เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ หนึ่งในอวัยวะที่ซับซ้อนที่สุดในร่างกายมนุษย์ และเป็นอวัยวะที่เมื่อเสื่อมถอยประสิทธิภาพ จะไม่สามารถกู้ให้คืนกลับมาเหมือนเดิมได้ จึงควรปกป้องดวงตาคู่สวยคู่เดียวของเราให้อยู่กับเราไปนานๆ เรื่องของสุขภาพดวงตาจึงเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ หากเราจะสังเกตเมื่อเดินทางไปโรงพยาบาล จะพบเห็นผู้ป่วยที่รอรับการรักษาแผนกดวงตามากที่สุดแผนกหนึ่งเลยทีเดียว ปัญหาสุขภาพดวงตาหรือการมองเห็นผิดปกตินั้น ถือเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก และเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย หลายคนอาจกำลังเผชิญปัญหาอยู่แต่ไม่รู้ตัว จนร่างกายส่งสัญญาณบางอย่าง ผลกระทบอันเกิดจากความไม่สบายตา ไปจนถึงปัญหาการมองเห็นที่รุนแรงมากขึ้น จึงไม่ควรรอจนก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อดวงตาของเรา โดยเฉพาะวิวัฒนาการของโลกในปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตมากขึ้นทุกที มือถือ แท็บเล็ต โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ เหล่านี้ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ แม้จะช่วยให้การดำรงชีวิตเราง่าย และก็มีโทษมากมายด้วยเช่นกัน

ภัยเงียบของแสงสีฟ้าน้ำเงิน จากจอภาพต่างๆ

“สังคมก้มหน้า”  ทำลายดวงตามานักต่อนักแล้ว การใช้สายตาอย่างหนักจนเกิดอาการล้าไม่รู้ตัว ผ่านอุปกรณ์สื่อสารในชีวิตประจำวัน ในระยะการใช้สายตากับจอภาพที่ใกล้รังสีเกินไป ทำให้ดวงตาต้องสู้แสงมากขึ้น แสงสีฟ้า-น้ำเงิน (Blue light) ที่เป็นภัยเงียบอย่างคาดไม่ถึง นำมาซึ่งปัญหาที่เรียกว่า ‘Digital Disruption’ เมื่อชีวิตที่ควรได้อยู่กับธรรมชาติมากกว่า กลับถูกรบกวนโดยสิ่งต่างๆ บนโลกดิจิทัลมากเกินไป อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ที่แฝงไว้ด้วยรังสีอันตราย สามารถทำร้ายดวงตาได้โดยตรง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน การใช้สายตาอย่างหนัก จนเกิดอาการตาล้า และอาจเกิดภาวะกล้ามเนื้อดวงตาหย่อนยาน สายตายาวก่อนวัยอันควร ถ้าไม่เริ่มปกป้องดวงตา จะส่งผลให้เกิดโรคทางสายตา อันประเภทต้อต่างๆ ตามมา และหากมีภาวะที่เป็นความเสี่ยงต่อดวงตา อวัยวะที่สำคัญต่อการมองเห็น ไม่มีวิธีใดที่จะสามารถทำให้การสูญเสียการมองเห็นกลับคืนได้เลย และปัจจุบันพบว่าผู้คนจำนวนมากเริ่มประสบกับปัญหาดวงตาก่อนเวลาอันควร

พบอายุ 30 ปลาย มีอาการกล้ามเนื้อดวงตาหย่อนยาน สายตายาวก่อนวัยอันควรมากขึ้น

ตามสถิติของ “เอสซีลอร์ “ พบว่าอายุ 30 ปลายๆ เริ่มมีอาการกล้ามเนื้อดวงตาหย่อนยาน และมีความเสี่ยงต่อสายตายาวก่อนวัยอันควรมากยิ่งขึ้น  ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้สายตาในชีวิตประจำวัน เมื่อโลกยุคดิจิทัลปัจจุบัน ย่อโลกกว้างใหญ่ให้แคบลงมาอยู่ในเครื่องมือสื่อสาร โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แสงรังสีต่างๆ จากหน้าจออุปกรณ์เทตโนโลยีเหล่านี้ ภัยเงียบที่ทำลายดวงตาให้อ่อนล้าลงทุกวัน จากพฤติกรรมการใช้งานที่เกินคำว่าพอดี การอยู่กับสิ่งเหล่านี้นานหลายชั่วโมงต่อเนื่องต่อวัน ย่อมส่งผลกระทบต่อสายตาให้โดนทำร้ายอย่างไม่รู้ตัว ทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ

สถิติจากเอสซีลอร์ ได้เปิดเผยว่า คนไทยจำนวนมากที่ยังขาดการเข้าถึงซึ่งข้อมูลที่ควรรู้ วัดจากจำนวนประชากรของคนในประเทศ 60% ของจำนวนประชากร 70 ล้านคน ที่ต้องการการแก้ไขปัญหาสายตา ไม่ว่าจะเป็นสั้น เอียง ยาว และจาก 60% นี้ ได้มีผู้ที่ถูกแก้ไขปัญหาสายตาไปแล้วเพียง 30% จะเห็นได้ว่ายังมีผู้คนอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขสายตา และใน 30% นี้มีผู้ที่ได้รับการแก้ไขด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น

ตาล้า หรือ กล้ามเนื้อดวงตาหย่อนยาน กันแน่!

การใช้สายตาอย่างเข้มข้นอยู่หน้าจอทั้งวัน วันละหลายชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจากคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และ มือถือ เหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบโดยตรง ทำให้สายตาเกิดอาการล้า จากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อตา ที่ต้องปรับระยะโฟกัสการมองเห็นไปมาเพื่อสู้แสง จนเกิดอาการตาพร่ามัว เบลอ ปวดศรีษะ หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ จะมีผลต่ออาการมากมายตามมา จนกลายเป็นว่าจากอาการตาล้าธรรมดา ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้อดวงตาหย่อนยาน เกิดอาการสายตายาวก่อนวัยอันควร หากเริ่มมีอาการสายตาโฟกัสได้ช้าลง เบลอ พร่ามัว จนรู้สึกผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญทางสายตาทันที เพราะอาการบางอย่างที่เราคิดไม่ถึง จะส่งผลต่อความผิดปกติทางสายการมากยิ่งขึ้น วิธีบริหารสายตาง่ายๆ ควรเบรกพักสายตาในขณะทำงานสลับไปมา ทอดสายมองไกลสัก 20 วินาที เป็นอย่างน้อย

ฝุ่น PM 2.5 ระบาด สายตาก็ต้องการการปกป้องเช่นกัน

สิ่งที่เรามักมองข้าม ควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็กจิ๋ว เรายังสวมใส่หน้ากากอนามัยปกป้อง แต่รังสียูวีจากแสงอาทิตย์, รังสีแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์ต่างๆ, ฝุ่น, ควัน, ลม เหล่านี้ พร้อมทำร้ายดวงตาของเราได้ด้วยเช่นกัน เราสามารถปกป้องดวงตาด้วยการสวมใส่แว่น เพื่อช่วยสะท้อนรังสีต่างๆ ได้  และเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดเฉพาะปัญหาสายตาของแต่ละบุคคล

ตรวจสายตาทุกปี แก้ไขสายตาได้ทันท่วงที

การตรวจสายตาเป็นประจำทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ถือเป็นการลงทุนที่จำเป็นสำหรับสุขภาพดวงตาในปัจจุบันและอนาคต เพราะสายตาสามารถเปลี่ยนไปตามอายุในแต่ละช่วงวัย รวมถึงพฤติกรรมการใช้สายตาในชีวิตประจำวัน ที่ส่งผลให้คุณภาพของสายตาถดถอย เราจะได้พบกับทางเลือกที่ดี ตัวช่วยที่จะทำให้การมองเห็นโลกสวยคมชัด และสามารถถนอมสายตาอย่างถูกวิธีจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางด้านสายตาอีกด้วย

ที่มา : เอสซีลอร์