TOP

ทะเล…นิยามความสุขของ ‘แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์’ มาพร้อมแฟชั่นซัมเมอร์เซตริมทะเลหัวหิน ณ วิลล่าสุดหรูที่ InterContinental Hua Hin Resort

Good to Se(a)e You Again “รู้สึกมันถูกจริตกับเรา ทำให้เราย้อนกลับไปนึกถึงตอนเด็ก ๆ ทะเลจึงเป็นนิยามความสุขของเรา” เมื่อได้ฟังคำตอบถึงเหตุผลที่มักจะเลือก “ทะเล” เป็นจุดหมายปลายทาง นั่นจึงทำให้เราแอบยิ้มอยู่ในใจว่าตัดสินใจไม่ผิดที่ชักชวน “แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์” ออกเดินทางมาเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานที่ InterContinental Hua Hin Resort ในครั้งนี้ และจากที่ได้ใช้เวลานั่งพูดคุยกับเธอหลังเสร็จสิ้นการถ่ายภาพแฟชั่นเซ็ตในวันนี้แล้ว ก็ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจในการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง กับนักแสดงสาวคนเก่งคนนี้ เพราะนอกจากเราจะสัมผัสได้ถึงการเติบโตขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่ได้กลับมาเจอกันแล้ว ความเป็นมืออาชีพ บวกกับความสดใสของเธอ ก็เป็นส่วนเติมเต็มที่ทำให้งานผ่านพ้นไปด้วยดี และไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้ง

เมื่อมีโอกาสได้นั่งคุยกัน เธอได้เริ่มต้นขยายความถึงทะเลให้เราฟังก่อนว่า “ถ้าเป็นทะเลแต้วชอบทุกที่เลยค่ะ ถึงแม้ว่าตอนที่เราไปอาจจะเจอฝน หรืออะไรก็ตาม แต่เมื่อกลับไปอีกครั้งถ้าฝนไม่ตกมันก็จะเป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง หรือต่อให้ฝนตกแต้วว่ามันก็เปลี่ยนไปตลอด ก็เลยไม่ได้มีที่ไหนที่ชอบเป็นพิเศษ เพราะว่ามันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ส่วนถ้าพูดถึงหัวหิน ตอนนี้ก็คงจะนึกถึงหอยเสียบ เพราะว่าล่าสุดเพิ่งไปกินร้านหอยเสียบ ที่ไม่เคยเจอที่ไหนเลย คือร้านนี้เขาจะมีน้ำจิ้มยำมะละกอดิบ ชื่อร้านเจ๊เบียร์หอยเสียบมะละกอ ลองเสิร์ชดูได้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายร้านเลย ทั้ง Tanya’s เป็นร้าน home cooking ที่ต้องไปกินบ่อย ๆ กับ Som’s Table ที่ต้องแวะมาตลอดเหมือนกัน”

 

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เรานึกถึงสาวคนนี้ทันที ที่เลือกปักหมุดโลเคชั่นในการถ่ายแฟชั่นเซ็ตเป็นหัวหิน นั่นเพราะที่ผ่านมาเกือบ 20 ปี นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เธอเข้ามาในวงการบันเทิง เราจะเห็นภาพของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่รับบทบาท และทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีมาตลอด โดยแทบจะไม่เคยได้ว่างเว้นจากหน้าจอโทรทัศน์ เราจึงอยากให้เธอใช้โอกาสนี้ได้พักผ่อน…แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม และสิ่งที่ยืนยันว่าเธอคนนี้ไม่เคยได้ว่างเว้นจากการแสดงก็คงต้องให้เจ้าตัวยืนยันด้วยการอัปเดตผลงานกันหน่อย “สำหรับงานแสดงก็มีที่ถ่ายทำจบไปแล้ว คือละครเรื่องแค้น ตอนนี้อยู่ในช่วง post production ก็น่าจะได้ดูกัน 7 มิ.ย. นี้ ในเรื่องรับบทเป็นตัวละครชื่อเหมือนแพร เป็นเด็กผู้หญิงที่เติบโตมาแล้วก็ถูกทำลายชีวิตด้วยความเชื่อใจ ซึ่งการทำลายนี่ไม่ใช่แค่เอาทุกอย่างที่เป็นของนอกกายไปเท่านั้น แต่เป็นการทำลายความเชื่อในตัวเองทุก ๆ อย่างไปหมดเลย ทำให้เขาต้องต่อสู้เพื่อให้ได้ทุกอย่างกลับคืนมา”

“ส่วนอีกเรื่องก็จะเป็นการกลับมาแสดงคู่กับมาริโอ้อีกครั้ง น่าจะเปิดกล้องในปีนี้ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างตื่นเต้นในการที่ได้กลับมาทำงานกับทีมนี้ แล้วก็โอ้เอง เพราะว่าเรื่องแรกที่เล่นละครกับโอ้ก็เป็นเรื่องแรกที่โอ้เล่นละคร ก่อนที่ต่างคนต่างไปเจอประสบการณ์ดีร้ายอะไรกันมาเยอะแยะไปหมด แล้ววันนี้ก็จะได้กลับมาเจอกันอีก ซึ่งด้วยเนื้อเรื่องเองก็น่าสนใจมาก ต้องคอยติดตามค่ะ”

 

สำหรับการทำงานในวงการบันเทิงหากนับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ก็นับว่ามาไกลเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับยังบอกว่าไม่เคยมีเรื่องไหนที่ง่ายสำหรับเธอเลย “เพราะทุกเรื่องก็คือการที่เราต้องเข้าไปใช้เวลาไม่นานในการเตรียมตัว เพื่อที่จะมีประสบการณ์ทุกอย่างของคน ๆ นี้ ส่วนพอเข้าฉากแต้วจะเป็นคนที่เวลาถ่ายแล้วไม่ค่อยเช็กมอนิเตอร์ เพราะรู้สึกว่าเราใช้อินเนอร์นำความเป็นตัวละครแล้ว จากนั้นก็ให้ผู้กำกับเป็นคนตัดสินว่าเขามองเห็นแบบที่ข้างในเราเห็นหรือเปล่า ซึ่งจริง ๆ แต้วเป็นคนที่ทำการบ้านเยอะเหมือนกัน และก็เชื่อว่าทุกคนก็ทำ ฉะนั้นเลยรู้สึกว่าไม่อยากบังคับตัวเองจนเกินไป เราอยากให้ตัวเองเป็นตัวละครโดยอัตโนมัติไปเลย โดยที่เราไม่ต้องฝืนตัวเอง นี่คือความเชื่อของเราในการ approach เข้าหาตัวละครแต่ละตัว แต่ก็มีที่เวลาผ่านไป แล้วเรากลับมาย้อนดูเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับให้คะแนนตัวเอง เพราะอย่างที่บอกว่าแต้วจะดูผู้กำกับ หรือถ้าผลงานออกมาแล้วก็ดูฟีดแบกจากคนดูว่าเขาเห็นเหมือนที่เรารู้สึกหรือเปล่าค่ะ”

นอกเหนือจากโลกในวงการบันเทิง อีกด้านหนึ่งเธอยังใช้ชีวิตอยู่ในโลกของธุรกิจ กับการดูแลสินค้าที่แตกต่างและหลากหลาย ทั้งชุดออกกำลังกาย Wakingbee ผลิตภัณฑ์โปรตีน Beanbag จนล่าสุดคืองานด้านอสังหาริมทรัพย์ “หลังจากเรียนจบมา ก็เคยได้มีโอกาสไปเหยียบในขาของดีไซเนอร์อยู่พักหนึ่ง แต่รู้สึกว่ามันต้องใช้เวลาเยอะ พอช่วงโควิด-19 ก็มีโอกาสได้คุยกับคนที่มี vision เรื่องของอสังหาฯ ด้วยกัน ทำให้เห็นช่องทางที่เราจะเข้าไปได้ ก็เลยทำตลาดบ้านที่เป็น private residence ที่ ready to move in เพื่อเป็นทางเลือกของคนที่มองหาที่อยู่อาศัยกลางเมือง ที่เป็น CBD หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจ แต่มีความเป็นบ้านจริง ๆ คือมีที่ดินจริง ๆ จอดรถได้ แล้วก็พร้อมเข้าอยู่ ซึ่งสิ่งที่เป็นจุดแข็งของ Time&Space ที่เราทำอยู่ก็คือเราทำงานจับมือกับสถาปนิกเลย เพราะฉะนั้นเราสามารถที่จะ customize ทุกอย่างออกมาได้”

 

“โครงการแรก SOL Residence ที่นางลิ้นจี่ซอย 4 ก็ sold out ไปแล้ว โดยที่มาของชื่อโปรเจ็กต์ก็มาจากเรื่องของสุริยุปราคา คือเราตั้งใจให้มันเป็น SOL เพราะว่าคิดว่าการมารวมตัวกันของเรา แล้วเกิดโปรเจ็กต์ SOL Residence ขึ้นมา มันเป็นเหมือนปรากฏการณ์ เพราะทุก ๆ พาร์ตเนอร์ไม่ได้มาจากสายตรงของ developer เลย แต่เรามีแพชชั่นเรื่องของตลาดบ้านด้วยกัน แล้วเราก็เลยมาทำสิ่งนี้ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นง่าย ๆ ก็เลยเรียกโปรเจ็กต์นี้ว่า SOL Residence และถึงแม้ว่าจะมีเสียงตอบรับที่ดี แต่แต้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจจ๋าขนาดนั้น เช่นเดียวกับการเป็นนักแสดงถึงจะเกือบ 20 ปีแล้ว แต่เราก็ไม่ได้สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นนักแสดง 100% เพราะเรารู้สึกว่าทุกวันก็มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ แม้ว่าบางเรื่องเราจะเคยรู้อยู่แล้ว แต่เราอาจจะเข้าใจผิด เพราะฉะนั้นเราถึงยังต้องเป็นนักเรียนในทุก ๆ ฟีลที่เลือก แต้วเลยไม่ได้จำกัดความตัวเองว่าเป็นอะไร เพราะทุกอย่างคือเรื่องใหม่สำหรับเรา ซึ่งมันอาจจะทำให้ความมั่นใจของเราไม่ได้เยอะ แต่ก็มีข้อดีคือทำให้เรารู้สึกสนุกกับมันทั้ง ๆ ที่อาจจะเป็นงานที่เราทำอยู่ตลอดอยู่แล้ว”

ดังนั้นถ้าจะถามว่าทุกวันนี้เธอมองเห็นตัวเองในภาพไหนชัดเจนกว่ากัน ระหว่างนักแสดงกับนักธุรกิจ เธอก็ได้ให้คำตอบกลับมาว่า “ตอนนี้ก็ได้คำตอบแล้วว่าน่าจะสามารถบาลานซ์ทำไปด้วยกันได้ เพราะว่าทุกอย่างยังเป็นแพชชั่นของเราอยู่ ก็รู้สึกว่าถ้ายังมีคนที่ต้องการเราไม่ว่าจะในสายธุรกิจ หรือวงการบันเทิง เราก็พร้อมที่จะเปิดโอกาสตัวเองไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเลือกได้ว่าจะอยู่ไปตลอด ขึ้นอยู่กับโอกาสที่เข้ามา ซึ่งการวางแผนชีวิตตอนนี้แต้ววางเป็นรายชั่วโมง (หัวเราะ) คือเมื่อก่อนจะเป็นคนที่พยายามวางแผนตลอด แต่รู้สึกว่าแผนที่วางมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราตั้งใจขนาดนั้น ก็เลยพยายามลดความคาดหวัง เพื่อให้เราอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด ค่อย ๆ ลดการวางแผนลง แล้วก็แค่อยู่กับตรงนี้ให้เต็มที่ที่สุด” 

 

อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่าในทุกครั้งที่กลับมาเจอกัน เราจะสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางความคิดที่เติบโตขึ้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ซึ่งสิ่งที่ทำให้เป็นแบบนั้นเธอบอกว่าคงเป็นเพราะ “น่าจะเป็นการที่เราเป็นคนคุยกับตัวเองเยอะมั้งคะ แล้วก็มีคนรอบข้างที่คอยสะท้อนตัวตนเรา ก็เลยทำให้เราค่อย ๆ ไปทีละก้าวแบบมีสติที่สุดเท่าที่จะมีได้ นอกจากนี้แต้วยังเป็นคนที่พยายามเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น แม้แต่ตัวเองก็พยายามบาลานซ์ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี ซึ่งเรื่องของการยอมรับในข้อจำกัดของตัวเองนี่ล่ะที่ทำให้แต้วรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นไปอีกขั้น คือเมื่อก่อนแต้วจะพยายามทำให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แล้วก็จะมุ่งมั่นตั้งใจมาก จนถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกว่าต้องมีตัวเรานี่แหละที่เป็นคนบอกตัวเองว่าไหวหรือไม่ไหว ไม่ใช่ว่าดึงดันเพื่อจะทำสิ่งนั้น จนมาทำร้ายตัวเอง คือสุดท้ายแล้วเราจะไปหวังพึ่งให้ใครมาดูแลไม่ได้ นอกจากเราต้องเข้าใจตัวเราเอง”

ไม่ใช่แค่เรื่องการทำงานและการใช้ชีวิตที่เติบโตขึ้น แม้แต่เรื่องหัวใจก็เติบโตขึ้นไปตามวัยเช่นกัน ซึ่งเธอก็ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวมุมหนึ่งในหัวใจตอนนี้ว่า “สำหรับเรื่องความรักก็รู้สึกว่าไม่ได้เป็นสิ่งที่ infinity เหมือนกันกับเรื่องอื่น ๆ ในชีวิต คือเราต้องเรียนรู้กันไปเรื่อย ๆ เหมือนที่เราก็ยังต้องเรียนรู้ตัวเราเอง ก็เรียกว่าเป็นความรักที่มีความหวัง แล้วก็ยังเห็นอนาคตไปเรื่อย ๆ อยู่ ยังรู้สึกว่าความรักในวันนี้ก็เป็นสิ่งที่ให้ความสุขกับเรา ณ ตอนนี้ค่ะ” ส่งยิ้มก่อนจะทิ้งท้ายถึงการทำงานในวันนี้ว่า “ทุกครั้งที่ถ่ายแบบ ไม่ว่าจะได้ลุคไหน สไตลิ่งอย่างไร ก็จะเปลี่ยนไปด้วย attitude หรือบรรยากาศ เรื่องราวการพูดคุยสัมภาษณ์ก็โตขึ้น ไม่เหมือนเราในครั้งก่อน ก็ขอบคุณ AROUND ค่ะที่นึกถึง แล้วก็ทำให้วันนี้ได้กลับมาเจอกันอีก เพราะแต้วรู้สึกว่าการสัมภาษณ์ หรือการได้มาถ่ายแฟชั่น มันก็เป็นการบันทึกตัวเราในอายุตอนนั้น เวลานั้นด้วย ก็ขอบคุณที่นึกถึงกัน แล้วก็ขอบคุณมากที่พามาหัวหินอีกครั้งหนึ่งค่ะ” 

 

ด้วยความประทับใจที่เกิดขึ้นทุกครั้งในการทำงานร่วมกัน สุดท้ายเราจึงจำใจต้องบอกลาเธอไปว่า “Goodbye and hope to se(a)e you again!”

MODEL: ณฐพร เตมีรักษ์

PHOTOGRAPHER: พงศกานต์ กำเเหงงาม 

PHOTOGRAPHER ASSISTANT: วรรณชัย อารีรักษ์, พัชรพล เกตุสุวรรณวัฒนา 

STYLIST: @kn_kayen__

HAIR STYLIST: เบญจพร คำพับ

MAKEUP ARTIST: @palmpampas

CLOTHES: Bottega Veneta ชั้น G ดิเอ็มโพเรียม โทร. 0 2664 7200 / Versace ชั้น G เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ โทร. 0 2160 5801 / Max Mara ชั้น 1 สยามพารากอน โทร. 0 2610 8000 / Dolce&Gabbana ชั้น M ดีเอ็มควอเทียร์ โทร. 0 2003 6415 / Asava 1,1/1,1/2 ซ.สุขุมวิท 45 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 0 2662 6526 ต่อ 45 / Bag: Fendi ชั้น M ดิเอ็มโพเรียม โทร. 0 2664 8370 

CAR: EQS 500 4MATIC AMG Premium

LOCATION: La Residence, InterContinental Hua Hin Resort 33/33 ถนนเพชรเกษม ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. โทร. 032 616 999

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด