การ์มิน เฮลท์ เผยหนึ่งในเทรนด์การดูแลสุขภาพเชิงรุก ที่คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 และเกิดเทรนด์การสวมใส่สมาร์ทวอทช์เพิ่มขึ้นถึง 87% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่า เฮลท์เทคฯ (HealthTech) เข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการสาธารณะสุขอย่างมาก ทั้งการวินิจฉัย รักษาผู้ป่วย และการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน การพัฒนาเทคโนโลยีของ การ์มิน (Garmin) อาทิเช่น เซ็นเซอร์ติดตามสถานะสุขภาพที่สามารถทำได้หลากหลายมากขึ้น สามารถติดตามข้อมูลสุขภาพได้แบบ 24 ชั่วโมง ทั้งติดตามการนอน ระดับออกซิเจนในเลือด การออกกำลังกาย จากพลังแบตเตอรี่ที่อยู่ได้ยาวนาน ฯลฯ ทำให้พฤติกรรมผู้คนค่อย ๆ เปลี่ยนไป สามารถดูข้อมูลสุขภาพได้จากนาฬิกาบนข้อมือ โดยที่ไม่ต้องไปตรวจถึงโรงพยาบาล สะดวกต่อการกระตุ้นเร้าให้คนหันมาสนใจดูแลสุขภาพเชิงรุก ถือเป็นการเติบโตสำคัญที่จะพาคนไทยเปลี่ยนแปลงวิถีการดูแลสุขภาพ เพื่อตอกย้ำคอนเซ็ปต์ Monitoring for Preventive Health Issue หรือการติดตามแนวโน้มสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาสุขภาพในอนาคต

โซลูชั่นด้านดิจิทัลเฮลท์จากการ์มิน เป็นความล้ำสมัยที่ต่อยอดทางด้านสุขภาพเชิงรุก ดึง 2 คุณหมอชื่อดัง หมอเพื่อน – พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ป้องกัน และ หมอเอิ้น – พญ.พิยะดา หาชัยภูมิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลจิตใจ ร่วมแชร์แนวทางการใช้สมาร์ทวอทช์ ภายใต้แนวคิด Monitoring for Preventive Health Issue หรือการติดตามแนวโน้มสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาสุขภาพในอนาคต และการมีชีวิตแบบ The Optimal Life ชีวิตที่ดีที่สุดในแบบของคุณ เกิดขึ้นได้จากการดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมโชว์การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมาร์ทวอทช์ และการ์มิน เฮลท์ โซลูชั่น กับวงการแพทย์ครั้งแรกในประเทศไทย ในโปรเจค Better HemoLife

เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นได้ชัดว่า การ์มิน ได้พัฒนาฟีเจอร์ที่ครอบคลุมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการวัดระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด การติดตามระดับความเครียด ระดับความเข้มข้นในการออกกำลังกาย (Intensity Minutes) การติดตามสุขภาพของผู้หญิง ทั้งการติดตามรอบเดือน และการติดตามการตั้งครรภ์ อัตราการเต้นของหัวใจ ระดับพลังงานร่างกาย (Body Battery) การติดตามการนอนหลับ การติดตามการดื่มน้ำ และอัตราการหายใจ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกแสดงผลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายบนหน้าปัดสมาร์ทวอทช์ ผู้ใช้ยังสามารถดูข้อมูลอย่างละเอียดผ่านแอปพลิเคชัน Garmin Connect สามารถเลือกดูข้อมูลสุขภาพย้อนหลังได้ตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 1 ปี การ์มินมุ่งหวังว่าเทคโนโลยีติดตามสุขภาพของการ์มิน เฮลท์ จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นให้คนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมมาดูแลสุขภาพเชิงรุกกันมากขึ้น ไปสู่เป้าหมายสูงสุดคือการมีชีวิตแบบ The Optimal Life หรือชีวิตที่ดีที่สุดในแบบของคุณ ทั้งร่างกายและจิตใจให้อยู่ในภาวะสมดุล 

โดย พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี หรือ หมอเพื่อน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ป้องกัน ตอกย้ำถึงความสำคัญของการใช้สมาร์ทวอทช์ในการรักษาสมดุลสุขภาพว่า “ความเจ็บป่วยเกิดขึ้นโดยมีสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งมาจากการที่ร่างกายและจิตใจเสียสมดุล แต่กว่าเราจะรู้ว่าร่างกายกำลังเสียสมดุลก็ต่อเมื่อเราป่วยจนออกอาการ หรือร่างกายเกิดความผิดปกติบางอย่าง การมอนิเตอร์ด้วยเทคโนโลยีติดตามสุขภาพในสมาร์ทวอทช์ เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยให้เรารู้สภาพร่างกายปัจจุบันแบบเรียลไทม์ เมื่อเกิดภาวะไม่สมดุล ข้อมูลจะแสดงให้ทราบทันที ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อรักษาสมดุล ช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพเชิงป้องกันได้ง่าย และตรงจุดมากขึ้น ไม่ต้องรอให้เกิดโรคแล้วค่อยมารักษา”

ด้าน พญ.พิยะดา หาชัยภูมิ หรือ หมอเอิ้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลจิตใจ ได้แชร์แนวทางการรักษาสมดุลสุขภาพจิตใจว่า “บ่อยครั้งที่เราไม่รู้ตัวว่ากำลังเครียด เมื่อความเครียดสะสมมากเป็นระยะเวลายาวนาน ก็จะส่งผลเสียต่อการทำงานระบบต่าง ๆ ของร่างกาย การที่เรารู้สัญญาณของความเครียดและมีวิธีในการดูแล จึงเป็นการป้องกันปัญหาสุขภาพกายและจิตใจที่จะตามมา”

การ์มิน เฮลท์ และการ์มินสมาร์ทวอทช์ ไม่เพียงจำกัดอยู่เฉพาะผู้ใช้ทั่วไปเท่านั้น แต่ยังสามารถนำข้อมูลสุขภาพเชิงลึกที่ได้จากการ์มินสมาร์ทวอทช์ ซิงค์ข้อมูลไปยังแอปพลิเคชัน Garmin Connect เชื่อมต่อและแบ่งปันข้อมูลกับพาร์ทเนอร์ ผ่าน Garmin Health API, Garmin Standard SDK และ Garmin Companion SDK เพื่อให้พาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในด้านต่าง ๆ สามารถนำข้อมูลสุขภาพเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างแผนพัฒนาสุขภาพร่วมกัน สร้างให้สังคมไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ

สามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่ https://bit.ly/3xsh5cY หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 0 2262 8999 ต่อ 6801 หรือที่อีเมล th-contact@garmin.com