“เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท แอนด์ สปา” ปรับโฉมครั้งใหญ่! สร้างมิติใหม่ยกระดับบริการสู่ลักชัวรี่รีสอร์ตครบวงจรแถวหน้าของไทย พร้อมเปิดตัวที่พักโซนใหม่
เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท แอนด์ สปา (JW Marriott Khao Lak Resort & Spa) รีสอร์ตหรูแบรนด์ระดับโลกในเครือ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล จุดหมายที่เป็นดั่งสวรรค์แห่งการพักผ่อนริมทะเลเขาหลัก บนหาดคึกคักที่จัดว่าสวยที่สุดหาดหนึ่งของจังหวัดพังงา การันตีด้วยรางวัลมากมายในระดับโลกและระดับเอเชีย ล่าสุดกับรางวัล Best Hotel For Weddings 2022 จาก Travel+Leisure India & South Asia สร้างมิติใหม่ยกระดับสู่จุดหมายพักผ่อนระดับลักชัวรี่ ที่ครบวงจรมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เป็นสปอร์ตไลต์แห่งการท่องเที่ยวพักผ่อนยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ภายหลังจากใช้เวลายาวนานถึง 18 เดือน ในการปรับโฉมรีสอร์ตครั้งใหญ่
ไปพร้อมผลักดันจุดหมาย “เขาหลัก” ให้กลายเป็นปลายทางของการท่องเที่ยวยอดนิยม สอดรับกับแนวคิด destination within a destination ที่ เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท แอนด์ สปา โฉมใหม่พร้อมเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น คู่รัก แฟมิลี่ หรือกลุ่มธุรกิจ MICE ด้วยการมอบประสบการณ์การพักผ่อนอย่างสร้างสรรค์และอบอุ่น บริการที่มีความพิเศษเฉพาะตัว และโดดเด่นด้วยพื้นที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติและแนวชายหาดที่สวยงามเงียบสงบ
แอบบิห์มันยู ซิงห์ (Abhimanyu Singh) ผู้จัดการทั่วไป เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท แอนด์ สปา พร้อมทีมบริหาร กล่าวถึงการยกระดับรีสอร์ตไปอีกขั้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ที่มองหาการพักผ่อนในสถานที่มีอัตลักษณ์ นำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ อันน่าจดจำ ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ สามารถพักผ่อนได้ในระยะยาว การเพิ่มจำนวนห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จึงทำให้รีสอร์ตแห่งนี้กลายเป็นหมุดหมายที่น่าจับตา เปี่ยมเสน่ห์ดึงดูดให้ต้องเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า อีกทั้งยังสามารถรองรับในกิจกรรมสัมนาและเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมไปจนถึงระดับประเทศอีกด้วย
การเดินทางเพียงหนึ่งชั่วโมง จากสนามบินนานาชาติภูเก็ต สู่อาณาจักรแห่งการพักผ่อนอันบนพื้นที่กว้างใหญ่ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ไร้กาลเวลา ในคอนเซ็ปต์ Classic Luxury การออกแบบอันทรงคุณค่าความเป็นไทยคลาสสิก ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์สไตล์ไทยล้านนา ผสมผสานศิลปะไทยภาคใต้ในแถบชายฝั่งทะเลอันดามัน หลังคามุงกระเบื้องสีอิฐ รับกับตัวอาคารปูนสีขาว อัตลักษณ์ในสไตล์เฉพาะของ เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท แอนด์ สปา กลุ่มอาคารได้ถูกจัดวางอย่างลงตัวเปิดรับวิวสระน้ำแบบลากูน ท่ามกลางความเขียวสดชื่นของแมกไม้สวนสวยในสไตล์ทรอปิคอลและท้องทะเลอันดามัน ส่วนโถงต้อนรับให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ตกแต่งโดยเน้นความเป็นไทยร่วมสมัย ดั่งประตูบานใหญ่ที่จะพานักพักผ่อนเปิดทุกโสตสัมผัส รับทุกมิติความหรูหราโฉมใหม่ภายในรีสอร์ตแห่งนี้
นิยามความลักชัวรีในแบบของรีสอร์ตแห่งนี้ สื่อถึงความหรูหราที่ได้อยู่กับตัวเอง การให้รางวัลชีวิตที่ใช้เวลาทุกนาทีกับธรรมชาติ มาเริ่มกันด้วย พื้นที่แห่งการพักผ่อนที่มีการขยายห้องพักและเพิ่มโซนใหม่ ด้วยการ เพิ่มจำนวนห้องพักและวิลล่า อีก 127 ห้อง จากเดิมที่มีจำนวนห้องพัก 293 ห้อง ปัจจุบันรวมห้องพักทั้งสิ้นถึง 420 ห้อง ทุกห้องตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย มีระเบียงส่วนตัว และสัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ผสมผสานงานผ้าทอพื้นเมืองและผ้าไหมลวดลายงดงาม ยังนำกระสวยไม้เส้นไหมหลากสีมาประดับตกแต่งบนผนัง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บานสไลด์เป็นดั่งฉากกั้นระหว่างเตียงนอนกับห้องน้ำ เพิ่มประโยชน์ใช้สอยด้วยกระจกบานสูง อ่างน้ำหินอ่อนให้นอนแช่ตัวสุดผ่อนคลาย สบายตาด้วยผืนน้ำและสวนเขียวจากวิวระเบียงห้องพัก ประกอบด้วยห้องพักหลายแบบ ดังนี้ Deluxe Lagoon Pool View ห้องดีลักซ์บนชั้น 2 วิวสระลากูน, Deluxe Lagoon Pool Access ห้องดีลักซ์ติดสระลากูน สามารถลงสระน้ำได้จากระเบียงส่วนตัว, Family Pool Access Studios ห้องสำหรับครอบครัวแบบสตูดิโอติดสระลากูน, Duplex Suite ห้องดูเพล็กซ์สวีท 2 ชั้น พื้นที่โอ่อ่ากว้างขวาง กระจกบานยาวผืนกว้างเชื่อมสองชั้นเข้าด้วยกัน เปิดรับแสงธรรมชาติ พร้อมวิวสวนเขตร้อนที่สวยงาม, Executive Suite เพลิดเพลินกับความโอ่โถงในห้องสวีทที่หรูหราพร้อมห้องน้ำกลางแจ้ง และ Two Bedroom Suite กับ 2 ห้องนอน 2 ระเบียง 3 ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น รวมพื้นที่รับประทานอาหาร
สำหรับโซนที่ได้รับการปรับโฉมใหม่นี้ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ โดยเฉพาะคู่รักสามารถเติมเต็มความสวีทได้แบบเป็นส่วนตัว ภายในห้องพักคอลเลกชันวิวสระว่ายน้ำ และห้องติดสระลากูนอันเงียบสงบ สามารถเข้าถึงบาร์ในสระว่ายน้ำ ที่ให้ความรู้สึกแสนผ่อนคลาย จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ชื่นใจยามบ่าย ปล่อยกายใจไปกับบรรยากาศสุดแสนสบายในสระแบบอินฟินิตี้ ได้ที่ Infinity Pool Bar และ Aquamarine Pool Bar
ในส่วนของวิลล่าส่วนตัว 3 หลัง มอบสุดยอดการใช้ชีวิตอันหรูหราริมชายหาด พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว จากุซซี่ และห้องพักกว้างขวาง โดดเด่นด้วยสไตล์แบบบ้านไทยภาคใต้ร่วมสมัย ให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วยกระจกบานสูงรอบด้าน โดยวิลล่าขนาด 1 ห้องนอน One Bedroom Villa ประกอบด้วย พื้นที่ใช้สอยแบบเปิดโล่งรับแสงจากธรรมชาติ ผ้าทอมือลายพื้นเมืองตกแต่งบนผนังหัวเตียง ห้องน้ำได้รับแรงบันดาลใจแบบสปา ในขณะที่วิลล่าแบบ 2 ห้องนอน Two Bedroom Villa เหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน มาพร้อมเตียงคิงไซส์และห้องนอนเตียงคู่ พร้อมสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ 2 สระ ในบรรยากาศเปิดรับวิวทะเลอันดามันแบบพาโนราม่า ชมพระอาทิตย์ซันเซ็ตที่งดงามจับใจ
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มที่พักโซนใหม่ “เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท สวีทส์” (JW Marriott Khao Lak Resort Suite) ที่ช่วยเติมเต็มการพักผ่อนให้ครบวงจรสำหรับนักเดินทางกลุ่มใหญ่มากขึ้นในแบบครอบครัว ด้วยคอลเลกชันห้องสวีทแบบ 2 ห้องนอนสุดหรู ขนาด 89 – 111 ตารางเมตร มากถึง 52 ห้อง ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง 2 ชั้น บริเวณชั้น 2 มีระเบียงส่วนตัวมองเห็นวิวสวนสวยโดยรอบ ส่วนชั้นล่างติดกับสระว่ายน้ำ (Pool Access) สามารถลงไปแหวกว่ายในสระลากูนได้จากระเบียงส่วนตัว และยังมีกระโจมผ้าเป็นกิมมิกให้คุณหนู ๆ ได้มีพื้นที่สนุกสนาน และมีห้องใต้หลังคาที่เด็ก ๆ โหยหา นับเป็นรีสอร์ตแห่งแรกในเขาหลัก ที่นำเสนอความสะดวกสบายตรงใจเสมือนอยู่บ้าน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ที่ต้องการใช้เวลาอันสุดพิเศษร่วมกันอย่างมีคุณภาพ เพื่อสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจร่วมกัน ประกอบด้วยห้องพักแบบ Two-Bedroom Suite Pool View, Two-Bedroom Family Suite Garden View, Two-Bedroom Loft Suite Poolview และ Two-Bedroom Suite Pool Access
อีกหนึ่งไฮไลท์เป็นที่ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ นั่นคือสระว่ายน้ำแบบลากูนที่ทอดยาวรอบรีสอร์ตถึง 2.4 กิโลเมตร เชื่อมต่อกันในทุกโซน ถือได้ว่าเป็นสระว่ายน้ำที่ทำสถิติยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ด้านหน้าล็อบบี้ไปจนถึงอาคารห้องพัก ไม่ว่าจะพักอยู่โซนไหน โดยเฉพาะห้องพัก Deluxe Lagoon Pool Access ที่สามารถลงไปแหวกว่ายลอยคอเดินลงสระจากระเบียงห้องพักส่วนตัวได้เลย
อีกทั้งการเพิ่ม “Aqua Play Zone” ใหม่ สำหรับกลุ่มครอบครัวบริเวณใจกลางสระหลัก ที่เชื่อมกันกับไลน์ของสระที่ทอดยาวตามแนวอาคารห้องพักรูปตัวยูของรีสอร์ต ให้ได้เพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่น และกิจกรรมทางน้ำตลอดทั้งวัน สนุกสนานกระชับความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก อาทิ “สระโต้คลื่น” และ “แทรมโพลีนน้ำพุ” ยังมี “สไลเดอร์” รวมถึง “สนามเด็กเล่นกลางแจ้ง” ไว้ให้น้อง ๆ หนู ๆ ได้เพลิดเพลินกันต่ออย่างไม่รู้เบื่อ
รีสอร์ตแห่งนี้ ไม่เพียงห้องพักที่แสนสบายราวได้พักผ่อนในบ้านหลังที่สอง แต่ยังขึ้นชื่อเรื่องของอาหารเลิศรสให้เลือกรับประทานอย่างหลากหลาย ทั้งห้องอาหาร บาร์ พูลบาร์ และคาเฟ่ มากถึง 11 แห่ง ที่ออกแบบมาตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัว เรียกว่าสามารถอิ่มอร่อยกันได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ นำร่องที่กาแฟหอม ๆ สักแก้วยามเช้า แล้วมาอิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ในบรรยากาศห้องกระจกพร้อมรับฟังการบรรเลงเพลงไทยเดิม ขับกล่อมให้มื้อเช้าเริ่มต้นวันกันด้วยความสุขสดชื่น ไปจนถึงอาหารตามสั่งแสนอร่อยมื้อกลางวันที่ ห้องอาหารวอเตอร์ฟร้อนท์ (Waterfront) หรือจะชิลกับอาหารว่างง่าย ๆ ในร้านสไตล์คาเฟ่ ได้แซนวิชกับเครื่องดื่มแก้วโปรด ในโหมดของคนรักแป้ง ไอศกรีม และเบเกอรี่ มีให้เอนจอยได้ตลอดทั้งวัน ที่ เดลี่ (Deli)
ช่วงสายของวันสัมผัสแดดอุ่น พร้อมเครื่องดื่มค็อกเทลแสนสดชื่น เพลินเพลิดไปกับทัศนียภาพแสนร่มรื่นของทิวมะพร้าว เปลือยเท้าเดินบนหาดทรายขาว ปล่อยนาฬิกาชีวิตเนิบช้าใต้ร่มเงาธรรมชาติ นั่งนอนฟังเสียงคลื่นชมทะเล ที่ บีช บาร์ (Beach Bar)
มาต่อกันที่ ห้องอาหารศาลา แอนด์ พูล บาร์ (Sala Restaurant & Pool Bar) น้องใหม่ ตั้งอยู่บนลากูนสระว่ายน้ำใจกลางรีสอร์ต ร้านอาหารบรรยากาศน่านั่งสบาย ๆ เสิร์ฟอาหารว่างดีต่อใจดีต่อสุขภาพ แนวคอมฟอร์ตฟู้ด เอเชี่ยน และอินเตอร์ รวมถึงดริงก์สดชื่น ที่แฮงเอาท์หลังอาบแดดจากกิจกรรมทางน้ำ พร้อมเติมความชื่นฉ่ำระหว่างวัน และยังเป็นพื้นที่สร้างสรรค์กิจกรรมเวิร์กชอปทางด้านอาหาร ให้ทั้งครอบครัวได้สนุกสนานร่วมกัน หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งที่ Czar Lobby Bar ชมวิวสวยของสระว่ายน้ำ ลิ้มลองเครื่องดื่มแก้วโปรดกับคนที่คุณรัก
สำหรับมื้อค่ำเลือกอิ่มอร่อยได้หลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น เมดิเตอร์เรเนียน อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น หรืออิตาเลี่ยน ที่เชฟคนสำคัญคัดสรรค์วัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงจากท้องถิ่นตามฤดูกาล และจาก “แปลงผักปลอดสารพิษ” (JW Garden) ของรีสอร์ต นำมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารจานพิเศษใน ห้องอาหารตะไคร้ (Ta-Krai Restaurant) เสิร์ฟอาหารไทยสูตรต้นตำรับ และอาหารใต้รสชาติจัดจ้านถูกปาก ในบรรยากาศตกแต่งแบบไทย มีทั้งที่นั่งบนพื้นไม้ยกระดับกับหมอนอิงสามเหลี่ยม รวมไปถึงโซนที่นั่งแบบไพรเวท
ชวนมาลิ้มลองกันต่อ ณ ห้องอาหารซากุระ (Sakura) ต้นตำรับซูชิและเทปันยากิ ญี่ปุ่นต้นตำรับขนานแท้ ผสมผสานการตกแต่งที่คงความคลาสสิกร่วมสมัย สามารถเลือกนั่งรับประทานภายในห้องอาหารหรือเอาท์ดอร์ ชมวิวสระน้ำรับลมทะเล หรือจะเพลิดเพลินไปกับอาหารอิตาเลี่ยนโฮมเมดรสชาติดั้งเดิมจับคู่ไวน์ชั้นเลิศ ในบรรยากาศครัวเปิด ที่ ห้องอาหารโอลีฟ (Olive Restaurant) คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาลและจาก JW Garden พืชผักสวนครัวออร์แกนิกปลูกในรีสอร์ต ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออร่อย มีให้เลือกนั่งสบาย ๆ ทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์ ได้ซึมซับกับบรรยากาศยามเย็น ชมท้องฟ้าเปลี่ยนสีในค่ำคืนดินเนอร์สุดผ่อนคลาย
และอีกสีสันฉลองอาหารอันหลากหลายของทะเลเมดิเตอเรเนียน ณ ห้องอาหารเปิดใหม่ ดริฟท์ บีช บาร์ แอนด์ กริลล์ (DRIFT Beach Bar & Grill) ริมทะเล ลิ้มรสชาติสเต็กเกรดพรีเมียม สวรรค์ของคนรักเนื้อและทะเลปิ้งย่างสดใหม่ คัดสรรค์วัตถุดิบคุณภาพดีที่สุดจากทุกมุมโลก นำมาพิถีพิถันอบและย่างบนเตาจอสเปอร์ (Josper Charcoal) ที่ใช้ถ่านไม้สนเนื้อแข็ง ให้ความร้อนเร็ว มีกลิ่นเฉพาะ และช่วยให้เนื้อมีความนุ่มชุ่มฉ่ำชูรสชาติอาหารได้อย่างยอดเยี่ยม หลากหลายซิกเนเจอร์เมนูหารับประทานได้เฉพาะที่นี่ จับคู่เครื่องดื่มไวน์ที่คัดสรรค์มาเสริมอรรถรสซึ่งกัน หรือจะเอนจอยสังสรรค์ไปกับค็อกเทลบาร์หลากเมนูที่มิกโซโลจิสต์รังสรรค์ความสดชื่น เติมแต่งรสชาติด้วยวัตถุดิบจากสวนออร์แกนิกของรีสอร์ต มอบเป็นรางวัลแห่งค่ำคืนสุดพิเศษ
ดริฟท์ ชื่อนี้มาจากทะเล และยังให้ความสำคัญกับคุณค่าของทุกชีวิตในท้องทะเล โดยมีแคมเปญรณรงค์ให้ผู้คนรักษ์ทะเลด้วยการทำกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ จับมือกับกลุ่มศิลปินท้องถิ่น รังสรรค์ศิลปะที่มาจากขยะทะเล สื่อสารในมุมที่สร้างสรรค์ เพิ่มมูลค่าให้กับขยะเหล่านั้น และนำผลงานศิลปะไปจำหน่ายนำเงินมาช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก ๆ ในท้องถิ่นต่อไป
และทางรีสอร์ตยังสามารถรังสรรค์ Romantic Dinner เนรมิตไพรเวทดินเนอร์ในบรรยากาศสุดโรแมนติก กับการตกแต่งประดับประดาที่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ สร้างโมเมนต์อันน่าจดจำสำหรับคู่รักให้สวีทหวานร่วมกัน ไปพร้อมรับประทานอาหารมื้อสุดพิเศษ ที่รังสรรค์โดยเชฟมากประสบการณ์ ซึมซับรสชาติของอาหารไปพร้อมกับความโรแมนติกแห่งช่วงเวลาพระอาทิตย์อัศดง ท่ามกลางวิวทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเขาหลักเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังครีเอทกิจกรรมมากมายกว่า 50 กิจกรรม ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ ๆ ตั้งแต่เช้าจรดบ่าย ทั้งแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ ให้เข้ากับธรรมชาติในรูปแบบ Save The World ไฮไลท์ไม่ว่าจะเป็น บริการ Welcome Kids ด้วยไอศกรีมหลอด, บริการเรือสำหรับเด็ก ๆ หลังเช็กอินยังห้องพัก, บริการความสดชื่นน้ำมะพร้าวสดหอมหวานบนเรือ เสิร์ฟถึงระเบียงห้องพัก หรือจะลอง มาสเตอร์คลาสผสมค็อกเทล ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมิติของทะเล, เวิร์กชอปทำสบู่ หรือ Cooking Class ในห้องอาหารต่าง ๆ อย่าง Pasta Cooking Class เรียนทำพาสต้าเส้นสด, Thai Food Cooking Class เลือกใช้วัตถุดิบและปรุงเมนูง่าย ๆ, Olive Oil Class เปิดโลกน้ำมันมะกอกหลากชนิดนำมาแพริ่งกับอาหาร หรือประลองไพวพริบกับ มวยไทยทะเล (Mauy Thai Sea Boxing) กีฬาที่เรียกเสียงเฮฮาได้อย่างมาก หรือจะชวนกันไป เวิร์กช็อปรักษ์โลกกับกิจกรรม “Art of Trash” ค่ำ ๆ ชวนกันเอกเขนก ดูหนังริมชายหาด
หรือจะออกไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยว ยังผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของเขาหลัก ด้วยกิจกรรม ล่องแพไม้ไผ่ที่ ธารน้ำตกวังเคียงคู่ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา นั่งล่องแบบเพลิน ๆ ชมนกชมไม้ไปตามสายธารที่ไหลเอื้อย ๆ ในระยะทาง 3 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่แนะนำให้ลองกันเลย
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกทั่วทั้งรีสอร์ตได้รับการปรับเพิ่มเติม เพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบและหลากหลายยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ทุกกลุ่มทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น ฟิตเนส ที่เปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง ด้วยอุปกรณ์อย่างครบครัน สำหรับสายเฮลตี้ที่รักการออกกำลังกาย สามารถเลือกกิจกรรมกีฬาที่ชื่นชอบ อย่าง เทนนิส, สควอช, ขี่จักรยานริมหาด, วอลเล่ย์บอลชายหาด, พายเรือคายัค, เซิร์ฟบอร์ด หรือจะเป็น โยคะยามเช้าริมทะเล ยังมี Kids Club กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้และความบันเทิงสำหรับคุณหนู ๆ พร้อมมุมพักผ่อนส่วนตัวอันร่มรื่นที่กระจายอยู่รอบรีสอร์ต
หลังจากกิจกรรมมากมาย อีกหนึ่งความผ่อนคลายต้องไม่พลาด! ซิกเนเจอร์สปา ณ ควอน สปา (Quan Spa) ที่ได้รับรางวัลนานาชาติ ให้การปรนนิบัติร่างกายแบบองค์รวมตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ด้วยโปรแกรมการนวดแผนไทยไปจนถึงการพอกตัว สครับผิว และฟื้นฟูผิวให้เปล่งปลั่ง ด้วยน้ำมันมะพร้าวออร์แกนิกที่ทำเองในรีสอร์ต ท่ามกลางบรรยากาศแบบโอเอซิสบึงบัวสวยงามเงียบสงบ
อีกทั้งรีสอร์ตยังให้ความสำคัญกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก เพื่อการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพเข้าลึกถึงจิตวิญญาณ ด้วยความใส่ใจเป็นพิเศษกับการดูแลต้นไม้ให้สดชื่นอยู่เสมอ การออกแบบสวนอย่างมีเอกลักษณ์ในแบบสวนทรอปิคอล ละลานตาด้วยแมกไม้นานาพรรณของต้นไม้เขตร้อนชื้นที่ให้ความเขียวสดชื่นรื่นรมย์ กระจายรอบบริเวณอาคารที่พักจรดสระว่ายน้ำ ลดหลั่นสวยงามไปจนถึงแนวหาดทรายชายทะเล ถ้าจะกล่าวถึงดีเอ็นเอของ เจดับบลิว แมริออท การรังสรรค์สวนธรรมชาติ JW Garden ถือเป็นแนวคิดหลัก เพื่อกิจกรรมการเรียนรู้ธรรมชาติต่าง ๆ โดยเริ่มจากพื้นที่สำหรับแปลงผักออร์แกนิกขนาดย่อม นำวัตถุดิบมาใช้ในการปรุงอาหารของรีสอร์ต และค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นสวนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นครบวงจรมากขึ้นในอนาคต เป็นแนวทางของการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติอย่างมีคุณภาพ และอีกโครงการ Sharks Nursery ในอนาคตอันใกล้ ทางรีสอร์ตกำลังดำเนินการพัฒนาพื้นที่บางส่วนให้เป็น ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล (Marine Discovery Centre) เป็นความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสนับสนุนอาชีพคนในท้องถิ่น ไปพร้อมการอนุบาลสัตว์ทะเลหายาก อย่าง Bamboo Shark ฉลามสายพันธ์พื้นเมือง เพื่อคืนความสมดุลให้กับระบบนิเวศน์ทางทะเลเขาหลักอีกด้วย
นอกจากนั้น พื้นที่อันกว้างขวางของรีสอร์ต ยังสามารถรองรับกลุ่มลูกค้า ไมซ์ “MICE” ได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยห้องฟังก์ชั่นหลายขนาด พร้อมทีมงานมืออาชีพและเทคโนโลยีสุดล้ำ รวมถึง ห้องแกรนด์บอลรูม (JW Grand Ballroom) ขนาด 758 ตารางเมตร ที่จุแขกได้ถึง 810 คน เหมาะมากสำหรับการจัดงานแถลงข่าวภาคธุรกิจ งานอีเวนต์ต่าง ๆ โดยสามารถแบ่งพื้นที่ให้เป็นห้องย่อยได้ถึง 3 ห้อง เพื่อใช้จัดแสดงสินค้าและนิทรรศการได้อีกด้วย
และยังรองรับ การจัดงานแต่งงาน ที่มีแขกจำนวนหลักพันได้อย่างสบาย ๆ ทั้งภายในห้องจัดเลี้ยง สนามหญ้า หรือริมทะเล ในบรรยากาศธรรมชาติ ซึ่งนับเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์พร้อมในการรองรับการจัดงานตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางทั้งการจัดประชุมและงานแต่งงานในเขาหลัก ที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
โดดเด่นด้วยความเป็นที่สุดทุกด้าน
นับได้ว่าการปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่ของ เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท แอนด์ สปา และการเปิดตัวที่พัก “เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท สวีทส์” ครั้งนี้ นอกจากตอกย้ำความเป็นจุดหมายแห่งการพักผ่อนเหนือระดับ ด้วยการขยายประสบการณ์เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ด้วยบริการอันเป็นสากลจากจิตวิญญาณของทีมรีสอร์ตทุกคน ทุกรอยยิ้มและทุกความใส่ใจ เป็นดั่งดีเอ็นเอที่ทำให้แขกผู้เข้าพักอบอุ่นสบายใจเสมือนบ้านหลังที่สองในที่พักระดับลักซ์ชูรี่ ที่จะทำให้คิดถึงจุดหมายเขาหลักอยู่เสมอ พร้อมมอบแรงบันดาลใจในทุกมิติ ยังโดดเด่นด้วยความเป็นที่สุดในทุกด้าน นั่นคือ ที่สุดของที่พักที่มีสระว่ายน้ำแบบลากูนมีความยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึง 2.4 กิโลเมตร, ที่สุดของการมีห้องพักแบบ Pool Access รอบสระว่ายน้ำ ที่สามารถลงสระน้ำได้จากระเบียงส่วนตัวมากที่สุดในเขาหลักและภาคใต้ ถึง 178 ห้อง, ที่สุดของห้องอาหารที่รองรับทุกความต้องการถึง 11 ห้องอาหารและบาร์ ครบจบในที่เดี่ยว และที่สุดของพื้นที่ในการรองรับการจัดประชุมใหญ่ที่สุดในเขาหลัก ด้วยห้องบอลรูมที่มีขนาด 758 ตารางเมตร และ ที่สุดของความลงตัวรีสอร์ตท่ามกลางธรรมชาติ บนหาดกว้างที่สวยที่สุดหาดหนึ่งของเขาหลักอีกด้วย
-||-
โปรโมชันเปิดตัวรีสอร์ทใหม่
📢 พิเศษสุด! เพื่อต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว พร้อมโปรโมชันเปิดตัวรีสอร์ทใหม่ ด้วยแพ็กเกจ The Ultimate Family Experience สำหรับที่พักส่วน “เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท สวีทส์” ดังนี้
- อาหารเช้าสำหรับผู้ใหญ่ 4 ท่าน หรือผู้ใหญ่ 2 ท่าน และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จำนวนไม่เกิน 2 ท่าน
- รถตู้รับ-ส่งจากสนามบินฟรี (จากราคาเต็ม 6,000 บาท)
- กระโจมส่วนตัวสำหรับคุณหนูในห้องพัก
- สามารถเข้าใช้บริการสระน้ำโซนใหม่ของโรงแรมได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- สำหรับห้องพักประเภท Pool Access จะได้รับบริการ boat check-in เช็คอินด้วยเรือพายสำหรับคุณหนูโดยไม่มีค่าใช้จ่าย!
- ในราคาเริ่มต้นเพียง 10,685-บาท/คืนเท่านั้น!
- จองตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2566
- พร้อมเข้าพักได้ตั้งแต่ วันนี้ – 30 มิถุนายน 2566
สำรองที่พักหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
☎️ โทร. 076 584 888
📧 อีเมล: jw.khaolak.reservation@marriott.com
🌐 ข้อมูลเพิ่มเติม: เว็บไซต์ www.jwmarriottkhaolak.com, www.jwmarriottkhaolaksuites.com