาสตร์ภายในอุโมงค์

การเดินลงอุโมงค์ทางลอดมหาราช ใช้บันไดเลื่อนกลางแจ้งที่มีใช้กันในหลายประเทศทั่วโลก ประเทศไทยมีใช้แล้วบางจุด เช่น บันไดเลื่อนทางลงรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ติดตั้งภายนอกโดยเฉพาะ ทนทานต่อสภาพอากาศ มีระบบระบายน้ำ ป้องกันน้ำเข้า ไม่ให้ไฟฟ้าลัดวงจร มีความปลอดภัยสูง และไม่บดบังทัศนียภาพของพระบรมมหาราชวังและอาคารเก่าบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย จุดเด่นของอุโมงค์ทางลอดนอกจากความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรแล้ว ยังมีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ การก่อตั้งเมือง งานสถาปัตยกรรม ป้อมอินทรรังสรรค์ และกำแพงเมืองในอดีต เป็นการอุ่นเครื่องก่อนเข้าชมความงดงามของวัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระบรมมหาราชวัง อีกทั้งยังเป็นจุดนัดพบที่รองรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละ 400 – 600 คน รวมวันละกว่า 10,000 คน

ท่าเรือท่าช้างโฉมใหม่ รองรับอุโมงค์ทางลอด

อีกหนึ่งส่วนที่สร้างความสะดวกในการเดินทางมาที่นี่ ด้วยนโยบายบูรณาการการเดินทาง ด้วยโครงข่ายขนส่งมวลชน “ล้อ ราง เรือ” นอกจากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินและเดินเท้าบนบาทวิถีที่กว้างขวางอย่างปลอดภัยแล้ว ยังใช้บริการขนส่งมวลชนทางเรือโดยมาขึ้นที่ท่าเรือท่าช้างที่ปรับโฉมใหม่ พร้อมเปิดให้บริการรองรับอุโมงค์ทางลอดถนนหน้าพระลาน โดยการทำงานประสานกันระหว่าง กทม. และกรมเจ้าท่า เร่งสร้างทางเชื่อมจากท่าเรือท่าช้างไปบรรจบกับอุโมงค์ทางลอดมหาราช เพิ่มความสะดวกในการสัญจรให้นักท่องเที่ยวที่มาทางเรือ รวมทั้งปรับปรุงท่าเรือให้สวยงามเข้ากับสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบด้วย

————————————————————————

เรื่องโดย: กองบรรณาธิการ BANGKOK NEWS (กทม.สาร)

ที่มา: BANGKOK NEWS (กทม.สาร) ฉบับ 280 (2/2565)