กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค และดูแลสิ่งแวดล้อมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในขณะที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ ท่ามกลางความท้าทายหลายประการนี้ ยูนิลีเวอร์จะยังคงทำสิ่งดีๆ และปฏิบัติตามพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม ลดขยะพลาสติก แก้ไขปัญหาสังคม และต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างไม่หยุดยั้งในประเทศไทยต่อไป พร้อมทั้งมุ่งเน้นในเรื่องการให้ความช่วยเหลือ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด สนับสนุนการทำงานของบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าและปกป้องชุมชน

ซึ่ง “ยูนิลีเวอร์” เป็นผู้นำในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลหลังการบริโภค (post-consumer recycled: PCR) ภายในประเทศ มากถึง 4,000 ตัน ปัจจุบันหลายแบรนด์ล้วนใช้ขวดบรรจุภัณฑ์ที่เป็น PCR เช่น ซันไลต์ คอมฟอร์ท ซันซิล และโดฟ เป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไทย และทำให้เกิดการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคัดแยกและจัดเก็บขยะพลาสติก เพื่อให้ขยะพลาสติกถูกนำมาหมุนเวียนใช้ในระบบ โดยในปี 2562 ยูนิลีเวอร์ได้ประกาศพันธกิจในด้านพลาสติก มุ่งลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ลงครึ่งหนึ่ง และใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิล ใช้ซ้ำ หรือย่อยสลาย ให้ได้ 100% นอกจากนี้ยังเก็บรวบรวมพลาสติกและแปรรูป ให้ได้มากกว่าปริมาณที่จำหน่ายออกไป

ขณะที่การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทวีความรุนแรงอย่างมากในประเทศไทย “ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการให้การช่วยเหลือด้านโควิดเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติและคนไทย ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ บริษัทได้บริจาคชุดตรวจโควิด และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาล, โรงพยาบาลสนามโควิด ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส และยังร่วมมือกับสภาหอการค้าไทย เพื่อสนับสนุนโครงการวัคซีนแห่งชาติ โดยช่วยให้ความรู้คนไทยเกี่ยวกับความสำคัญของสุขอนามัย และการฉีดวัคซีน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัย ในระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสนี้” นายโรเบิร์ต กล่าว

ทุกแบรนด์ภายใต้แกนนำของ “ยูนิลีเวอร์” ล้วนมีจุดประสงค์ในการทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น วาสลีน บริจาคเจลล้างมือ มูลค่า 40 ล้านบาท ให้กับโรงเรียนทั่วประเทศในสังกัดของสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผ่านแคมเปญ “วาสลีนชวนคนไทยร่วมดูแลมือของเรา” (Vaseline Caring Hand for Thailand), โอโม ก่อตั้ง “โครงการ OMO Bright Future Academy” โดยร่วมมือกับติวเตอร์ภาษาอังกฤษชื่อดัง ครูลูกกอล์ฟ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจและศักยภาพการสื่อสารภาษาอังกฤษให้กับคนรุ่นใหม่ ส่วน ซันซิล จัด “การแข่งขัน Sunsilk Possibilities Fund” เพื่อให้ผู้หญิงได้มีโอกาสตามหาอาชีพในฝันและเสนอแผนธุรกิจของตนเอง ชิงเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อนำไปก่อตั้งธุรกิจตามที่หวัง และ บรีส มีการ “ปรับสูตรใหม่ โดยแทนที่สารเคมีด้วยเอนไซม์จากธรรมชาติ และลดการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล” เพื่อมุ่งหน้าสู่อนาคตที่สะอาด จะเห็นได้ว่า แบรนด์เหล่านี้ทั้งหมด มีความมุ่งมั่นพัฒนาด้านความยั่งยืน เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ยูนิลีเวอร์ ไม่เคยหยุดทำสิ่งดีๆ เพื่อช่วยปกป้องและทำให้โลก สังคม และผู้คน ดีขึ้น

แคมเปญทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ

จัดโปรโมชั่นพิเศษ ตลอดเดือนมิถุนายนนี้

ก้าวต่อไปที่สำคัญของ ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย คือ การเปิดตัว “แคมเปญทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ” (Every U Does Good: EUDG) ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ เพื่อปลุกจิตสำนึกของผู้บริโภคต่อโครงการรณรงค์เพื่อชุมชน และสิ่งแวดล้อมของบริษัท และส่งเสริมการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน โดย ทุกครั้งเมื่อคุณถู คุณแปรง รับประทาน หรือดื่ม หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ คุณได้มีส่วนร่วมในการทำความดี ด้วยการสนับสนุนการรณรงค์ในเรื่องต่างๆ ของ U ในโลกนี้ และสนับสนุนความเป็นอยู่อย่างยั่งยืนอีกด้วย

ในประเทศไทย ทุกแบรนด์ของยูนิลีเวอร์ เช่น บรีส โอโม ซันไลต์ ซันซิล โดฟ วาสลีน คนอร์ และวอลล์ จะทำสิ่งดีๆ ต่อไปภายใต้แคมเปญทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ ตัวอย่างเช่น ทุกๆ ซันไลต์ ทุกขวดผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล100% ทุกๆ โดฟ สอนให้เด็กผู้หญิงมีความมั่นใจในตัวเอง และทุกๆ คนอร์ ส่งเสริมโภชนาการอาหาร

เพื่อร่วมในการเปิดตัว “แคมเปญทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ” บริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษตลอดเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับสินค้าของยูนิลีเวอร์ ที่ร้านค้าโมเดิร์นเทรด เช่น โลตัส บิ๊กซี วัตสัน และเซเว่น-อีเลฟเว่น รวมถึงร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคลดค่าครองชีพในช่วงสถานการณ์โควิดนี้อีกด้วย

ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์สินค้า: www.unilever.com   

ข้อมูลเกี่ยวกับ แผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของยูนิลีเวอร์ (USLP): www.unilever.com/sustainable-living