FENDI เปิดตัวบูติกที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ ในย่าน Miami Design District
FENDI ประกาศเปิดตัวใหม่สำหรับการขยายบูติกในไมอามี รัฐฟลอริดา ซึ่งขณะนี้มีพื้นที่กว่า 6,700 ตารางฟุต ตั้งอยู่ในย่านไมอามีดีไซน์ดิสทริค (Miami’s Design District) โดยนำเสนอคอลเลกชันสินค้าเครื่องหนัง และเสื้อผ้า ready-to-wear สำหรับบุรุษและสตรีผ่านทั่วทั้งสองชั้นของบูติก ซึ่งการออกแบบผสมผสานรหัสของ FENDI กับประวัติศาสตร์อันยาวนานและสีสันของไมอามี พร้อมกับการใช้โทนสีพาสเทลที่เป็นเอกลักษณ์และบรรยากาศที่สดใสของเมือง
บริเวณด้านหน้าของบูติกประกอบไปด้วยซุ้มโค้งขนาดใหญ่ทั้งสี่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ เพื่อเป็นการยกย่องรากฐานดั้งเดิมของ FENDI ที่มีต้นกำเนิดจากกรุงโรม กระจกสามมิติที่ถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษในสามรูปทรง และความลึกที่แตกต่างกัน ถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อจำลองลักษณะของคลื่นทะเล สร้างความตระการตาในยามค่ำคืนผ่านแสงสะท้อนของเมือง แกลเลอรีพิเศษที่ตั้งอยู่ด้านนอกของบูติกมีการปูด้วยกระเบื้องสีชมพูอ่อน ที่ออกแบบโดยการปรับแต่งโลโก้ FF ที่ประดับทั้งผนังและเพดานช่วยสร้างบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา พื้นที่กลางแจ้งนี้มีลักษณะเฉพาะด้วยพืชพรรณเขตร้อนอันเขียวขจีและมุมพักผ่อนที่เงียบสงบ
เมื่อก้าวเข้าสู่บูติกจะได้สัมผัสความหรูหราอันประณีต ของคอลเลกชันสินค้าเครื่องหนังและเครื่องประดับสำหรับสตรี พื้นหินอ่อนพาทาโกเนีย (Patagonia) และหินอ่อนทราเวอร์ทีน (Travertine) ที่มีลวดลายรูปเรขาคณิตอันเป็นเอกษณ์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลายหินอ่อนโรมัน ที่ถูกพบที่วิหารเวนัสในกรุงโรม ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่เคยจัดแสดงแฟชั่นโชว์ของคอลเลกชัน FENDI Couture Fall/Winter 2019-2020 ในส่วนของพรมที่ทอด้วยมือได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นทางน้ำของแม่น้ำเทเวอร์ในกรุงโรม โดดเด่นด้วยการใช้ลวดลายโค้งมนในพาเลทสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไมอามีอย่างโทนสีเขียวและชมพู
บริเวณชั้นหนึ่ง เฟอร์นิเจอร์ชิ้นพิเศษประกอบไปด้วยเก้าอี้เจีย (Jia Chair) โดยสตูดิโอ Atelier de Troupe รวมถึงโต๊ะกลมยูนิเวิร์ส (Universe Round table) โดย Arda Yeniay และเก้าอี้มารูลา (Marula) โดย Akha Yeniay ซึ่งทั้งสองชิ้นมาจากสตูดิโอ Studio Twentyseven Gallery ผนังหินอ่อนทราเวอร์ทีนลายริ้วมาพร้อมดีเทลโลโก้ FF จากอาไคฟ์เสริมด้วยโลหะสีเงินหรือแชมเปญ และแต่งแต้มด้วยไม้วอลนัท สร้างบรรยากาศที่หรูหราและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
โต๊ะดิสเพลย์ที่ถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษโดย Roberto Sironi มีลักษณะเป็นโค้งกลับด้านและทำจากหินอ่อน Rima วัสดุเดียวกันนี้ยังถูกนำมาใช้สร้างงานศิลปะชิ้นเอกที่ออกแบบโดย Sironi สะท้อนถึงการเย็บแบบ Selleria ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของ FENDI ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1925 ผ่านรอยเย็บหินอ่อนสีเหลืองของ FENDI ที่เชื่อมต่อจากชั้นแรกไปยังชั้นสอง โดยแสดงบนผนังหินอ่อนทราเวอร์ทีนลายริ้วสะท้อนถึงเสาหินโรมัน
หลังจากขึ้นบันไดไม้วอลนัทสีอ่อน ชั้นสองจะเปิดออกสู่พื้นที่ที่ผ่อนคลาย โดยมีพื้นหินอ่อนพาทาโกเนียและหินอ่อนทราเวอร์ทีนหรูหราเช่นเดียวกับชั้นแรก ซึ่งตกแต่งด้วยพรมกราฟิกสีสันสดใสที่ทอด้วยมือ ได้รับแรงบันดาลใจจากทิวทัศน์เส้นขอบฟ้าของไมอามีในโทนสีน้ำเงินและเขียว โดยนำเสนอเครื่องแต่งกายบุรุษผ่านการจัดแสดงที่เรียงรายด้วยโลหะสีแชมเปญ และดิสเพลย์หินอ่อนพาทาโกเนีย ซึ่งตัดกับผนังหินอ่อนทราเวอร์ทีนลายริ้ว มากไปกว่านั้นพื้นที่นี้ยังมีการตกแต่งด้วยมุมที่นั่งเฉพาะที่ใช้เฟอร์นิเจอร์จากสตูดิโอ Studio Twentyseven Gallery รวมถึงมุมที่นั่งดีไซน์สูงโดย Emmanuelle Simon และโต๊ะกลมยูนิเวิร์สในหินอ่อนทราเวอร์ทีนจาก Arda Yenijay
พื้นที่สำหรับสุภาพสตรีบนชั้นสองประดับประดาไปด้วยผนังกระจก vetrofusion แฮนด์เมดที่ตั้งอยู่ใจกลางของพื้นที่ โดยมีประตูโค้งที่โดดเด่นสองบานที่เชื่อมต่อกับส่วนหน้าของบูติก อีกทั้งยังเติมเต็มบรรยากาศของพื้นที่ด้วยโต๊ะดิสเพลย์จาก FENDI Casa พร้อมด้วยมุมพักผ่อนที่มีชุดที่นั่งดีไซน์สูงพิเศษสองจุด โดย Alter Ego และ Charlotte Biltgen
พื้นที่ส่วนตัวสำหรับแขก VIC ตกแต่งด้วยผ้าม่านที่มีลูกเล่นของสีไล่ระดับจากสีชมพูไปจนถึงสีงาช้าง พร้อมกับผนังสแตนเลสที่เพิ่มความหรูหรา ห้องพิเศษนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก FENDI Casa และผลงานศิลปะจากคอนกรีตที่มีสีเฉพาะโดยศิลปินชาวอิตาเลียน Edoardo Piermattei ซึ่งนำสัมผัสของความหรูหราแบบอิตาเลียนมาสู่ไมอามี