เดินหน้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ ลูกหลานมีส่วนสร้างเสริมความเข้าใจด้านโภชนาการ
ประเทศไทยกำลังนับถอยหลังสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ โดยในปี 2564 เราจะมีประชากรผู้สูงอายุมากถึงร้อยละ 20 ของประเทศ ดังนั้นการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ จึงเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเข้ามาทุกขณะ โดยเฉพาะความเสี่ยงต่อภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และอาจเป็นภาระลูกหลานในที่สุด การสร้างความเข้าใจด้านโภชนาการ และเสริมสารอาหารให้เพียงพอ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าสู่สังคมสูงวัยที่แข็งแรงและมีคุณภาพ
“ผู้สูงอายุ ที่รับประทานอาหารได้น้อยลง เบื่ออาหาร จะส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิต น้ำหนักลดลง มีอาการเหนื่อยง่าย และแรงบีบมือที่ลดลง นอกจากนี้ การกินอาหารที่มีโภชนาการไม่เหมาะสม ไม่ได้เพียงแค่กินได้น้อยเท่านั้น แต่พบว่าโรคอ้วนในกลุ่มผู้สูงอายุชาวไทย เพิ่มขึ้นถึงกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบปี 2551 กับ ปี 2557 แต่การมีน้ำหนักตัวที่มาก ไม่ได้แปลว่ามีมวลกล้ามเนื้อมากตามไปด้วย เพราะแม้ว่าจะดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ แต่อาจจะเกิดจากมวลไขมันที่สะสมมากเกิน” ผศ.พญ.ศานิต วิชานศวกุล อายุรแพทย์และแพทย์ผู้ชำนาญด้านโภชนาการ คลินิกประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในการประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติครั้งที่ 14 ของทางสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ “Enhance Quality of Life with Power of Food in Era of Aging Population” สนับสนุนโดย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด
“ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย (Sarcopenia) พบได้บ่อยครั้งในผู้สูงอายุ ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น การสลายของมวลกล้ามเนื้อจะสูงขึ้น แต่กลับสร้างทดแทนได้ไม่ดีอย่างที่เคย โดยปกติแล้ว บุคคลทั่วไปที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป จะมีมวลกล้ามเนื้อลดลงที่ 8 % ในทุกๆ 10 ปี มวลกล้ามเนื้อจะมีอัตราการลดลงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่ออายุ 70 ปี อัตราการลดลงจะเพิ่มเป็น 15% ทุก 10 ปี ซึ่งมีนัยยะสำคัญอย่างมาก เพราะเมื่อมีการลดลงของมวลกล้ามเนื้อจะส่งผลต่อสุขภาพทั้งภายในและภายนอก เช่น มีภูมิต้านทานที่น้อยลง เจ็บป่วย แขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และอาจเป็นผู้ป่วยติดเตียงในที่สุด หากไม่ได้รับการดูแล” ผศ.พญ.ศานิต กล่าวเสริม
การศึกษาและงานวิจัยหลายชิ้นแนะว่า ผู้สูงอายุควรรับประทานโปรตีนคุณภาพดีเพิ่มขึ้น เพราะโปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้าง และลดการสลายมวลกล้ามเนื้อโดยตรง แต่สำหรับผู้สูงอายุการทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ในปริมาณที่เพียงพอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อสัตว์เพราะไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้สะดวกและย่อยยาก ในปัจจุบันจึงมีนวัตกรรมอาหารเสริมที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ ที่เรียกกันว่า “อาหารสูตรครบถ้วน 5 หมู่” ซึ่งมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมันชนิดดี วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ในรูปแบบผงชงดื่มง่าย ดื่มเสริมมื้ออาหารได้ทันที โดยผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้ผู้สูงอายุดื่ม “อาหารสูตรครบถ้วน 5 หมู่” ในส่วนผสมที่มีคุณภาพ เช่น โปรตีนเวย์ที่ดูดซึมได้ดีและย่อยเร็ว
“นอกจากเรื่องโปรตีนคุณภาพดีทีมีความสำคัญในผู้สูงอายุ ยังมีการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการลดลงของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ หรือโปรไบโอติกส์ ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพเชิงลบในผู้สูงอายุได้ การเสริมโปรไบโอติกส์หรือจุลินทรีย์ที่ดีในอาหาร อาจช่วยฟื้นฟูคุณภาพลำไส้จากการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ดี โดยมีการศึกษาพบว่า การเสริมอาหารที่มีจุลินทรีย์ดีหรือโปรไบโอติกส์ ต่อเนื่อง 4 เดือน มีส่วนช่วยให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว (lymphocyte) อย่างมีนัยสำคัญ และช่วยลดการติดเชื้อต่างๆ ได้มากกว่าถึง 41% เมื่อติดตามผลดื่มต่อเนื่อง 1 ปี” ผศ.พญ.ศานิต กล่าวเสริม
ในประเทศไทยมีตัวเลือกอาหารสูตรครบถ้วน 5 หมู่ ที่รับประทานง่ายในท้องตลาดมากมายหลายแบรนด์ ซึ่งมีส่วนผสมต่างกันออกไป เช่น บูสท์ ออปติมัม (Boost Optimum) ที่มีส่วนผสมของโปรตีนเวย์คุณภาพสูง มีโปรไบโอติกส์ ไขมันชนิดดี รวมถึงมีวิตามินและแร่ธาตุกว่า 30 ชนิด เหมาะสำหรับเป็นอาหารเสริมให้กับผู้สูงอายุ เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถออกไปสนุกกับชีวิตในโลกกว้าง ทำกิจกรรม และสังสรรค์กับเพื่อนสูงวัย เพราะความสุขที่แท้จริง นั่นคือการมีสุขภาพกายใจที่ดีนั่นเอง สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก: Nestle Health Science Thailand และเว็บไซต์: www.nestlehealthscience-th.com