เพราะเทคโนโลยีที่พัฒนาไปในแต่ละวันได้ทำให้เรื่องต่างๆ ในชีวิตเราเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น รวมไปถึงเรื่องการดูแลสุขภาพ ฉะนั้นคำว่า ‘ไม่มีเวลา’ ที่มักถูกนำมาใช้เป็นเหตุผลเพื่อลดความสำคัญของเรื่องสุขภาพ จึงไม่น่าจะใช้ได้อีกต่อไป ในเมื่อตอนนี้การดูแลสุขภาพได้กลายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่อยู่ในมือ (ถือ) คุณ เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเหล่านี้

1. My Fitness Pal

เมื่อพูดถึงเรื่องสุขภาพ สิ่งแรกที่คนไม่น้อยจะนึกถึงคือ เรื่องการลดน้ำหนัก ซึ่งก็มีทั้งวิธีที่ถูกและผิด แต่แอปพลิเคชันนี้ ถือเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักที่ดีมาก เพราะจะช่วยวิเคราะห์สิ่งที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ได้ด้วยการใส่ข้อมูลรูปร่าง และลักษณะกิจกรรมแต่ละวัน รวมถึงเป้าหมายการลดน้ำหนักที่ต้องการ My Fitness Pal จะบันทึกปริมาณแคลอรี่จากอาหารที่รับประทานเข้าไปในแต่ละมื้อ มาคำนวนกับการใช้พลังงาน พร้อมแสดงเป็นกราฟอย่างง่ายๆ ทำให้คุณรู้ว่าแต่ละวันกินอะไรเข้าไปบ้าง ได้รับสารอาหารอะไรบ้าง แล้วใช้พลังงานได้เหมาะสมกับจำนวนแคลอรี่ที่รับเข้าไปหรือไม่ นอกจากนี้ในแต่ละวันแอปฯ จะสรุปความคืบหน้าออกมาเป็นกราฟ เพื่อให้ดูความคืบหน้า หรือหาจุดที่บกพร่องที่ยังต้องแก้ไข ทั้งยังมีบล็อกข้อมูลด้านสุขภาพดีๆ รวมถึงสูตรอาหารที่เป็นภาษาอังกฤษให้อ่านเป็นความรู้เสริมอีกด้วย เรียกว่า My Fitness Pal นี้ช่วยคุณวางแผนและคำนวนทั้งการออกกำลังกาย และปริมาณอาหารที่ควรรับประทานในแต่ละวัน คุณจึงสามารถลดน้ำหนักควบคู่ไปกับการมีสุขภาพที่ดีได้

2. Calorie Diary

อีกหนึ่งแอปพลิเคชันตัวช่วยควบคุมน้ำหนักแบบฉบับภาษาไทย ใช้งานง่าย สามารถสมัครเข้าใช้งานผ่านอีเมลหรือเฟสบุ๊กก็ได้เช่นกัน จากนั้นกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับน้ำหนักส่วนสูง จากนั้นแอปฯ จะให้เลือกกิจกรรมการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน รวมถึงรายละเอียดเป้าหมายที่ต้องการลด และแจ้งปริมาณแคลอรี่ที่ควรกินในแต่ละวัน การทำงานของแอปฯ จะคล้ายกับ My Fitness Pal แต่เป็นในรูปแบบภาษาไทย สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันสุขภาพอื่นๆ มีฟีเจอร์ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย มาพร้อมคำอธิบายท่าและตัวการ์ตูนแอนิเมชั่นแสดงท่าทางประกอบ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงระดับยาก มีกราฟคำนวณแคลอรี่และน้ำหนักภายในแต่ละอาทิตย์เปรียบเทียบ รวมถึงมีโค้ชส่วนตัว ที่เตือนให้บันทึกเมนูอาหาร และให้คำแนะนำในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การดื่มน้ำ หรือการเคี้ยวข้าว เป็นต้น สำหรับแอปฯ Calorie Diary นี้สามารถใช้งานได้ทั้งแบบปกติและแบบพรีเมียม ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยแบบปกติสามารถใช้ได้เฉพาะส่วนของการบันทึกเมนูอาหารที่มีอยู่ในแอพฯ ไม่สามารถเพิ่มเองได้ แต่แบบพรีเมียม สามารถเพิ่มรายการอาหาร ท่าออกกำลังกายเองได้ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น

3. 30 Day Fitness Challenge Workout at Home

เพิ่มแรงจูงใจให้การออกกำลังกายด้วยแอปพลิเคชัน 30 Day Fitness Challenge Workout at Home ที่สนุกและท้าทายมากขึ้น ด้วยการรวบรวมโปรแกรมการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ที่บ้าน ระยะเวลาของแต่ละโปรแกรมมีความยาว 30 วัน ซึ่งโปรแกรมการออกกำลังกายในแอปฯ นี้ล้วนแต่ได้รับกาารออกแบบโดยโค้ชมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญทางด้านการออกกำลังกาย เพื่อดูแลสุขภาพและรูปร่างให้กระชับ แข็งแรง พร้อมกันนี้ยังเป็นท่าทางการออกกำลังกายที่วิทยาศาสตร์รับรองแล้วว่าช่วยพัฒนาความฟิตและยกระดับสุขภาพได้จริง ระดับการออกกำลังกายจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ไปทีละขั้น จึงไม่ยากเกินไปที่จะทำให้ครบเซ็ตในแต่ละวัน สามารถเลือกระดับความยากได้ถึง 3 ระดับ ตั้งแต่ระดับ Beginner ไปจนถึง Pro สามารถซิงค์ข้อมูลเกี่ยวกับการเผาผลาญแคลอรี่กับแอพฯ Google Fit ได้อีกด้วย ทำให้สรุปข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพความฟิตได้รอบด้าน

4. Sleep Cycle Alarm Clock

ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารการกินและการออกกำลังกายเท่านั้น ที่จะส่งต่อสุขภาพ แต่การนอนหลับพักผ่อนยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการมีสุขภาพที่ดีได้ โดยแอปพลิเคชัน Sleep Cycle alarm clock จะทำหน้าที่คำนวนการนอนหลับพร้อมเป็นนาฬิกาปลุกให้กับคุณ ซึ่งแอปฯ จะใช้ความสามารถของไมโครโฟนในเครื่อง ทำการตรวจจับเสียง ที่มาจากการเคลื่อนไหวของร่างกายขณะอยู่บนเตียง นั่นจะเป็นตัววัดว่ายิ่งคุณขยับตัวมาก และบ่อยเท่าไหร่ ก็หมายถึงว่าคุณยังไม่หลับสนิทนั่นเอง และเมื่อถึงเวลาตื่น นาฬิกาในแอปฯ  ก็จะส่งเสียงปลุก จากนั้นก็จะแสดงผลการวิเคราะห์การนอนหลับของคุณในรูปแบบกราฟ ยิ่งกราฟออกมาแบบขึ้นๆ ลงๆ มากเท่าไหร่ แสดงว่าคืนนั้นคุณแทบจะไม่ได้หลับลึกเลยนั่นเอง ตรงกันข้ามหากว่าเส้นกราฟราบเรียบ และอยู่ในระยะของ Deep Sleep มากเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าคืนนั้นคุณได้มีการนอนหลับลึกอย่างมีคุณภาพนั่นเอง สำหรับแอปฯ นี้จะใช้วัดคุณภาพการนอนหลับได้ฟรี แต่หากต้องการฟังก์ชันที่สูงขึ้น เช่น วัดการกรน รวมถึงการวัดว่าสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปมีผลต่อคุณภาพการหลับหรือไม่ ก็สามารถที่กดสมัครสมาชิกแบบ Premium ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายรายปี

5.  Daylio – Journal, Diary, Moods

จบจากเรื่องสุขภาพร่างกายแล้ว อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพจิตใจ ด้วยแอปฯ Daylio – Journal, Diary, Moods ที่คุณสามารถบันทึกอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองแบบเรียลไทม์ เพราะในแต่ละเวลานาทีที่ผ่านไปอารมณ์ของเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ฉะนั้นในทุกๆ วันอารณ์ความคิดของเราย่อมจะไม่เหมือนกัน แอปฯ นี้จึงทำหน้าที่คอยเตือนให้บันทึกอารมณ์ของตัวเองในแต่ละขณะ โดยสามารถระบุได้ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้รู้สึกแบบนี้ เพื่อให้มองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมและอารมณ์ความรู้สึก หรือมองเห็นต้นเหตุที่มาของอารมณ์ต่างๆ การใช้งานก็ทำได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เลือกไอคอนอารมณ์ในแต่ละวันว่า วันนี้เป็นอย่างไร ทำอะไรมา สามารถจดบันทึกได้ทุกวัน เพื่อที่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป คุณจะสามารถย้อนกลับไปดูปฏิทินว่า ช่วงเดือนที่ผ่านมาอารมณ์ของคุณเป็นอย่างไร แล้วส่งผลต่อไปยังเรื่องของสุขภาพร่างกายหรือไม่อย่างไร เพราะทั้งร่างกายและจิตใจนั้นต่างก็มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

6. DoctorMe

แอปพลิเคชันด้านสุขภาพบนสมาร์ทโฟน ที่จัดทำและพัฒนาโดยคนไทยนี้ ทำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือการดูแลสุขภาพตัวเองเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ซึ่งภายในแอปพลิเคชันจะประกอบด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย วิธีการรักษา พร้อมข้อมูลเบื้องต้น โดยคุณสามารถกรอกอาการหลักๆ พร้อมเลือกอาการย่อยต่อ เพื่อจำกัดวงของโรค โดยแอพจะแนะนำยาที่สามารถช่วยรักษาอาการป่วยนั้นได้ ซึ่งมีทั้งยาแผนปัจจุบันและยาสมุนไพร นอกจากนี้ยังมีวิธีปฐมพยาบาลสำหรับอาการต่างๆ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่บางครั้งคุณอาจตกใจจนทำอะไรไม่ถูก พร้อมด้วยเบอร์โทรฉุกเฉิน และยังสามารถบันทึกข้อมูลสุขภาพของตัวเองและคนสำคัญของคุณในแต่ละวัน เพื่อดูภาพรวมผ่านทางสรุปสุขภาพประจำสัปดาห์ มาพร้อมคำแนะนำเนื้อหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับอาการของคุณ

เรื่อง : จักรีรัตน์  อัสดรวุฒิไกร