ประเทศไทยสยามเมืองยิ้ม จุดหมายที่ชาวต่างชาติมากมายจากทั่วโลก ไม่เพียงมุ่งหมายจะมาเยือนสักครั้ง แต่ยังมีความคิดที่จะปักหมุดชีวิตอย่างถาวรในปั้นปลาย และความอะเมซิ่งที่ไทยเรากลายเป็นบ้านหลังที่สอง ของศิลปินระดับโลกหลายต่อหลายคน แม้แต่ศิลปินนักเปียโนชื่อดัง อย่าง โจนัส เดปท์ (Jonas Dept) 

โจนัส เดปท์ ศิลปินชาวเบลเยียม ผู้ตกหลุมรักในเสน่ห์ของดนตรีเปียโนตั้งแต่วัยเยาว์ แม้จะเดินตามรอยฝันสั่งสมประสบการณ์ในเส้นทางดนตรีคลาสสิกมายาวนานแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเล่นเพลงบรรเลงตามแนวเพลงโมทซาร์ท หรือบีโธเฟน ไปทั้งชีวิต ความมีอัตลักษณ์ฉายแววและมักรังสรรค์ความกลมกล่อมรสชาติดนตรีใหม่ๆ ‘The Pianologist’ คำนี้จึงเหมาะนักกับการให้คำจำกัดความ นักเปียโนผู้มีความคิดสร้างสรรค์ มีไลเซ่นดนตรีเป็นของตัวเอง มอบแรงบันดาลใจ ให้กับนักฟังเพลงทั่วโลกอย่างเขา

18 ปีแห่งความภาคภูมิใจในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีคลาสสิก ที่ได้ร่วมงานกับองค์กรอันได้รับการยกย่องมากที่สุดในระดับโลก โดยกว่า 9 ปีของเขา ในฐานะนักเปียโนวาทยกรวงออเคสตร้า และนักแต่งเพลง ที่ Brussels Royal Conservatory และอีก 9 ปีต่อมา ในฐานะนักเปียโนบรรเลงเพลงประกอบการสอบบัลเลต์ ที่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ให้กับ Royal Academy of Dance สถาบันการศึกษาทางด้านการเต้น ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกจากสหราชอาณาจักร ความสุขความทรงจำอันทรงคุณค่า เป็นดั่งรางวัลอันทรงเกียรติ และ The PiANOLOGIST อย่างเขา ยังคงเดินหน้ามุ่งมั่นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จากรายการการแข่งขันดนตรีไปทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้งอีกด้วย

ความงดงามของดนตรีคลาสสิกจากยุโรปเดินทางสู่เอเชีย โจนัส เดปท์ ใช้เวลาหนึ่งทศวรรษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียนรู้สัมผัสลึกซึ้งถึงเสน่ห์ดนตรีแนวเอเชีย จนเกิดความหลงใหล นำมารังสรรค์ผลงานใหม่ๆ หลอมรวมเสียงศิลป์เข้ากับปรัชญา ผสานสองทวีปทั้งยุโรปและเอเชีย ผ่านท่วงทำนองดนตรีได้อย่างสมดุล ด้วยประสบการณ์ดนตรีอันหาตัวจับยาก ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ดนตรีที่ไม่เหมือนใคร เขาสนุกกับการรังสรรค์รสชาติดนตรีใหม่ๆ เมื่อได้มาอยู่ที่เมืองไทยนี่เอง นำเสน่ห์ความคลาสสิกของเส้นเสียงเปียโนฝั่งยุโรปมาเป็นตัวยืน เบลนด์เข้ากับเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเอฟเฟกต์จากเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิก เสียงของธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงของลม ฝน เสียงของสัตว์ หรือแม้แต่เสียงที่เกิดจากวัฒนธรรมเคาว์เจอร์อันแตกต่าง อย่าง เสียงสวดมนต์พิธีกรรม เสียงรอบๆ ตัว โจนัสสามารถอินสไปร์ให้เกิดเป็นดนตรีที่เต็มไปด้วยเรื่องราว พาผู้ฟังเพลงออกเดินทางสู่ห้วงจินตนาการของเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์

“ดนตรีเป็นภาพสะท้อนของสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ พิธีกรรมมรดกตกทอดของบรรพบุรุษ และความรู้สึกนึกคิดในปัจจุบัน ผมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อถ่ายทอดความน่าหลงใหลในความสวยงามของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น และความรู้สึกนึกคิดในปัจจุบันของโลกนี้ในชิ้นงานของผม ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ผู้ชมจะได้ฟังอัลบั้มใหม่ของผม ซึ่งแต่งขึ้นที่ประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว” The PiANOLOGIST กล่าว

นักเปียโนศิลปินร่วมสมัยหนุ่ม ผู้มีฝันอันยิ่งใหญ่ และไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา เมืองไทยคือดินแดนที่ทำให้โจนัส รู้สึกอิสระต่อการแสดง ไม่ว่าจะจัดการแสดงเล็กๆ ทั้งในบาร์ลับ บรรเลงดนตรีประกอบงานแฟชั่นโชว์แบรนด์ดัง การแสดงในมิวเซียม หรือแม้แต่ร่วมงานเปิดตัวต่างๆ ทางแนวศิลปะในเมืองไทยมากว่าสิบปี จุดประกายทำให้เขาลุกขึ้นมาสานฝันจนสำเร็จ สร้างสรรค์บทเพลงทำอัลบั้มเป็นของตัวเองในวันหนึ่ง ที่ให้ชื่ออัลบั้ม ‘The PiANOLOGIST’ นั่นเอง ทุกขั้นตอนเขาพิถีพิถันละเมียดละไม และใช้เวลาในการบันทึกเสียงมาสเตอร์พีซอัลบั้มอย่างต่อเนื่องถึง 48 ชั่วโมงอย่างไม่หยุดพัก กับแกรนด์เปียโนแบรนด์โปรด Steinways and Sons ที่ให้มาตรฐานของเสียงออกมาตรงใจมากที่สุด

และเมื่อเร็วๆ นี้ 22 สิงหาคมที่เพิ่งผ่านมา วันที่รอคอยมาถึง โจนัส เดปท์ ได้ถ่ายทอดบทเพลงซิงเกิ้ลใหม่ จากอัลบั้มเต็มแรกในชีวิตของตัวเอง และทำการแสดง ณ สถานที่เดียวกันกับที่เขาเลือกบันทึกเสียงอัลบั้ม นั่นคือ ห้องออดิทอเรียม ของสมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ (Alliance Francaise) และแน่นอนว่าเปียโนที่ได้มาตราฐานเสียงที่ดีที่สุดอย่าง Steinway and sons กลายเป็นเครื่องดนตรีคู่ใจพร้อมไมค์หนึ่งคู่ The PiANOLOGIST ได้สร้างประสบการณ์คอนเสิร์ตในคอนเซปต์แปลกใหม่ ร่วมกับ Melanie Giles-Clapp ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก มอบประสบการณ์ทั้งสี่มิติ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางอันแสนยาวไกลของเขา ผ่านท่วงทำนองเปียโนอะคูสติกสไตล์นีโอคลาสสิก ที่ผสมผสานซินธิไซเซอร์ร่วมสมัย ไปพร้อมกับการแสดงเต้นรำสมัยใหม่ ในฉากหลังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแสงออโรร่า ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นใจและเกิดแรงกระตุ้นในทุกๆ การแสดงเลยทีเดียว