เมื่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต กลายเป็นเรื่องที่แบ่งปันกันได้ง่ายขึ้นบนโลกออนไลน์ และทรงอิทธิพลมากพอที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนอยากออกเดินทางตามรอยเหล่า Travel Influencer หรือ Vlogger คนดัง ยังสถานที่ต่าง ๆ และไม่น่าแปลกใจที่จะพบเจอคนรุ่นใหม่สะพายกล้องท่องโลก ขยันหาจุดหมายใหม่ ๆ เช็กอินอัปโหลดรูปช่วงชิงพื้นที่โซเชี่ยลก่อนใคร ยิ่งถ้าภาพถ่ายหรือวิดีโอสร้างสรรค์ได้โดนใจ ก็ยิ่งเพิ่มยอดไลก์ยอดผู้ติดตามและสร้างอาชีพได้ในอนาคตเลยทีเดียว

Travel AROUND ครั้งนี้ เรามาพร้อมกล้องตัวเก่งตระกูล EOS M มิเรอร์เลสจิ๋วแต่แจ๋ว Canon EOS M50 Mark II ของ Canon ที่สาย Vlog ยูทูปเบอร์ สายคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ต่างเทใจยกให้เป็นสมาร์ทคาเมร่าที่เก่งรอบด้าน ฟังก์ชันครบจบในตัวเดียว ทั้งภาพนิ่ง วิดีโอ รวมถึงไลฟ์สตรีมมิ่ง ตัวช่วยสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพตอบโจทย์เทรนด์วิดีโอสั้นที่กำลังมาแรงแซงทุกแพลตฟอร์ม ชูธงให้เป็นกล้องที่น่าใช้ที่สุดแห่งปีในประสิทธิภาพที่คุ้มเกินราคา

สายคอนเทนต์อย่างเราจะพลาดได้ไง AROUND ขอพาน้องไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวด้วยกันในวันสบาย ๆ หามุมสวยถ่ายรูปแบ่งปันเพื่อน ๆ บนโลกออนไลน์ดีกว่า กับทริป One Fine Day: With Canon EOS M50 Mark II ปักหมุดจุดท่องเที่ยวที่นับว่าเป็นสปอร์ตไลท์ยอดนิยมแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ณ คิง เพาเวอร์ มหานคร (King Power Mahanakhon) บนตึกกระจกดีไซน์ล้ำสะดุดตา ตั้งตระหง่านย่านสาทร เคยทำสถิติตึกระฟ้าสูงที่สุดของไทยในปี 2561 มาแล้ว ด้วยความสูงถึง 78 ชั้น เหนือระดับพื้นดิน 314 เมตร เป็น City scape ที่มีทัศนียภาพสวยงามแบบ 360 องศา ชมวิวป่าคอนกรีตและวิวสายน้ำแห่งประวัติศาสตร์แม่น้ำเจ้าพระยา ที่แบ่งมหานครออกเป็นสองฟากฝั่ง มีความน่าสนใจและดึงดูดให้เราต้องมาเช็กอินกับกล้องมิเรอร์เลสคู่ใจตัวนี้ ที่ Canon ใจดีส่งให้เรามาทำความรู้จักพร้อมกันทั้ง 2 สี ขาวกับดำ

สัมผัสแรกว้าวกับรูปโฉมสุดอินเทรนด์เรียบหรูดูโปรมาก ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 387 กรัม (รวมแบตเตอรี่และการ์ด) จับถนัดมือ และในขณะเดียวกันก็ยังคงให้คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม โดยจำลองรูปลักษณ์สไตล์ใกล้เคียงกล้อง DSLR มาพร้อม ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ในตัว ที่มีความละเอียด 2.36 ล้านจุด ให้การมองผ่านช่องมองภาพได้สมูทคมชัดสมจริง และยังช่วยทอนแสงจ้า เมื่อใช้การมองผ่านช่องมองภาพท่ามกลางแดดจัด ๆ ได้เยี่ยม ที่ปกติจะหาไม่ได้จากกล้องมิเรอร์เลสรุ่นที่ผ่านมา ส่วนด้านบนของช่องมองภาพ EVF จะมี Hot Shoe สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริม อย่าง ไมโครโฟน หรือไฟแฟลชรุ่นต่าง ๆ บอกเลยว่าสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม สำหรับ ไฟแฟลช ในตัวของกล้อง ก็สามารถใช้งานได้ดีในที่แสงน้อย รองรับมุมมองของภาพเทียบเท่ากับทางยาวโฟกัสประมาณ 15 มม. แต่อาจจะเป็นระยะที่จำกัดหน่อย แค่ใช้มือยกขึ้นเมื่อต้องการใช้ และวางลงเมื่อต้องการเก็บ

Canon ออกแบบมาเฉพาะให้ Canon EOS M50 Mark II ด้านข้างของตัวกล้องฝั่งขวามี พอร์ต Micro HDMI รองรับการแปลงสัญญาณเมื่อต้องการ Live Streaming สำหรับการบันทึกวิดีโอแบบเรียลไทม์ และ พอร์ต Micro USB สำหรับใช้ต่อกับ Laptop หรือคอมพิวเตอร์ ฝั่งซ้ายของตัวกล้อง มี พอร์ตแจ็ค ขนาด 3.5 มม. เชื่อมต่อกับไมโครโฟน ไม่ว่าจะเป็น Wireless และ Shotgun Microphone เพิ่มประสิทธิภาพของเสียงให้มากกว่าไมค์ที่ตัวกล้องให้มา ที่ใช้งานได้ดีในระยะไม่เกิน 1 เมตร หากจริงจังในการสร้างสรรค์วิดีโอ หรือ Vlog ก็สามารถเลือกไมค์เสริมคุณภาพสูง ที่ลดเสียงรบกวนโดยรอบได้จะดีกว่า

ส่วนของ หน้าจอแสดงภาพ LCD ที่ออกแบบให้พับได้ มีขนาด 3 นิ้ว ที่ความละเอียด 1.04 ล้านจุด ให้ภาพคมชัดบนจอสัมผัสแบบทัชสกรีน สามารถเอานิ้วสัมผัสที่หน้าจอซูมเข้าซูมออกเพื่อเช็กภาพได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังสามารถควบคุมฟังก์ชันที่แสดงสัญลักษณ์โหมดการถ่ายภาพ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอให้เลือกปรับใช้ ผ่านคีย์ลัดบนหน้าจอ LCD นี้ได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาเข้าสู่เมนูหลัก และยังปรับหมุนจอเมื่ออยากถ่ายภาพมุมกด มุมเสย หรือจะเซลฟี่ได้ทันทีแบบไม่ต้องง้อรอเพื่อน แต่ถ้าไม่อยากให้ภาพออกมาหน้าบานเต็มจอ เพราะแขนสั้นเกินไป ก็เลือกใช้คู่กับอุปกรณ์เสริมไม้เซลฟี่ก็ดี หรือจะเพิ่มออปชัน ขาตั้งกล้องมือจับ รุ่น HG-100TBR แบบพกพาของ Canon ที่สามารถเปลี่ยนการใช้งานให้เป็นขาตั้งบนโต๊ะได้ มาพร้อมรีโมทคอนโทรลแบบไร้สายที่ขายแยก ไว้เป็นทางเลือกใช้งานกันไป

ส่วนระบบเซ็นเซอร์ก็ไม่ธรรมดา Canon EOS M50 Mark II ทำได้ดี เห็นตัวเล็กแบบนี้น้องเขามี ระบบเซ็นเซอร์ภาพ CMOS ขนาด APS-C ที่มีความละเอียด 24.1 ล้านพิกเซล ให้ภาพคมชัดสีสันสวยสมจริง อีกทั้งยังเก็บรายละเอียดครบ ส่วน White Balance อัตโนมัติของกล้อง เมื่อลองใช้เลือกปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแสงได้ดีมากอีกด้วย ช่วยได้เยอะแม้การถ่ายด้วยโหมด M (Manual) ทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง ให้การควบคุมที่ง่ายด้วยคุณสมบัติของโหมด Auto สำหรับคนที่เริ่มต้นใช้งานถ่ายภาพก็ถ่ายได้ไม่ยาก และยังคงได้ภาพที่สวยคมชัดอยู่ในโฟกัสอยู่ดี ด้วยศักยภาพอันน่าทึ่งของ ระบบโฟกัส Dual Pixel CMOS AF ที่ใช้ การประมวลผลภาพแบบ DIGIC 8 เสริมความสามารถกันได้เยี่ยมมาก ทำให้การประมวลผลรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นความสว่างและสีของตัวแบบ เพิ่มความลึกระหว่างตัวแบบกับแบ็คกราวด์ เป็นออโต้โฟกัสที่ฉับไวและแม่นยำกว่าที่เคยมี

อีกทั้งสามารถเลือกรูปแบบติดตามโฟกัสใบหน้า ดวงตา (Eye Detection AF) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้มีการตรวจจับที่รวดเร็ว มีความแม่นยำ เพิ่มระยะโฟกัสให้ไกลยิ่งขึ้นกว่าเดิม ถ่ายภาพคนหรือวัตถุที่เคลื่อนที่เร็วในพื้นที่ที่มีแสงน้อย ก็สามารถล็อกโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว และสามารถใช้ได้กับทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ทำให้ได้คุณภาพความคมชัดของภาพที่สูง ช่วยลดจุดรบกวนจากการใช้ความไวแสง ISO ที่กว้างมากได้ เป็นความเก่งเหนือระดับไปอีกขั้นของกล้องมิเรอร์เลสรุ่นนี้ เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพคน ที่เด่นเรื่อง Skin Tone ให้งานผิวที่สวยละมุน ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติเด่นที่สาวก Canon ให้การยอมรับมานาน รวมถึงการถ่ายภาพธรรมชาติ และโหมดอื่น ๆ ที่มีให้เลือกเล่น ถ้าได้ลองจับ สัมผัส ลองกดชัตเตอร์ จะรับรู้สึกถึงความหนักแน่นแม้ตัวกล้องจะเบาก็ตาม

เมื่อลองเลื่อนใช้งานสลับไปมาใน 9 ฟังก์ชัน ที่กล้องให้มาครบจบในจุดเดียว รวมโหมดภาพนิ่งและวิดีโอบนปุ่มควบคุมที่อยู่ด้านบนของตัวกล้องฝั่งขวา รวมถึงปุ่มอื่น ๆ เพื่อการใช้งานได้สะดวก ถูกออกแบบมาให้อยู่เรียงลดหลั่นในฝั่งเดียวกันทั้งหมด เพื่อการควบคุมง่ายด้วยมือข้างเดียว และมีลูกเล่นมากมายให้สนุกกับการใช้งานได้หลายโหมดในการสร้างสรรค์ภาพสวยบนมุมมองของแต่ละคนกันเลย มาพร้อม เลนส์ Kit EF-M 15-45 mm f/3.5-6.3 IS STM ที่คลอบคลุมระยะการใช้งานแบบเอนกประสงค์ มี ปุ่มล็อกเลนส์ ช่วยกันเลนส์เคลื่อนเลื่อนไหล ที่เมื่อรวมกับน้ำหนักของบอดี้แล้ว ก็ยังถือว่าเบามากอยู่ แต่ถ้าไม่รวมเลนส์ กล้องสีขาว น้ำหนักเพียง 388 กรัม และสีดำ น้ำหนัก 387 กรัมเท่านั้น ต่างกันเพียงนิดเดียว บอดี้จับถนัดมือมั่นคงด้วยกริปที่นูนออกมารองรับพอดีกับอุ้งมือ ไม่ว่าจะมือผู้หญิงหรือมือผู้ชายก็ถือสบาย ๆ ได้ด้วยมือข้างเดียว พกพาติดกระเป๋าก็ง่ายไม่เปลืองพื้นที่ เพราะบอดี้ที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กกระทัดรัด เรียกว่าไปไหนไปกันได้ทุกที่

และอีกคุณสมบัติเด่นของ Canon EOS M50 Mark II รุ่นนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ เป็นกล้องมิเรอร์เลสตัวทอปที่สามารถใช้งานแบบจริงจังเลยทีเดียว เปลี่ยนเลนส์ได้ หากอยากจะเปลี่ยนมุมมองภาพแบบต่าง ๆ ด้วยเลนส์เฉพาะในกลุ่มเลนส์ EF-M ก็ยังสามารถใช้งานร่วมกับเลนส์กว่า 60 ตัว จากเลนส์ในกลุ่ม EF และ EF-S เมื่อจับคู่เข้ากับอแดปเตอร์ที่แปลงเมาท์เลนส์ได้เลย

ก่อนที่เราจะไปพูดถึงความโดดเด่นของกล้องที่เก่งรอบด้าน อย่าง Canon EOS M50 Mark II กันต่อ เราต่างตื่นตาตื่นใจกับลิฟต์มัลติมีเดียความเร็วสูงสุดในประเทศไทย ที่พาเราทะยานขึ้นสู่ชั้น 74 ภายในเวลาเพียง 50 วินาที ภายในลิฟต์เสมือนหลุดเข้าสู่โลกแห่งแสงสี ภาพวิดีโอไฮไลท์แลนด์มาร์กต่าง ๆ ของประเทศไทย ค่อย ๆ ปรากฏภายใต้ความล้ำสมัยไฮเทคโนโลยี เหยียบแรกเมื่อถึงชั้น 74 ยามบ่ายของวันแสงแดดอ่อน ๆ ในช่วงฤดูฝนแบบนี้ ภายในอาคารกระจกบานกว้าง เปิดรับวิวสุดอลังการของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยกลุ่มตึกโอบล้อมแบบ 360 องศา จุดชมวิว (Indoor Observation Deck) ที่สามารถส่องกรุงเทพฯ ได้ในระยะใกล้ขึ้นจากกล้องส่องทางไกล ชั้นนี้ให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นชมวิวมหานครผ่านกระจก พร้อมส่งโปสการ์ดจากตู้ไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยได้อีกด้วย และเราหามุมสวยลองถ่ายวิดีโอและถ่ายภาพนิ่งแบ่งปันให้แฟน AROUND ได้ติดตามกัน

กล้องสุดหล่อ Canon EOS M50 Mark II ยังได้รับการยกระดับสมกับเป็นกล้องอัจฉริยะเก่งรอบด้านของเหล่าคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ยูทูปเบอร์ นักถ่ายภาพ นักเดินทาง ด้วยคุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามาโดดเด่นสุด ๆ ในด้านวิดีโอ และการ Live Streaming สำหรับ การใช้งานวิดิโอแนวตั้ง ที่สามารถรองรับและนำไปแชร์ได้ทันทีบนแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ เพียงจัดตัวกล้องให้จอ LCD ตั้งขึ้น บันทึกวิดีโอแสนง่ายดายด้วยปลายนิ้ว แตะที่ปุ่ม Record สีแดงบนจอภาพ ก็ทำให้เราอยู่ในโฟกัสตลอดเวลาทั้งใบหน้าและดวงตา ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวไปมาระบบออโต้โฟกัสแบบติดตามวัตถุ ในโหมดวิดีโอ (Movie Servo AF) สามารถควบคุมโฟกัสได้ดีเลย ในกรณีเดินพร้อมทำการบันทึกวิดีโอ อาจพบว่าภาพมีการสั่นไหวบ้าง เนื่องจากกล้องรุ่นนี้ไม่มีระบบกันสั่นที่ตัวบอดี้ มีเฉพาะกันสั่นที่ตัวเลนส์เท่านั้น แต่สามารถเลือกระบบป้องกันภาพสั่นไหวใน โหมด Movie Digital IS จะช่วยได้มาก และอีกทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ หากอยากหลีกเลี่ยงการถ่ายวิดีโอเซลฟี่ติดแขน ในกรณีไม่มีอุปกรณ์เสริมช่วยเพิ่มระยะ สามารถทำได้ด้วยการตั้งค่าเป็น Movie Self Timer ให้กล้องจับเวลาเริ่มทำงานเมื่อพร้อม

เรียกว่าเป็นการ สร้างสรรค์วิดีโอคุณภาพสูงได้ในระดับ Full HD ไปจนถึงระดับ 4K ที่มีความคมชัดให้สีสันสวยงาม พร้อมอัปโหลดเพื่อแชร์บนโลกโซเชียลได้อย่างรวดเร็วทันใจ ผ่าน แอปพลิเคชัน Camera Connect ของแคนนอนบนสมาร์ทโฟน เพื่อซิงก์ถ่ายโอนไฟล์และนำไปแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้ทันที โดยไม่ต้องปรับหมุนวิดีโอในโปรแกรมให้เสียเวลา และได้ขนาดไฟล์พร้อมใช้งานโพสต์บน Tiktok, Facebook, YouTube, Instagram, Reel, Story
เหมาะมากกับชีวิตติดโซเชี่ยล ในขณะที่เรากำลังเพลิดเพลินเดินเล่นสำรวจความงดงามของแสงยามบ่ายในตัวอาคาร ชั้น 74 อยู่ก็ตาม ตอบโจทย์ทุกงานออนไลน์ทุกที่ทุกเวลาอย่างแท้จริง

รวมถึงบริการระบบคลาวด์ของ canon ที่ช่วยให้เราหมดกังวลระหว่างการถ่ายภาพ ในกรณีความเสี่ยงเมมโมรี่การ์ดเต็ม โดยสามารถอัปโหลดรูปภาพและวิดีโอในขนาดต้นฉบับจากกล้อง ฝากไฟล์ได้ที่ แอป image.canon ตัวช่วยให้การทำงานราบรื่นไม่มีสะดุด สามารถฝากไฟล์ได้นานถึง 30 วัน จัดเก็บไฟล์ข้อมูลได้สูงสุด 10 GB ผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Bluetooth เป็นวิธีฝากไฟล์อัตโนมัติได้ทุกที่ทุกเวลา และยังสามารถทำงานร่วมกับบริการอื่น ๆ อย่าง Google ใช้งานร่วมกันได้กับ Google Drive, YouTube และโปรแกรม Adobe Lightroom หากต้องการแก้ไขภาพต้นฉบับอีกด้วย

AROUND ขอแบ่งปันภาพสวยที่ถ่ายจากกล้อง Canon EOS M50 Mark II พร้อมเลนส์ EF-M 15-45 mm f/3.5-6.3 IS STM จากจุดชมวิวกรุงเทพฯ ที่งดงามตระการตาในมุมต่าง ๆ ช่วงแสงยามบ่ายจนถึงยามเย็นในหลากหลายมิติของแสงเงา ภายในอาคารที่มีแสงน้อยมีความคอนทรัสต์กับแสงจ้าจากภายนอก เราลองเลือกการถ่ายภาพนิ่งโปรแกรมโหมด P ของกล้องสร้างมิติภาพ โหมดนี้กล้องจะคำนวณค่าสปีดชัตเตอร์และค่ารูรับแสงให้อัตโนมัติ เราเพียงควบคุมค่า ISO, White Balance และชดเชยแสงให้ได้ในอารมณ์ภาพที่ต้องการ ภายใต้ข้อจำกัดของเวลา เน้นความรวดเร็วและแม่นยำ โดยที่ยังคงสามารถเก็บรายละเอียดได้ทั้งตัวแบบ มิติริ้วเมฆท้องฟ้า และกลุ่มตึกภายนอก

ในช่วงเวลายามบ่าย 4 โมง เป็นการถ่าย Landscape ที่ผ่านช่องกระจก ต้องการให้มีโฟร์กราวด์ด้านข้างเล็กน้อยในการสร้างมิติภาพ ช่วงแสงแดดอาบกลุ่มตึก เก็บรายละเอียดริ้วเมฆ

–📸-

 

ในบางสถานการณ์กระจกก็เป็นพื้นที่สร้างมิติภาพได้ดี แสงเงาที่ตกกระทบแม้จะเป็นความท้าทายของเหล่าช่างภาพ แต่ก็ทำให้ภาพดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ

–📸-

 

Wonder of Nature ความมหัศจรรย์ในโลกของธรรมชาติ ศิลปะสื่อผสมกับเทคโนโลยี ที่ออกแบบและสื่อสารผ่าน “แสง สี เสียง” บอกเลยเหล่าคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ต้องห้ามพลาด! สะพายกล้องตามรอย AROUND ถ่ายรูปศิลปะไฟยามค่ำคืน สร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ แชร์วิดีโอบนโลกโซเชี่ยล บนชั้น 74 ตั้งแต่วันนี้ – 15 พ.ย. 65

–📸-

 

ภาพ Silhouette ที่มีความแตกต่างของความสว่างและความมืดในภาพนี้ ตัวแบบจะเป็นเงาดำตัดกับฉากหน้าที่มีความสว่างจากภายนอก เพิ่มเสน่ห์ทำให้ภาพโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น

–📸-

 

ภาพถ่ายจากโหมดฟิลเตอร์สร้างสรรค์ เอฟเฟ็กต์กล้องรูเข็ม มีลักษณะพิเศษของพื้นที่กลางภาพในแนวนอนคมชัดเป็น 1 ส่วนใน 3 ส่วน ของภาพที่คมชัดส่วนบนและล่างจะเบลอ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของโหมดนี้

–📸-

 

ภาพถ่ายด้วยโหมดฟิลเตอร์สร้างสรรค์ เอฟเฟ็กต์เลนส์ตาปลาทำให้ก้อนเมฆที่ตกแต่งภายในอาคารเสมือนลอยอยู่เหนือท้องฟ้า ที่มองเห็นยอดตึกมากมายจากมุมสูง ให้ภาพและสีที่สวยแปลกตา ภาพจะบิดเบือนโค้งเว้า ลูกเล่นฟิลเตอร์นี้จะขยายตำแหน่งตรงกลางของภาพ

–📸-

 

ทางเดินบันไดชั้น 74 ที่มีแสงน้อย ดึงดูดด้วยภาพพิมพ์บนกำแพง

–📸-

 

การมีตัวแบบช่วยให้ภาพมีชีวิตชีวา ระบบโฟกัส Dual Pixel CMOS AF ด้วยการประมวลผลภาพแบบ DIGIC 8 ทำให้ได้ความคมชัดแม้ตัวแบบจะเคลื่อนไหวไปมา

–📸-

 

มหานครสกายวอร์ก ชั้นดาดฟ้า ไฮไลท์บนพื้นกระจกลอยฟ้า (Glass Tray) บนความสูงเหนือพื้น 310 เมตร พื้นที่ 63 ตารางเมตร

–📸-

 

ลองถ่ายภาพด้วยโหมดฟิลเตอร์สร้างสรรค์ ด้วยเอฟเฟ็กต์เลนส์ตาปลา ให้ภาพและสีที่สวยแปลกตา ภาพจะบิดเบือนทรงกระบอกโค้งเว้า ลูกเล่นฟิลเตอร์นี้จะขยายตำแหน่งตรงกลางของภาพ

–📸-

 

เส้นขอบฟ้ายามเย็นของวันที่ค่อนข้างครึ้มแดด มองไม่เห็นดวงอาทิตย์ แสงสีทองเรื่อบาง ๆ จากชั้น 78 บนจุดชมวิวบน The Peak ที่สูงที่สุดของดาดฟ้า คิง เพาเวอร์ มหานคร ด้วยความสูงเหนือพื้นดิน 314 เมตร

–📸-

 

รูฟทอปบาร์ใหม่ล่าสุด Sky Beach Bangkok บนชั้น 78 ณ จุดชมวิวบนชั้นดาดฟ้าสูงที่สุดในประเทศไทย ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น คลุมโทนสีเหลืองขาวสดใสรับกับสีฟ้าของท้องฟ้า ที่แฮงเอาท์นั่งชิลชมวิวกรุงเทพฯ จากมุมสูงนี้ ที่แม้ภายในบาร์จะมืดเกิดจากแสงคอนทรัสต์ยามบ่ายกับภายนอกที่แดดจ้า ก็ยังคงให้รายละเอียดของคนและวัตถุภายในบาร์ด้วย

–📸-

 

สร้างมิติให้ภาพดูน่าสนใจ ด้วยตู้โทรศัพท์เดคอเรชั่นที่มีความโปร่งจัดเส้นสายให้เป็นโฟร์กราวด์ เมื่อมองทะลุออกไปเห็นวิวกรุงเทพฯ จากมุมสูง และความชิลของนักพักผ่อน

–📸-

 

มุมเบเกอรี่ส่วนหนึ่งของ Sky Beach Bangkok สร้างมิติหน้าชัดหลังเบลอ โฟกัสแบบ one shot

–📸-

 

ลิฟต์แก้วช่วงเวลาท้องฟ้าทไวไลท์ อีกจุดไฮไลท์บนชั้นมหานครสกายวอร์ก

–📸-

 

เรียกว่า Canon EOS M50 Mark II ตอบโจทย์มากกับมือใหม่หัดเล่นแต่อยากจริงจังกับการถ่ายภาพ ไปจนถึงระดับมืออาชีพที่มองหากล้องอัจฉริยะสักตัวที่เก่งรอบด้าน พกพาง่ายเบาสบาย เดินทางไปด้วยกันได้ทุกที่ รองรับการทำงานในทุกมิติทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ รวมถึงไลฟ์สตรีมมิงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก ตัวเดียวครบจบทุกการใช้งาน ให้เราสนุกกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์และถ่ายภาพสวย ๆ เปิดประสบการณ์ได้อย่างอิสระมากขึ้น