ในยุคที่เกิดการเปลี่ยนผ่านมาสู่ที่เรียกว่า “ยุคดิจิตอล” อันเป็นผลมาจากวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีโลกเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตประจำวันโดยสิ้นเชิง เรียกได้ว่าอยู่แบบไม่รู้เทคโนโลยีก็กลายเป็นคนตกยุค ใครที่เกิดหลัง Generation Y ต่างต้องรีบปรับตัวกันครั้งใหญ่ “ชีวิตติดดิจิตอล” คงเป็นคำจำกัดความของคนยุคปี 2019  เมื่อโซเชี่ยลมีเดียช่วยย่อโลกเพียงปลายนิ้วคลิ๊ก กลายเป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร คนที่มองเห็นโอกาสทางการตลาด และสามารถปรับตัวได้เร็ว จึงเป็นผู้ได้เปรียบล้ำหน้าแบบไปต่อไม่รอแล้วนะ

Influencer หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชิน คำนี้ถูกบัญญัติเรียกผู้ที่มีบทบาทต่อสังคมบนโลกออนไลน์ ยุคที่คนกล้าแสดงออกทางความคิดและต้องการแบ่งปันประสบการณ์ ต่างก็ผันตัวมาสร้างชาแนลของตัวเองกันอย่างจริงจัง ตั้งแต่ในช่วงปี 2017 เป็นต้นมา การเป็นนักรีวิว เขียนบทความ หรือทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มที่ใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นบน Facebook, Youtube, Blog, Twitter หรือ Website เป็นช่องทางที่สามารถถ่ายทอดความไลฟ์สไตล์ ความชอบในเรื่องราวที่น่าสนใจอันหลากหลายสู่สาธารณะ สื่อสารได้แบบทูเวย์ที่สามารถเขียนข้อความโต้ตอบ เป็นพื้นที่แสดงออกซึ่งความคิดอันอิสระได้ทันที และหากคอนเทนต์มีความน่าสนใจ ก็เริ่มมีผู้ติดตามขยายจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดฐานของผู้ที่ชื่นชอบติดตามอย่างเหนียวแน่นกลายเป็นแฟนคลับตัวจริง จึงเป็นโอกาสให้หลายแบรนด์สินค้า นิยมจ้าง Influencer ทำคอนเทนต์โปรโมทขายสินค้าทั้งแบบทางตรงและทางอ้อม โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ติดตาม Influencer เหล่านี้ให้กลายเป็นลูกค้าของแบรนด์ในอนาคต เรียกได้ว่านี่เป็น “ยุคทองของ Influencer อาชีพที่ไม่ใช่ดาราก็ดังได้” แค่มีสไตล์และคอนเทนต์โดนใจเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดตาม มีอิสระในการนำเสนอจนเกิดค่านิยมที่ทำให้คนรุ่นใหม่อยากเดินตามรอย เวปไซด์ The shelf.com ทำการสำรวจปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคพบว่ากว่า 90% ลูกค้าเชื่อมั่นและอยากทดลองสินค้าจากการรีวิว จึงทำให้อาชีพ Influencer มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

ข้อมูลจากเว็บไซต์ influencermarketinghub ซึ่งเป็น Agency ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดในวงการ Influencer บนโลกออนไลน์ เคยกล่าวไว้ว่าบนแพลตฟอร์ม YouTube นั้น YouTuber ยังสามารถหารายได้จากการอัพโหลดคลิป สร้างการรับรู้ให้มีปริมาณการติดตามของผู้ชม รวมถึงยอดวิวที่แท้จริงมากในระดับหนึ่ง โดยปราศจากการว่าจ้างด้วยกลวิธีอื่นๆ

และเมื่อดิจิตอลเข้ามามีบทบาทกับความคิดและการดำรงชีวิตมากขึ้นทุกวัน พฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไป สามารถจัดการชีวิตและรับรู้ข่าวสารได้ด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว จากผลสำรวจของ Google พบว่ากว่า 65% ของคนกลุ่ม Generation C อัพเดตข้อมูลบนโซเชียลเน็ตเป็นประจำทุกวัน และกว่า 90% เลือกที่จะสร้างคอนเท้นท์บนโลกออนไลน์อย่างน้อยเดือนละครั้ง แทนการเสพข้อมูลเฉยๆ จึงเป็นการตอกย้ำได้อีกทางว่า Influencer เป็นอาชีพใหม่ที่เกิดขึ้นในยุคดิจิตอลและเติบโตขึ้นมาก

อยากเป็น INFLUENCER ต้องทำอย่างไร

• เริ่มต้นค้นหาตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเอง “ชอบ” หรือให้ความสนใจเป็นพิเศษ ทำแล้วมีความสุขสนุกกับการสร้างสรรค์ผลงาน แต่หากต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน การทำในสิ่งที่ผู้บริโภคชอบหรือต้องการก็จำเป็นเช่นกัน
• สร้างตัวตนด้วยการผลิตคอนเทนต์ให้น่าสนใจ แตกต่างด้วยวิธีการนำเสนอไปจากคู่แข่ง โพสต์ด้วยความสม่ำเสมอ
• เพิ่มช่องทางการโปรโมทคอนเทนต์ สร้างการรับรู้ออกไปในกลุ่มเป้าหมาย ดึงดูดผู้ชมมาเป็นผู้ติดตามในอนาคต
• เมื่อมีผู้ติดตามมากพอในระดับที่เอเจนซี่ให้ความสนใจ จะได้รับการติดต่อและการจ้างรีวิวสินค้าและบริการจากแบรนด์สินค้าต่างๆ
• ขณะเดียวกันรูปแบบเนื้อหาที่ทำออกมาก็ต้องเป็น Video มากขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคชื่นชอบในยุคนี้ รองลงมาก็เป็นเนื้อหารูปภาพสวย สุดท้ายคือเนื้อหาบทความที่อ่านสนุก เข้าใจง่าย ให้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามการนำทั้ง 3 รูปแบบมาผสมผสานกันจะเป็นวิธีที่สร้างเนื้อหาที่ดีและทรงพลัง
• Influencer ที่ดีต้องไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง เรียกได้ว่าสไตล์ของผลงานจะบ่งบอกคาแลคเตอร์ของสิ่งนั้น เอเจนซี่และแบรนด์ก่อนจะจ้างก็คอยมอร์นิเตอร์ติดตามคอนเทนต์ประกอบการตัดสินใจ
• สร้างความ “เชื่อ” ในแบบที่ตัวเองถนัด อย่างไรก็ตามเพื่อให้ความเป็นตัวเองนั้นแสดงผลออกมาได้ดีที่สุด Influencer ที่ดีก็ควรจะทำให้ผู้บริโภคสามารถ “เชื่อ” ในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้เช่นเดียวกัน โดยถ้าเจาะไปที่ผู้บริโภคกลุ่ม Generation X จะพบว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับสาระความรู้ และความคิดสร้างสรรค์เป็นอันดับต้นๆ เลยด้วย

FOLLOWER หรือแฟนคลับคือผู้สนับสนุนหลัก

• Follower ที่อยู่ใน Generation Y (คนที่เกิดอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2523-2540) จะให้ความสำคัญกับสาระความรู้เช่นเดียวกัน แต่จะเน้นที่ความเป็นตัวของตัวเองของ Influencer คนนั้น ดังนั้นการวางแผนสร้างตัวเองให้เป็น Influencer ก็ต้องดูให้ดีก่อนว่าตัวเองถนัดเนื้อหาแบบไหน และอยากเป็นที่ต้องการของแบรนด์สินค้าประเภทใด
• Follower ที่อยู่ใน Generation X (คนที่เกิดอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2508-2522) นั้นค่อนข้างเชื่อใน Influencer ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในทางกลับกันคน Generation Y กลับชื่นชอบ Influencer ที่มีความถนัดเฉพาะด้าน รวมถึงมีชื่อเสียงเฉพาะกลุ่มมากกว่า

INFLUENCER กับการช่วยผู้ติดตามในการตัดสินใจเลือกซื้อ

เมื่อผลงานมีผู้ติดตามจำนวนมาก Influencer จะทรงอิทธิพลอย่างมากต่อความคิดการตัดสินใจของผู้ติดตามผลงาน สามารถโน้มน้าวจูงใจให้ผู้ติดตามเชื่อในการเลือกทุกสิ่งที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบในแบบเดียวกัน เมื่อยุคนี้ใครๆ ก็เป็น Influencer ได้ ทำให้การแข่งขันในอาชีพนี้ค่อนข้างสูงก็จริง แต่เมื่อแบรนด์อยากเข้าใกล้ผู้บริโภคมากกว่าเดิม ก็ต้องพยายามเข้าใจกลยุทธ์การทำตลาดและนำมาพัฒนา จึงเห็นว่า Influencer เป็นอาชีพที่น่าจะยั่งยืน