TOP

9 ข้อควรเช็ก! ก่อนเลือกคลินิกรักษาสิว เพื่อผิวใส หลุดวงจรการเป็นสิวซ้ำ ๆ

หากใครที่กำลังเผชิญปัญหาสิวอยู่ รักษายาก ไม่หายขาดเสียที และกำลังลังเลว่าจะเข้ารับการรักษากับคลินิกรักษาสิวดีไหม? คุ้มค่ากับเงินที่จะเสียไปหรือเปล่า? หมอจะเลี้ยงไข้ไหม? สิวจะหายไวไม่กลับมาเป็นซ้ำหรือไม่? อยากให้หยุดข้อสงสัยเหล่านั้นก่อน แล้วลองมาเช็ก 9 ข้อเท็จจริง คลินิกรักษาสิว ไม่เลี้ยงไข้ ปลอดภัย ไว้ใจได้ เขาเป็นกันอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกเข้ารับการรักษาได้ง่ายขึ้น ได้ผลดี ผิวสวย ไม่กลับไปเป็นสิวซ้ำซากอีก

 

รักษาสิวเอง หายขาดไหม?

สิว หากจะรักษาเอง ก็มีโอกาสหายได้ แต่ไม่ใช่ทุกประเภทสิว ที่จะรักษาหายขาดจากการซื้อยามารักษาเอง เพราะอย่าลืมว่า สิวแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สิวชนิดไม่อักเสบ และ สิวชนิดอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว สิวชนิดอักเสบนี่แหละ ที่เป็นปัญหาเรื้อรัง บวมแดง ปวด เสี่ยงติดเชื้อ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง หรือจำเป็นต้องใช้เครื่องมือแพทย์รักษาร่วมด้วย ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุด คือการไปคลินิกรักษาสิว และให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนังรักษา จะตรงจุด หายไว ไม่เสี่ยงกลับมาเป็นซ้ำ

 

ข้อแตกต่าง รักษาสิวด้วยตัวเอง

VS

รักษากับคลินิกรักษาสิว

รักษาสิวด้วยตัวเอง

▶️ เห็นผลลัพธ์ช้า หากเป็นสิวอักเสบรุนแรง

▶️ เสียค่ารักษาน้อยกว่า หากใช้ยาถูกชนิดกับสิว

▶️ โอกาสรักษาหายขาดยาก หากเป็นสิวอักเสบเรื้อรัง

▶️ หมดโอกาสหาสาเหตุการเกิดสิวที่แน่ชัด

▶️ เสี่ยงผิวพัง หากรักษาผิดวิธี

 

รักษากับคลินิกรักษาสิว

▶️ มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา-วินิจฉัยสาเหตุการเกิดสิวที่แน่ชัด แม่นยำ

▶️ มีวิธีรักษาสิวที่ปลอดภัยให้เลือกอย่างเหมาะสม

▶️ สิวหายไว เห็นผลชัดเจน

▶️ ฟื้นฟูสภาพผิวหลังเป็นสิวให้กลับมาเนียนใส สุขภาพดี

▶️ มีราคาสูงกว่ารักษาด้วยตัวเอง

 

9 วิธีเลือกคลินิกรักษาสิว ทำที่ไหนดี

1. ควรเป็นคลินิกรักษาสิว ที่เปิดให้บริการถูกต้องตามกฎหมาย

โดยจะต้องมีใบอนุญาตรับรองการเปิดคลินิก หรือเปิดเป็นสถานพยาบาลเป็นเลข 11 หลัก ซึ่งจะต้องมีการต่ออายุทุก ๆ 2 ปี ตามการควบคุมมาตรฐานตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้

 

2. มีแพทย์เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและรักษาสิวโดยเฉพาะ

ภายในคลินิกรักษาสิว จะต้องมีคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง หรือเดอร์มาโทโลจิสต์ (Dermatologist) คอยให้คำปรึกษาเบื้องต้น ตรวจวินิจฉัยสาเหตุของการเกิดสิวได้อย่างแม่นยำ และเลือกเทคนิครักษาได้ตรงจุด รักษาแบบไม่ทิ้งเคส ดูแลต่อเนื่องตลอดจนกว่าจะจบเคสรักษา

 

3. ตรวจสอบประวัติคุณหมอรักษาสิว

นำชื่อ-นามสกุล คุณหมอรักษาสิวของคลินิกที่เราสนใจเข้ารับการรักษา ไปตรวจสอบกับเว็บไซต์ของแพทยสภา หรือ https://checkmd.tmc.or.th/ เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ชำนาญด้านการรักษาสิวจริงหรือไม่ และมีใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมไหม? หมดอายุหรือยัง?

 

4. มีโปรแกรมการรักษาสิวครบครัน

ขึ้นชื่อว่าเป็นคลินิกรักษาสิว ดังนั้นควรมีโปรแกรมการรักษาสิวที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ปัญหาสิวของคนไข้ ไม่ว่าจะเป็น การรักษาสิวแบบเสริม (Adjunctive therapy) ได้แก่ กินยาลดสิว, ทายาละลายหัวสิว, กดสิว,ฉีดสิว หรือการรักษาด้วยนวัตกรรมเลเซอร์สิว ก็ควรจัดเป็นโปรแกรมรักษาสิวไว้รองรับคนไข้

 

5. มีอุปกรณ์รักษาสิวที่ได้มาตรฐาน ทันสมัย

แนะนำให้เลือกคลินิกรักษาสิว ที่มีอุปกรณ์การรักษาที่ได้มาตรฐานสูงผ่าน อย.และทันสมัย และมีให้เลือกมากพอที่จะครอบคลุมการรักษาสิวทุกรูปแบบ ทุกตำแหน่งบนผิวหนังร่างกาย อาทิ อุปกรณ์กดสิว ฉีดสิวและเครื่องเลเซอร์สิว 

6. ราคารักษาสิว สมเหตุสมผล

คลินิกรักษาสิว จะต้องแจ้งราคาค่ารักษา อย่างตรงไปตรงมา ชัดเจน ไม่ทำให้ลูกค้าหรือคนไข้สับสนว่าบริการโปรแกรมการรักษานี้ ราคาไหนกันแน่ และควรเป็นราคาที่เหมาะสมกับผลลัพธ์ที่คนไข้ควรจะได้รับ ตั้งแต่ขั้นตอนการวินิจฉัย ลงมือรักษา ใช้เครื่องมืออะไร และการดูแลหลังการรักษาอย่างไร คุ้มค่าไหม เป็นต้น

 

7. มีพนักงานให้บริการดี มีคุณภาพ 

ภายในคลินิกรักษาสิว ควรมีพนักงานที่มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการรักษาสิว คอยตอบคำถามลูกค้าด้วย SERVICE MIND ทั้งลูกค้าที่ walk in มาคลินิก หรือแม้แต่ลูกค้าที่สอบถามเข้ามาทางโทรศัพท์-เว็บไซต์ และไม่ควรเน้นขายคอร์ส จนสูญเสียข้อเท็จจริงทางการรักษา

 

8. มีช่องทางการติดต่อง่าย-สะดวก

คลินิกรักษาสิว ควรมีช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลการรักษา นัดหมาย ติดตามผลคนไข้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทร, Line, เว็บไซต์ ที่สามารถฟีดแบคหาคนไข้ได้ตลอดเวลา

 

9. มีรีวิวผลลัพธ์การรักษาสิว เป็นไปในทิศทางที่ดี

เลือกคลินิกรักษาสิว ที่เมื่อลอง Research ตามเว็บไซต์ทั่วไป หรือสื่อโซเชียลต่าง ๆ ก็พบรีวิวชื่นชมและพึงพอใจจากผู้ใช้บริการมากกว่าการตำหนิ 

 

‘ลลิษา คลินิก’ คลินิกรักษาสิว ไม่เลี้ยงไข้

โดยคุณหมอผิวหนัง สาขาตจวิทยา

Laliza Clinic (ลลิษา คลีนิก) คือ คลินิกรักษาสิวแบบครบวงจร  โดยแพทย์ชำนาญการด้านผิวหนังโดยเฉพาะ สาขาตจวิทยา ที่มีประสบการณ์รักษาคนไข้มานานกว่า 10 ปี ด้วยการวินิจฉัยหาสาเหตุของการเกิดสิวได้อย่างตรงจุด และมีเทคนิคการรักษาสิวให้หายขาดอย่างแม่นยำ ไม่เลี้ยงไข้ ทั้งวิธีรักษาแบบ Adjunctive therapy และ Laser รักษาสิว

 

ไม่เพียงเท่านั้น ลลิษา คลินิก ยังมีโปรแกรมการฟื้นฟูผิวจากการเป็นสิว อาทิ เลเซอร์หลุมสิว, เลเซอร์รอยสิว, เลเซอร์รูขุมขน เพื่อปรับโครงสร้างผิวที่เสียหายให้กลับมาเรียบเนียนสวย มั่นใจ สำหรับค่าบริการรักษาสิว ที่ลลิษา คลินิก จะเริ่มต้นที่ 100 บาท 

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ คลินิกรักษาสิว

เป็นสิวแบบไหน ควรไปหาหมอ?

หากเป็นสิวอักเสบ บวมแดงมาก ทายาเองแล้วไม่หายสักที แนะนำให้ไปพบคุณหมอผิวหนัง เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและรักษาสิวจะดีที่สุด เพราะอาการบวมแดง เป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อ

 

รักษาสิว ไม่หายสักที? เป็นเพราะอะไร

ส่วนมากหากรักษาสิวแล้ว แต่สิวกลับมาขึ้นซ้ำ ไม่หายสักที มักเกิดจากระดับฮอร์โมนแอนโตรเจน (Androgen) ที่สูงขึ้น ผลิตน้ำมันออกมามาก เกิดการอุดตัน ผสมกับเชื้อโรคที่เผชิญระหว่างวัน ทำให้เกิดสิวได้ง่าย ขึ้นซ้ำซาก

 

รักษาสิวกับหมอคลินิก หายไหม?

การเลือกรักษาสิวกับคลินิก มักจะเห็นผลเร็วกว่ารักษาเอง โดยเฉพาะการรักษากับคุณหมอผิวหนัง ที่จะหาสาเหตุการเกิดสิวได้แม่นยำ และเลือกวิธีรักษาได้ตรงจุด พร้อม ๆ กับฟื้นฟูผิวเสียจากการเป็นสิว ให้กลับมาเรียบเนียน กระจ่างใส

 

สรุป

ทั้ง 9 แนวทางการเลือกคลินิกรักษาสิว นอกจากจะให้ผลดี ไม่เลี้ยงไข้ ลดความเสี่ยงการเป็นสิวซ้ำซากแล้ว ยังช่วยถนอมผิวบริเวณใกล้เคียงที่เรียบเนียนอยู่แล้ว ไม่ให้เสี่ยงโดนทำลายจากการรักษาสิวแบบผิด ๆ และจำกัดงบค่ารักษาไม่ให้บานปลายได้ดีอีกด้วย ฉะนั้นแล้ว หากใครที่กำลังมองหาคลินิกรักษาสิว ให้คำปรึกษาและรักษาอย่างตรงจุด โดยแพทย์ผิวหนัง แนะนำ ลลิษา คลินิก ที่มีประสบการณ์รักษาเคสคนไข้มานานกว่า 10 ปี และมีโปรแกรมการรักษาสิวให้เลือกมากมาย ตรงตามคุณสมบัติคลินิกรักษาสิวที่ดีมีคุณภาพสูงทุกประการ ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลคลินิกเพิ่มเติมได้ที่ lalizaclinic.com

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด