ในภาพยนตร์ “LIGHT OF MY LIFE” ผลงานดราม่าระทึกขวัญเรื่องล่าสุดของ เคซีย์ แอฟเฟล็ค นักแสดงสาวน้อยหน้าใหม่สัญชาติแคนาดา แอนนา พิโนวสกี้ รับบทบาทเป็นหญิงสาวที่รอดมาจากไวรัสปริศนา ที่คร่าประชากรหญิงเกือบทั้งโลก รวมถึงคุณแม่สุดที่รักของพวกเขาทั้งสองคน

ถึงแม้ว่าประชากรหญิงบนโลกใบนั้น จะเหลือเพียงแค่หยิบมือเดียว พวกเธอก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเกรงกลัว ผู้ชายส่วนใหญ่เกรงกลัวว่าเหยื่อต่อไปของไวรัสนั้นจะเป็นพวกเขา พ่อที่รับบทโดย เคซีย์ แอฟเฟล็ค (ควบตำแหน่งผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง) จึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อปกปิดตัวตนลูกสาวคนนี้ของเขา ไม่ว่าจะเป็นการจับเธอแต่งตัวให้เหมือนเด็กผู้ชาย หรือว่าการอยู่ในสถานที่ห่างสายตาผู้คนแบบในป่าเขารกทึบ โดยที่ทั้งสองต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ และจะออกมาจากป่าก็ต่อเมื่อเสบียงของพวกเขาหมดเท่านั้น ลูกสาวของเขา แร็ก (แอนนา พิโนวสกี้) ไม่ได้เรียนในโรงเรียน หน้าที่ในการอบรมสั่งสอน จึงกลายเป็นหน้าที่ของพ่อคนนี้ เขาได้ใช้วิธีการเล่านิทานเป็นเครื่องมือในการให้ข้อคิดของชีวิต และสอนทักษะการเอาตัวรอดให้กับเธอตลอดเวลา เพราะโลกที่ไร้ซึ่งความสมดุลใบนี้คือโลกที่ไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา

โดยหนูน้อย แอนนา พิโนวสกี้ เด็กหญิงที่พึ่งจะมีอายุครบ 14 ปี เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ได้ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับภาพยนตร์ “LIGHT OF MY LIFE” และความเห็นเกี่ยวกับการแสดงร่วมกับนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ เคซีย์ แอฟเฟล็ค (Manchester by the Sea) ไว้อย่างน่าสนใจ

-||-

ดูเหมือนว่าบทของคุณดูเหนื่อยใช่ย่อยเหมือนกันนะ คุณมีวิธีในการจัดการกับมันยังไงบ้าง ?

แอนนา: เอาจริงๆ ฉันก็ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้เหมือนกันค่ะ นั่นเป็นเพราะว่าฉันเองก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเหนื่อยหรือว่ายากด้วย ฉันอยู่ท่ามกลางเหล่านักแสดง และทีมงานที่มีประสิทธิภาพ พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ร่าเริง และมีความกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา กองถ่ายของพวกเราไม่มีกฎอะไรตายตัวค่ะ ถ้าฉันเหนื่อยฉันก็พัก ถ้าฉันไม่ชอบกาแฟฉันก็ไม่ต้องดื่ม บางทีฉันก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่าหน้าที่จริง ๆ ของฉันก็คือการทำตัวเองให้รู้สึกสนุกกับการแสดงตลอดเวลาค่ะ

-||-

ในฉากเปิดที่คุณพูดคุยกับเคซีย์ในเต็นท์ นานเกือบ 10 นาที คุณจำได้มั้ยว่าต้องถ่ายทั้งหมดกี่เทค ?

แอนนา: ฉันคิดว่าเราถ่ายกันแค่เทคเดียวนะคะ หรือบางทีก็อาจจะเป็นสองเทค แต่เราก็ไม่ได้หยุดกล้องระหว่างฉากนั้นเลย ฉันมีเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่ฉันไม่เคยบอกใครมาก่อน ที่พวกคุณเห็นว่าตัวละครของฉันรู้สึกเหมือนได้ฟังนิทานของเคซีย์เป็นครั้งแรกนั้นเป็นเพราะว่า… ในตอนนั้นฉันง่วงมากค่ะ

-||-

ตัวละครของคุณมีคำถามถามพ่อของเธออยู่ตลอดเวลา แล้วคุณล่ะขี้สงสัยเหมือนกันหรือเปล่า ?

แอนนา: ก็ประมาณนึงค่ะ ฉันคิดว่าที่แร็กต้องถามพ่อของเธอบ่อยนั้น เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้โตมากับแม่ การเจริญเติบโตเป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กับการเรียนรู้ ดังนั้นการโตมาในสภาวะแวดล้อมที่ไม่มีแม่นั้น เป็นสิ่งที่ฉันเองก็จินตนาการไม่ออกเหมือนกัน ว่ามันจะยากลำบากขนาดไหน โดยเฉพาะบนโลกที่สมดุลของมนุษย์พังทลาย ฉันเองก็เป็นคนขี้สงสัย แต่ก็ไม่ได้เป็นมากเท่าเธอ ฉันมีโอกาสเรียนในโรงเรียน เธอไม่ได้รับโอกาสนั้น โรงเรียนของเธอคือพ่อ และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงถามคำถามไม่หยุดค่ะ

-||-

นอกจากตัวละครสมทบที่เข้ามาแค่บางฉาก ฉากส่วนใหญ่ของ “Light of My Life” ก็จะเป็นฉากของคุณกับเคซีย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณต้องรับภาระหนักที่สุดสำหรับคุณหรือเปล่า ?

 แอนนา: “หนัก” จริง ๆ ล่ะค่ะ ฉันบอกได้เต็มปากเต็มคำเลย ว่ามันเป็นงานที่หนักที่สุดเท่าที่ฉันเคยรับมา และมันก็เป็นงานที่ยากที่สุดในชีวิตของฉันเลยด้วย แต่ฉันก็ได้ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่นะ

 -||-

การได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของตัวละครตัวนี้เป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับคุณหรือเปล่า ?

แอนนา: มันเป็นประสบการณ์ที่ดีสุดๆ ไปเลยค่ะ

 -||-

คุณรู้สึกยังไงบ้างเมื่อคุณต้องตัดผมเพื่อรับบทนี้ ?

แอนนา: ฉันต้องทำใจอยู่พักใหญ่เลยล่ะค่ะ ฉันเคยมีผมที่ยาวมากๆ ยาวมาจนถึงบริเวณเอว ฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่ค่อนข้างหวงผมของตัวเองด้วย ดังนั้นฉันจึงค่อนข้างทำใจลำบากเมื่อรู้ว่าจะต้องตัดผมสั้น แต่ผลลัพธ์นั้นก็ออกมาคุ้มค่านะคะ ทีแรกช่างตัดผมตัดทรงสั้นๆ น่ารักๆ ให้ฉัน แต่เคซีย์ก็ได้ทำลายทรงผมน่ารักๆ นั้นทิ้ง เขาให้ช่างตัดผมของฉันใหม่ให้ดูแหว่ง ๆ ดังนั้นเมื่อฉันต้องกลับเข้าไปเรียนในช่วงกลางเทอม ฉันเลยต้องทนกับเจ้าทรงผมสุดเห่ยนั่นไปสักพักใหญ่ แต่โดยรวมแล้วฉันก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่านะคะ

เมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดหนึ่งทำให้ประชากรมนุษย์เพศหญิงของทั้งโลกเหลือเพียงแค่ “คนเดียว” คนเป็นพ่ออย่างเขา (เคซีย์ แอฟเฟล็ก) จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้อง แร็ก (แอนนา พิโนวสกี้) ลูกสาวของเขาให้พ้นจากภัยอันตราย แม้ว่าจะต้องให้เธอปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชาย แม้ว่าจะต้องโกหกและทำร้ายผู้อื่น และแม้ว่าเขาจะต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก เขาก็จะพิสูจน์ความรักและความทุ่มของคนเป็นพ่อที่รักลูกสาวคนนี้อย่างหมดหัวใจ

เชื้อไวรัสระบาด โลกล่มสลาย เหลือเพียงการเดินทางของพวกเขา ที่มีจุดหมายเดียวคือ “เอาชีวิตรอด”

“LIGHT OF MY LIFE คือพ่อ…คือลูก”

28 พฤศจิกายน ในโรงภาพยนตร์

ชมตัวอย่างภาพยนตร์