ถึงเวลาปาร์ตี้! 6 บาร์ไอเดียแบบสุดขั้ว ที่ซ่อนตัวในที่ลับแต่ไม่ลึก
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี บรรยากาศแห่งการปาร์ตี้เฉลิมฉลอง ก็เริ่มส่งสัญญาณให้รู้ว่าช่วงเวลาแห่งการหยุดพักสังสรรค์ ได้ใกล้เข้ามาแล้ว AROUND ชวนคุณและก๊วนเพื่อน ไปแฮงก์เอ้าต์ในหลายหลากบาร์ ซึ่งมาพร้อมบรรยากาศที่แตกต่างกัน
008 Bar
บาร์ลับแต่ไม่ลึก ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ บนชั้น 11 ของตึก Eight Thong lor บริเวณด้านนอกที่เป็นส่วนของสระว่ายน้ำ หากไม่สังเกตให้ดีก็อาจไม่รู้เลยว่า ที่ด้านหลังกำแพงไม้บานใหญ่นั้นเป็นที่ซุกซ่อนตัวของบาร์แห่งนี้ โดยเมื่อผลักเข้าไปคุณจะได้พบกับบาร์ลับ ที่เปรียบเสมือนหลุมหลบภัยในช่วงสงครามโลก หรือยุค prohibition ของอเมริกา ซึ่งบาร์เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับยุคนั้น
ทางเดินระหว่างเข้าไปในร้าน ตกแต่งด้วยชั้นวางของที่ทำจากไม้ ผ่านประตูบัวขอบโค้ง ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต ภายในเลือกใช้โซฟาเบาะหนังสีน้ำตาล สะท้อนความคลาสสิกและเรียบหรู บวกกับเฟอร์นิเจอร์งานไม้ร่วมสมัย ที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างลงตัว ลึกเข้ามาด้านในจะพบกับเคาน์เตอร์บาร์ที่สว่างไสว เรียงรายไปด้วยหลากหลายเมนูเครื่องดื่ม โดยหากต้องการได้รับประสบการณ์การดื่มอย่างเต็มที่ ขอแนะนำให้เลือกนั่งบริเวณหน้าเคาน์เตอร์บาร์นี้ เพราะนอกจากความสะดวกสบาย ที่จะได้รับจากเก้าอี้หนังนุ่มนั่งสบายแล้ว ยังจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักดื่ม และบาร์เทนเดอร์อีกด้วย
ในส่วนของเมนูเครื่องดื่ม ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ของยุค prohibition ที่ได้มีการนำเอาเมนูเครื่องดื่มสไตล์คลาสสิกมาประยุกต์ เพิ่มลูกเล่น และมิติทางรสชาติเข้าไป เพื่อสร้างเอกลักษณ์และความน่าสนใจ ให้กับเครื่องดื่มแก้วนั้นๆ โดยค็อกเทลทั้งหมดของที่ร้าน คุณมิลค์ – ไพลิน สัจจานิตย์ บาร์เทนเดอร์สาวดีกรีแชมป์ ในรายการ DIAGEO World Class 2016 และรางวัล Thailand Best Bartender of the Year, South East Asia Bartender of the Year เป็นผู้คิดค้นและสร้างสรรค์
จนได้มาซึ่งหลากหลายเมนูเครื่องดื่มที่น่าลิ้มลองอย่าง 1920s ซึ่งใช้ Whitley Dry Gin แล้วเพิ่มกลิ่นหอมด้วยเหล้า Campari ก่อนจะนำเปลือกส้มไปอินฟิวส์ด้วยเวอร์มุธ ให้กลิ่นและรสชาติคล้ายกับเนโกรนี แต่ลดทอนความเข้มลง เช่นเดียวกับ Frontier ที่นำเอาเครื่องดื่มในสไตล์ของ Old Fashion มาเพิ่มรสชาติด้วยซิตรัส ให้ดื่มง่ายมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ After You ก็เป็นค็อกเทลที่เหมาะกับนักดื่มผู้หญิง เพราะให้รสชาติเปรี้ยวหวาน จากสตรอเบอรี่และสับปะรด เสิร์ฟคู่กับวาฟเฟิล
พิกัดร้าน : ชั้น 11 Eight Thonglor โทร. 0 2392 8959
-||-
Na – Oh Bangkok
โดดเด่นมีเอกลักษณ์ตั้งแต่การตกแต่งร้าน ที่นำเอาโครงสร้างเก่าของเครื่องบิน Lockheed L-1011 TriStar มาประยุกต์ตกแต่งให้ภายในเป็นร้านอาหาร สไตล์ Casual Fine Dining และ Inspiration Cocktail Bar นำมาซึ่งที่มาของชื่อร้าน ที่หากกลับคำแล้วจะหมายถึง เรือโนอาร์ ยานพาหนะที่ใช้อพยพคน และเหล่าสิ่งมีชีวิตในวันสิ้นโลก ภายในจึงเต็มไปด้วยสัตว์สตัฟฟ์ต่างๆ มากมาย แต่ก่อนที่จะขึ้นมาสัมผัสกับบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจภายในเครื่องบิน คุณจะต้องเดินทางผ่านลิฟท์เก่าสุดคลาสสิก เพื่อขึ้นมายังด้านบน โดยภายในเครื่องบินลำใหญ่นี้ ได้มีการจัดแบ่งพื้นที่อย่างคุ้มค่า คือในส่วนของร้านอาหารจะตั้งอยู่ที่โซนด้านหน้าของตัวเครื่องบิน ส่วนด้านหลังนั้นจะเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำบรรยากาศของวันสิ้นโลก ไปพร้อมกับเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยมที่บรรจงรังสรรค์ขึ้น ทั้งยังตกแต่งด้วยหลากหลายรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ที่นำเข้าจากทั่วโลก ให้คุณได้เลือกนั่งในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป หรือหากว่ามากันเป็นกลุ่มใหญ่ และอยากได้ความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้น ก็มีโซนที่นั่งด้านล่างของตัวเครื่องไว้คอยให้บริการ
สำหรับเมนูเครื่องดื่มก็ยังคงไว้ซึ่งคอนเซ็ปต์ของวันสิ้นโลก โดยจะเป็นเครื่องดื่มที่สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกในวันสิ้นโลก อย่าง Black Priest ค็อกเทลที่มาพร้อมกับสีดำจากชาโคล แสดงถึงความรู้สึกโศกเศร้าในวันสิ้นโลก แฝงไว้ด้วยความร้อนแรงของพริกพม่าอินฟิวส์ ทวิตส์กับซินนาม่อนที่อยู่ในตากีล่า จึงจัดว่าเป็นค็อกเทลที่แสดงถึงความโศกเศร้าอันร้อนแรง
ส่วน Davin นั้นเป็นค็อกเทลสไตล์คลาสสิก ที่ถูกนำมาปรับแต่งให้ดื่มง่าย โดยเพิ่มความเป็นฟรุตตี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความร้อนแรงจากเครื่องเทศ ส่วน Mona Lisa Code นั้นก็น่าจะถูกใจนักดื่มผู้หญิง โดยสร้างสรรค์ขึ้นจากความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิง ที่มักจะคิดแต่แสดงออกมาในทางตรงกันข้าม ดังนั้นภายนอกของค็อกเทลแก้วนี้จึงดูหวานสดใสดื่มง่าย ทำจากเกรปฟรุตอินฟิวส์ แต่ความจริงแล้ว มีความร้อนแรงที่ซ่อนอยู่ใน After Taste ผสมผสานกับดนตรีแจ๊สที่ทำหน้าที่ขับกล่อม และเติมเต็มบรรยากาศให้ลงตัว ยิ่งหากว่าโชคดีมาตรงกับช่วงเวลาจัดแสดงโชว์ แสง สี เสียง แล้วล่ะก็ ค่ำคืนนั้นของคุณก็จะยิ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความประทับใจ
พี่กัดร้าน : โครงการช่างชุ่ย ถนนสิรินธร โทร. 0 88612 2188
-||-
Honest Mistake Bar
บาร์ลับที่หยิบเอาเรื่องราวของความผิดพลาดมาสร้างสรรค์และแปรเปลี่ยนให้เป็นความสนุกยามค่ำคืน โดยหยิบเอาเรื่องราววิถีชีวิตของชาวจีนเซี่ยงไฮ้ในยุค 30s-40s หรือยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้มาเป็นแรงบันดาลใจ บอกเล่าเรื่องราวผ่านโรงรับจำนำที่เปิดขึ้นเป็นฉากหน้า ปิดบังเบื้องหลังของนักพนันเสี่ยงโชคในยุคดังกล่าว การตกแต่งภายในแบ่งคอนเซ็ปต์แตกต่างกันออกไปในแต่ละชั้น เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าที่ดูแปลกไปจากตึกอื่นๆ ข้างเคียง ต่อมาจนถึงฉากหน้าม่านทางเข้าบาร์ ที่ดีไซน์มาในลักษณะของโรงรับจำนำ ซึ่งผู้จะเข้าไปด้านในต้องแลกเงินก่อน เพื่อรับกุญแจสำหรับไขเข้าไปในร้าน
เมื่อขึ้นไปบริเวณชั้น 2 จะเป็นส่วนของห้องควบคุมความเรียบร้อยโดยมีกล้องวงจรปิดอยู่ตามมุมต่างๆ ก่อนจะพบกับห้องโถงหลักชั้น 3 ที่จำลองบรรยากาศของบ่อนพนันย้อนยุค มาพร้อมบาร์เครื่องดื่มค็อกเทลรสชาติดีไว้คอยให้บริการ แล้วจึงปิดท้ายด้วยห้องเจ้าพ่อที่ตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมพื้นที่เอ้าต์ดอร์ด้านนอก ที่เป็นเหมือนห้องของลูกน้อง ท่ามกลางเสียงดนตรีหลากหลายแนวเพลงที่คอยขับกล่อมและสร้างบรรยากาศให้ภายในบาร์แห่งนี้
ที่นี่เน้นเครื่องดื่มค็อกเทลเป็นหลัก โดยแบ่งออกเป็น 3 สไตล์ ได้แก่ Complex, Sweet & Sour และ Flavoured Gin & Tonic แต่ทั้งนี้ก็ยังคงดึงเอาเรื่องของกลโกงการพนัน และความทะเยอทะยานอยากเป็นฝรั่ง ใส่เข้ามาในเครื่องดื่มเพื่อให้ตรงตามคอนเซ็ปต์ ยกตัวอย่าง Ang Mhor ที่แปลว่า คนนอกในภาษาจีนแต้จิ๋ว สำหรับแก้วนี้ได้แรงบันดาลใจจากคลาสลิกค็อกเทล อย่าง เนโกรนี ทางบาร์ใช้ จิน เวอร์มุท แอปเพอโร น้ำมะตูม และบิตเตอร์, JuJube หรือ พุทรา ใช้เบอร์เบิ้น ผสมคัมปารี เวอร์มุท และสมุนไพรจีน เสิร์ฟคู่กับพุทราเชื่อม ส่วนใน กลุ่ม Sweet & Sour ก็มีแก้วที่เป็นซิกเนเจอร์อย่าง Meilee ค็อกเทลที่สื่อถึงลูกสาวเจ้าพ่อที่ครบรสกับความเผ็ดร้อนของ Vodka ที่นำไปแช่กับพริกสด แล้วเติมความเปรี้ยวหวานลงไปด้วย Homemade Sherbet Syrup และ Cacao Liqueur แต่หากต้องการเพิ่มความสดชื่น Autum Hamorny ก็น่าจะเป็นคำตอบให้กับคุณได้ เพราะปรุงแต่งขึ้นจาก Gin และ Elder Liqueur โดยมีน้ำผึ้งจากดอกลำไย ที่มาร่วมสร้างความหอมหวานภายในปาก ผสานเข้ากับกลิ่นหอมของโหระพา และเลมอนอย่างลงตัว
พิกัดร้าน : โครงการ Aqua (ใกล้แยกสะพานควาย) โทร. 062 490 5126
-||-
Tai Soon Bar
นอกจากอาหารสตรีทฟู้ดสุดคึกคักแล้ว ย่านประตูผี ยังเป็นที่ตั้งของบาร์น้องใหม่สำหรับนักดื่ม ผู้หลงใหลในคราฟต์เบียร์ เพียงแรกเห็นหน้าร้านก็ให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่าง ด้วยแสงสีแดงจากโคมไฟสไตล์จีนที่ส่องผ่านกระจกบานใสของร้าน ก็เชิญชวนให้เราอยากที่จะลองเข้าไปสัมผัสบรรยากาศด้านใน ซึ่งเมื่อเข้ามาภายในร้านก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ด้วยการตกแต่งที่คงไว้ซึ่งโครงสร้างเดิมของอาคารเก่า ผลงานการออกแบบของ คุณฮิม กิจธเนศ ขจรรัตนเดช Interior Designer แห่ง Tastespace.co ที่ต้องการให้ทั้ง 3 ชั้น มีความเชื่อมโยงกัน เพื่อเล่าถึงการใช้สอยผ่านความงดงามของตึกเก่า โดยในขั้นตอนของการบูรณะอาคารหลังเก่าแห่งนี้ ได้มีการปรับเฉพาะส่วนที่จำเป็น เช่น พื้นไม้ที่ผุพัง และให้ความสำคัญกับการเล่นระดับของพื้นที่ ทำให้ทุกๆ ชั้นมีการเชื่อมโยงกัน คือสามารถมองจากชั้นบนลงมาเห็นบาร์ที่อยู่ด้านล่างได้ กลายเป็นความงามร่วมสมัย แต่ยังมีกลิ่นอายความเป็นจีนผสมผสาน ให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนในสมัยปัจจุบันได้อย่างลงตัว
ผู้ที่มาใช้บริการบาร์แห่งนี้ จะสามารถซึมซับเรื่องราวของวิถีชีวิตในวันวาน ผ่านร่อยรอยในอดีตที่ยังคงปรากฏอยู่บริเวณกำแพง ขอบประตู ขั้นบันได และตามซอกมุมต่างๆ ภายในอาคารหลังนี้ และด้วยเหตุว่าเดิมทีที่นี่เคยเป็นร้านขายยาจีนโบราณของบรรพบุรุษ คุณเคน สิทธิพันธ์ ปลื้มธีระธรรม เจ้าของร้าน บริเวณเคาน์เตอร์บาร์จึงยังคงเป็นตู้ยาโบราณปรากฏให้เห็นอยู่ เช่นเดียวกับที่มาของชื่อ ร้าน ไท่ ซุ่น บาร์ ที่มาจาก ไท่ ซุ่น ตึ๊ง โดยไท่ หมายถึง ประเทศไทย ซุ่น หมายถึง สถานที่ที่ดี และตึ๊ง หมายถึง ร้านขายยา นั่นเอง
นอกจากนี้ในส่วนของเครื่องดื่ม ก็โดดเด่นไม่แพ้บรรยากาศการตกแต่งเลย โดยความพิเศษของบาร์แห่งนี้คือ ที่นี่จะมีห้องเย็นสำหรับเก็บเบียร์โดยเฉพาะ พร้อมด้วยเครื่องอบแก้วให้ไม่มีกลิ่นตกค้าง และระบบกดล้างและชิล (Chill) แก้วด้วยน้ำที่อุณหภูมิ 1 องศาเซลเซียส จึงทำให้เบียร์จากทั้ง 13 แท๊ป ที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ ซึ่งหมุนเวียนกันมาเสิร์ฟให้กับนักดื่มในร้าน ได้รสชาติที่แท้จริงไม่มีผิดเพี้ยน มีระดับแอลกอฮอล์และรสชาติแตกต่างกันไปตั้งแต่ 5% ถึง 13% ร่วมด้วยคราฟต์เบียร์อีกกว่าร้อยยี่ห้อ ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่ได้รับการเลือกสรรค์มาแล้ว ยกตัวอย่าง Maisel’s Weisse Original รสนุ่มดื่มง่าย เช่นเดียวกับ Cloudwater IPA และ Parrotdog Colin ที่ต่างก็ติดอันดับเมนูขายดีประจำร้านด้วยกันทั้งสิ้น
พิกัดร้าน :188 ถนนมหาไชย แขวงสำราญราษฎร์ โทร. 091 463 6465
-||-
CHU Bar
หลายคนคงไม่รู้ว่าร้านข้าวต้ม หรือร้านอาหารจีนธรรมดาแห่งนี้ แท้จริงแล้วมีบาร์ลับที่ซุกซ่อนตัวอยู่ชั้นบนของร้านอาหาร เพียงแค่คุณเดินผ่านขั้นบันไดวน มายังชั้น 2 ก็จะได้พบกับบาร์ในสไตล์ Chinese-themed Cocktails ที่ประดับประดาด้วยนีออนดัดตามแบบฉบับของจีนโมเดิร์น บาร์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่รวมเอาความเป็นสตรีทฟู้ดในย่าน Tsim Sha Tsui ของฉบับฮ่องกง ด้วยเพราะเป็นย่านที่ยังมีความเป็นเมืองเก่า และมีเสน่ห์ ผสมผสานกับโลกสมัยใหม่ ด้วยความตั้งใจของทางร้านที่ต้องการให้คนที่มารับประทานอาหารด้านล่าง ก็สามารถขึ้นมาดื่มได้ อีกทั้งคนที่มาดื่มอย่างเดียว ก็จะได้บรรยากาศซึ่งมองออกไปเห็นคนนั่งอิ่มอร่อยกับอาหาร เหมือนว่ากำลังดื่มท่ามกลางบรรยากาศสตรีทฟู้ดเลยทีเดียว ยิ่งหากว่าคุณเป็นแฟนภาพยนตร์ของผู้กำกับชื่อดัง หว่องกาไว ด้วยแล้วล่ะก็ รับรองว่าบรรยากาศภายในร้านจะทำให้คุณหวนนึกถึงฉากในหนังภาพยนตร์ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องที่คุณโปรดปรานได้ ร่วมด้วยบทเพลงฝรั่งและญี่ปุ่นจากยุค80’- 90’ ที่ทำหน้าที่ช่วยปลุกภาพความทรงจำในอดีตให้กลับคืนมาอีกครั้ง
คอนเซ็ปต์ของเครื่องดื่มที่เสิร์ฟที่บาร์แห่งนี้ ได้มีแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบของอาหารจีน และสมุนไพรต่างๆ ที่มีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ร่วมด้วยยาจีนที่นำเข้ามาเป็นส่วนผสมหลัก คิดค้นและพัฒนาขึ้นจนกลายมาเป็นเมนูเครื่องดื่ม ที่ถูกอกถูกใจใครหลายคนอย่าง Try the Train To 2046 แก้วนี้ที่ประกอบด้วยเหล้ารัมดอกไม้จีน ซึ่งผ่านการซูวี ผสมผสานกับเลม่อนและเกรปฟรุ้ต ที่ให้รสชาติออกไปทางขม เพิ่มเติมความแปลกใหม่น่าสนใจด้วยไซรัปบักกุดเต๋
ในขณะเดียวกันหากว่าคุณชื่นชอบเนโกรนี่เป็นพิเศษ Tiger Goes By แก้วนี้ก็จะทำให้คุณติดใจได้ไม่ยากนัก ด้วยการผสมผสานระหว่าง Gin กับสมุนไพรยาจีน ที่คุ้นเคยกันในยาดอง เสือ 11 ตัว บวกกับ Cinnamon Sous-Vide Campari และ Carpano Dry Vermount ส่วน Melon pony ก็เป็นอีกซิกเนเจอร์ที่บาร์เทนเดอร์ภูมิใจนำเสนอ ด้วยคอนเซปต์ Classic Twist เสิร์ฟคอกเทลแนวเปรี้ยวหวานฟรุตตี้ดื่ม ง่าย จากมิกซ์ของเหล้ารัม Melon Liqueur Marashino Liqueur Pommegranate Fermentation และน้ำมะนาวเพิ่มรสสดจี๊ดจ๊าด
พิกัดร้าน : ซอยสุขุมวิท 49 โทร. 061 056 5636
-||-
Coastal
ไม่น่าเชื่อเลยว่าในย่านใจกลางเมืองบนถนนสุขุมวิท ที่เต็มไปด้วยความพลุกพล่าน จะเป็นที่ซ่อนตัวของบาร์เล็กๆ บรรยากาศอบอุ่นสไตล์ทรอปิคอล ที่ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกับร้านอาหาร KRAM COLLABO ซอยสุขุมวิท 39 ภายในตกแต่งอย่างเรียบง่ายในสไตล์บีชบาร์ ผนังและเคาน์เตอร์ทำจากไม้ไผ่ เช่นเดียวกับโต๊ะเก้าอี้ให้คุณได้เลือกนั่งเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่ชื่นชอบได้ ทั้งยังสามารถนั่งพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ บริเวณที่นั่งหน้าบาร์ หรือหากในบางวันที่อากาศดีจะหยิบค็อกเทลไปนั่งบนเสื่อในสนามหญ้าก็ให้ความสบายไปอีกแบบ
โดยบาร์แห่งนี้มีผู้อยู่เบื้องหลังคือ Kosta จาก Future Factory และ Megan ช่างภาพอิสระและครูสอนภาษาชาวอเมริกา ที่ให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบสดใหม่ บวกกับการทำค็อกเทลที่เน้นวิธีเชคเป็นหลัก นอกจากนี้เขายังได้นำเอาคลาสสิกค็อกเทลบางตัวมาดัดแปลงเป็นสูตรใหม่ให้เข้ากับบรรยากาศร้านอีกด้วย
เพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ความเป็นบีชบาร์ เมนูเครื่องดื่มของที่นี่จึงเลือกที่จะให้ความสดชื่นเป็นหลัก โดยมีหลากหลายดีกรีความหนักเบา เหมาะสำหรับนักดื่มทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Dark’n Stormy ที่มีส่วนผสมของจิน เพิ่มด้วยกลิ่นและรสชาติที่ร้อนแรงของขิง เติมรสชาติด้วยมะนาว และไซรัปที่ทางร้านทำขึ้นเอง ท้อปด้วย Ginger Ale เพื่อเรียกความสดชื่นอีกขั้นหนึ่ง ส่วน Bee’s Knees นั้นก็เหมาะสำหรับนักดื่มผู้หญิง เพราะรสนุ่มดื่มง่าย มีส่วนผสมของจิน ร่วมด้วยเบียร์นำเข้าหลากหลายรสชาติ เพื่อเอาใจนักดื่มสายเบียร์ เคล้าคลอไปกับบทเพลงจังหวะสนุกๆ สร้างบรรยากาศให้บาร์แห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ควรค่าแก่การชักชวนกลุ่มเพื่อน มานั่งชิลแฮงก์เอ้าต์หลังเลิกงาน
พิกัดร้าน : ซอยพบมิตร (ซอยสุขุมวิท 39) โทร. 098 253 9356