รู้หรือไม่ “แสงแดด” ทำร้ายดวงตาได้มากกว่าที่คิด ก่อให้เกิด 5 โรคตา ที่พึงต้องระวัง!
แสงแดด…ไม่ได้ทำร้ายแค่ผิวของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายดวงตาของเราได้อย่างคาดไม่ถึง และคนส่วนใหญ่ก็มักลืมไปว่าดวงตาของเรานั้นบอบบางกว่าผิวหนังมาก ทำให้การปกป้องดวงตาจากแสงแดด ถือเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าการปกป้องผิวเสียอีก เอสซีลอร์ ผู้นำระดับโลกทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตา ได้อธิบายเรื่องของผลเสียของแสงแดดต่อดวงตาไว้ว่า “ทุกครั้งที่ดวงตาสัมผัสกับแสงแดดก็จะถูกทำร้ายจากรังสีอัลตร้าไวโอเลต หรือรังสียูวีโดยตรง ซึ่งรังสียูวี แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ รังสียูวีเอ (UVA) และ รังสียูวีบี (UVB) แม้สัมผัสในระยะเวลาสั้นๆ ก็สามารถก่อให้เกิดความบกพร่องทางสายตาได้ และยังเร่งการเสื่อมสภาพของสายตาไปจนถึงโรคตาที่ค่อนข้างรุนแรง”
5 โรคตาควรระวังเมื่อต้องสัมผัสยูวี
โรคต้อลม
เกิดจากการสัมผัสรังสียูวี ซึ่งกระตุ้นการแตกหักของเนื้อเยื่อคอลลาเจนในเยื่อบุตาขาว ทำให้เยื่อบุตาเสื่อมสภาพและหนาตัวขึ้น ส่วนใหญ่ในระยะเริ่มแรกมักไม่มีอาการชัดเจน แต่เมื่อต้อลมมีขนาดใหญ่หรืออักเสบ อาจเกิดอาการเคืองตา แสบตา น้ำตาไหล หรือตาแดงได้
โรคต้อเนื้อ
ปัจจัยก่อโรคที่สำคัญก็คือ การสัมผัสรังสียูวีในแสงแดดเป็นประจำ จัดอยู่ในกลุ่มโรคเยื่อบุตาเสื่อมสภาพเช่นเดียวกับต้อลม โดยในต้อเนื้อนั้น เยื่อบุตาจะหนาตัวมากขึ้นรวมถึงมีเนื้อเยื่อและเส้นเลือดเกิดมากขึ้น กลายเป็นเนื้อเยื่อแดงๆ อยู่บนตาดำ ซึ่งถ้าต้อเนื้อมีขนาดใหญ่ หรือหนามากจนปกคลุมกระจกตา ก็อาจส่งผลต่อการมองเห็น และต่อความโค้งของตาดำจากสิ่งแปลกปลอมในดวงตา
โรคต้อกระจก
แม้โรคนี้พบมากในผู้สูงอายุ เนื่องจากการเสื่อมของเลนส์แก้วตาตามธรรมชาติ แต่การสัมผัสรังสียูวีเอ (UVA) ในแสงแดดแป็นเวลานาน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับโมเลกุล ทำให้เลนส์แก้วตาเสียสภาพความใสไป เมื่อเลนส์ขุ่น ย่อมทำให้การมองเห็นลดลง ดังนั้นโรคต้อกระจก จึงสามารถเกิดขึ้นในวัยหนุ่มสาวได้เช่นกัน
โรคจอประสาทตาเสื่อม
รังสียูวีบี (UVB) เป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรง ต่อการเสื่อมของจุดศูนย์กลางภาพจอประสาทตา โดยรังสียูวีบีจะเข้าไปลดความเข้มข้นของสารสี เกิดเป็นปัจจัยเสี่ยงให้จอประสาทตาเสื่อมเร็วขึ้น
โรคมะเร็ง
การอยู่กลางแดดนานๆ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของมะเร็งบริเวณเปลือกตา เพราะเกิดการกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีเมลานินบริเวณเปลือกตา ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา และมะเร็งผิวหนังบริเวณเปลือกตา
-||-
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้โรคเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเอง “เอสซีลอร์” จะมาบอกเคล็ดลับการดูแลเพื่อเสริมเกราะให้แก่ดวงตาคู่สวยของเรา
เราจะปกป้องดวงตาจากแสงแดดตัวร้ายได้อย่างไร?
สวมแว่นตาที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวี
วิธีการป้องกันดวงตาจากแสงแดดที่ดีที่สุด คือ การสวมแว่นที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้น ควรเลือกซื้อแว่นตาจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เลนส์สายตาเปลี่ยนสีอัตโนมัติทรานซิชั่นส์ (Transitions) จากเอสซีลอร์ ไม่ได้ออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาเท่านั้น แต่ สามารถปกป้องดวงตาจากรังสียูวีได้ 100% รวมถึงแสงสีน้ำเงินจากอุปกรณ์ดิจิตอล จึงสามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน ทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยตัวเลนส์จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มเมื่ออยู่กลางแจ้ง และกลับมาใสอีกครั้งเมื่ออยู่ในที่ร่ม ซึ่งเป็นการปกป้องดวงตาจากรังสียูวีในทุกสภาวะแสง แม้ที่มีแดดไม่แรง สีเลนส์ก็จะเข้มขึ้นตามระดับความเข้มของยูวีเช่นกัน
รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ
เพิ่มความแข็งแรงให้ดวงตา
การเลือกทานผักผลไม้ที่มีวิตามินต่างๆ และสารต้านอนุมูลอิสระเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะวิตามินเอซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเซลล์จอประสาทตา ช่วยให้จอประสาทตาทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ อาหารที่มีวิตามินเอ ได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว ผลไม้เนื้อสีเหลืองและสีส้ม รวมถึงผลิตภัณฑ์นม ไข่แดง ตับหมู และตับวัว
การตรวจคัดกรองความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคตา
นอกจากการดูแลดวงตาทั้งภายนอกและภายในแล้ว การตรวจคัดกรองความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคตาเป็นประจำทุกปี ก็ช่วยให้เราสามารถดูแลรักษาได้อย่างทันท่วงที หากเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาขึ้นอีกด้วย
สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ ได้ที่ศูนย์แว่นตาพันธมิตรของเอสซีลอร์ใกล้บ้านคุณ
หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.essilor.co.th/products/transitions และ https://www.facebook.com/EssilorThailand/