เปิดประตูสู่มิติแห่งการพักผ่อนย้อนอดีตสุดคลาสสิค ณ ‘โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ’
หากใครได้ผ่านไปมาบริเวณเชิงสะพานเฉลิมหล้า 56 หรือสะพานหัวช้าง คงเคยมองเห็นอาคารสีขาวที่ดูสะดุดตา รายล้อมไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น ที่แห่งนี้คือ โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสวยงามของศิลปะวัฒนธรรมไทย ในยุคสมัยของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่เชื่อมโยงกับสถาปัตยกรรมแบบยุโรป เป็นสถานที่รวบรวมความงดงามของวัฒนธรรมไทย ที่ผสมผสานกับดีไซน์ของตะวันตกได้อย่างลงตัว รอต้อนรับนักเดินทางต่างชาติและคนไทย ได้ค้นพบกับความสวยงาม และสัมผัสประสบการณ์อันแสนผ่อนคลายสไตล์รีสอร์ตอย่างแท้จริง
จุดเด่นของโรงแรม ก็คือแนวคิดการดีไซน์แบบไทยร่วมสมัย (Thai Contemporary) ไม่ว่าจะเป็นทุกรายละเอียดการตกแต่งประตูหน้าต่างด้วยลวดลายของดอกบัวไทยฉลุ ฝ้าเพดานไม้โชว์คาน และกระเบื้องซีเมนต์พิมพ์ลายไทยโบราณ ที่เข้ากันได้ดีกับความสวยงามของโคมไฟระย้า และเก้าอี้โซฟาแบบตะวันตก เพื่อนำเสนอความหรูหราอย่างมีวัฒนธรรมอันสะท้อนถึงบรรยากาศบ้านพักข้าราชการชั้นสูงในสมัยก่อน
ตัวโรงแรมประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 75 ห้อง ได้รับการออกแบบไว้อย่างดีภายในอาคารสูง 7 ชั้น แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ห้องพักประเภทดีลักซ์ (Deluxe Room) ขนาด 33 ตารางเมตร, พรีเมียร์ ดีลักซ์ (Premier Deluxe Room) ขนาด 40 ตารางเมตร และ ห้องสวีท (Suite Room) ขนาด 88 ตารางเมตร ที่มุ่งเน้นและใส่ใจถึงรายละเอียดของวัสดุร่วมสมัยที่มีสีสันโทนสว่างตา สอดแทรกด้วยโครงสีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีสันของดอกไม้ไทยชนิดต่าง ๆ เช่น ชมพู ม่วง และน้ำเงิน ซึ่งแต่ละแบบให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ในขณะที่ยังคงมีกลิ่นไอของความหรูหราแบบวันวานอบอวลอยู่เช่นกัน
ภายในห้องพักและห้องน้ำ ยังถูกออกแบบให้สามารถเปิดหรือปิด เพื่อเชื่อมพื้นที่กับห้องนอนได้ตามความต้องการ พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งยังสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำรูปทรงอิสระกลางสวน ที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์เขตร้อนได้จากภายในห้องพัก เพื่อสร้างบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเข้ากันได้ดีระหว่างความคลาสสิคแบบวัฒนธรรมไทย ที่ผสมผสานกับประสบการณ์การพักผ่อนในรูปแบบของรีสอร์ตใจกลางเมือง
โรงแรมตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าราชเทวี สยามสแควร์ และสนามกีฬาแห่งชาติ นอกจากนั้น ยังอยู่ท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ชอปปิงชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สยามพารากอน, สยามสแควร์, เซ็นทรัลเวิลด์, มาบุญครอง, หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ และพิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน จึงทำให้แขกผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายและสัมผัสประสบการณ์ความสะดวกสบายสูงสุด เมื่อได้มาเยี่ยมเยีอนมหานครกรุงเทพฯ แห่งนี้
นอกเหนือจากห้องพักแล้ว โรงแรมยังมี ห้องอาหารไทยมิสสยาม และ GOOB CAFE (กูบ คาเฟ่) คาเฟ่น่ารักในสวน โอบล้อมด้วยต้นไม้นานาชนิด เหมือนป่าในเมือง หนึ่งสิ่งที่อยากให้มาลองเมื่อได้มาที่นี่ คือการจิบชายามบ่าย ที่ค่อนข้างจะแตกต่างไปจากที่อื่น ๆ เพราะเป็นการนำเอาเมนูของว่างคาว-หวานอย่างไทย อาทิ ปูจ๋า สังขยาฟักทอง ขนมโสมนัส ข้าวตังหน้าตั้ง ขนมเม็ดบัวกวน ขนมสาลี่กรอบ กุ้งห่มสไบ ขนมชั้น เมี่ยงส้ม ขนมไข่เต่า และ กะหรี่พัฟ นำมาทานคู่กับเมนูชาตะวันตกเลิศรส
สำหรับ ชุดจิบน้ำชายามบ่าย “ศรีตอง” ปกติราคา 850++ (รับประทานได้ 2 ท่าน) ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.30 – 17.00 น. เพื่อความสะดวกกรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้าที่ โทร. 02 217 0777 หรือ ทางไลน์ @misssiam
