ดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลของ 4 ร้านแสนสวย ที่จะปรุงแต่งมื้อพิเศษไปด้วยบรรยากาศร้านอันน่าพิสมัย
Maison d’Olivia
พหลโยธิน ซอย 8 สามเสนใน
โทร. 0 2048 2466
คาเฟ่สไตล์อังกฤษที่สะดุดตาด้วยซุ้มประตูดอกไม้ขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าร้านและภายในตกแต่งประดับประดาบริเวณที่นั่งแต่ละมุมด้วยดอกไม้สีหวานละมุนผสานโทนสีชมพูพาสเทล พร้อมพิถีพิถันในส่วนของการสร้างสรรค์เมนูอาหารทุกจานเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยเริ่มต้นเรียกน้ำย่อยด้วย ซุปครีมเห็ดน้ำมันทรัฟเฟิล ซุปเห็ดเนื้อเนียนที่ได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ แล้วไปต่อกับเมนูฟิวชั่นรสชาติจัดจ้านอย่าง สปาเก็ตตี้ปูนิ่มน้ำยาปักษ์ใต้ ที่เซอร์ไพรส์ตั้งแต่คำแรกด้วยรสชาติเข้มข้นถึงใจผสานเข้ากับเส้นพาสต้าเหนียวนุ่มได้อย่างลงตัวไร้ที่ติ แล้วเบรกด้วย Olivia Tea Set เซ็ตชากุหลาบกลิ่นหอมกรุ่นเสิร์ฟในภาชนะแสนสวยเข้าเซ็ตกับขนมเค้กที่ทางร้านมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Tiramisu เนื้อเนียนหอมกลิ่นกาแฟ หรือ Red Velvet Cream Cheese Cake ที่ถือเป็นตัวเด่นของร้าน ก็ให้รสชาติและสัมผัสสุดละมุนที่เข้ากันกับชาร้อนๆ ได้อย่างลงตัว ตบท้ายด้วย Espresso Affogato ที่ใช้เอสเพรสโซ่ช็อตจากกาแฟอาราบิก้าคั่วใหม่ราดลงไปบนไอศกรีมวานิลลาหวานละมุน จนได้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัวเป็นการปิดท้ายมื้อสุดพิเศษนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
♥
Café La Rose
ซอยพิบูลพัฒนา 10 ถนนพระรามที่ 6 สามเสนใน
โทร. 099 198 2571
ผนังดอกไม้หลากสีสันที่โดดเด่นสะดุดตาบนโลกโซเชียล ได้ดึงดูดให้เราเข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศแสนผ่อนคลาย ซึ่งนอกจากจะได้อิ่มเอมไปกับบรรยากาศของร้านแล้ว ยังได้อิ่มท้องไปกับเมนูอาหารอันหลากหลายที่สามารถแวะมาฝากท้องได้ทั้งวัน เริ่มเรียกน้ำย่อยกันด้วยเมนูยอดนิยม อย่าง เมี่ยงดอกบัว ที่ผสานทั้งความสวยงามและรสชาติเข้าไว้อย่างตั้งใจ ต่อด้วย สปาเก็ตตี้หมูซอสเห็ด โดดเด่นด้วยซอสสูตรเข้มข้นที่ผสมผสาน เห็ดทรัฟเฟิล เห็ดหอม และเห็ดออรินจิ เมื่อกินคู่กับสเต๊กสันในหมูชิ้นหนานุ่มก็อร่อยลงตัวแบบไม่ต้องขออะไรเพิ่ม และสำหรับสายชิลล์ต้องไม่พลาดเครื่องดื่มสุดพิเศษ อย่าง Rose Lemon ที่นำเสนอมาในซุ้มดอกไม้สุดอลังการ โดยมิกซ์รสชาติระหว่างกาแฟเอสเพรสโซ่ของสายพันธุ์อาราบิก้ากับกาแฟโรบัสต้า แล้วเติม Rose Lemonade ไว้ชั้นบนสุด เสริมด้วยผลไม้สดอย่าง บลูเบอร์รี่และสตรอว์เบอร์รี่ จึงได้เป็นเครื่องดื่มสดชื่นจี๊ดจ๊าดที่ผสานรสเข้มของกาแฟกับเลมอนเนดเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ และอีกทีเด็ดที่ไม่ควรพลาดคงต้องยกให้ Rose Bouquet ไอศกรีมโฮมเมดตกแต่งเป็นรูปดอกกุหลาบสุดสวย เสิร์ฟมาในวาฟเฟิลฮ่องกงกลิ่นหอมกรุ่นที่ทำขึ้นร้อนๆ ในแต่ละออเดอร์ นอกจากสวยสะดุดตาจนต้องขอถ่ายรูปอวดโซเชียลแล้ว ยังเป็นตัวช่วยเสริมให้มื้อนี้ยิ่งครบอรรถรสไปด้วยรสชาติทั้งคาวและหวาน
♥
Disjarus Craft and Café
โครงการช่างชุ่ย บางพลัด
โทร. 083 624 2942
พาคุณท่องเข้าไปในโลกแห่งของสะสมและภาชนะสวยงามสไตล์วินเทจที่มีคุณค่าทางจิตใจ ซึ่งเป็นของส่วนตัวที่เจ้าของร้านสั่งสมมาจากการเดินทางไปทั่วทุกมุมโลกตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ตกแต่งเรียงรายผสมผสานเข้ากับเฟอร์นิเจอร์สไตล์แอนทีคภายในคาเฟ่สุดคลาสสิก ส่วนในเรื่องเมนูก็น่าสนใจไม่แพ้สไตล์การตกแต่ง เริ่มจากเมนูที่คอกาแฟต้องหลงรัก อย่าง Disjarus Black Rose เครื่องดื่มที่ผสานส่วนผสมเอาไว้ถึง 3 เลเยอร์ด้วยกัน ได้แก่ ไซรัปกลิ่นกุหลาบ ตามด้วยกาแฟอาราบิก้า แล้วท็อปด้านบนสุดด้วยโซดา จนได้ความหอมของกลิ่นกุหลาบและกาแฟที่ผสานกันได้อย่างลงตัว หรือถ้าอยากเติมความสดชื่นให้กับยามบ่าย ก็ต้องไม่พลาดแก้วนี้ กับ Mixed Kiwi Mint ม็อกเทลสีสวยที่ให้รสชาติเปรี้ยวหวานนำด้วยน้ำผึ้งและมะนาวพร้อมความหอมสดชื่นจากมิ้นต์ อัดแน่นมาด้วยแอปเปิลและกีวีสดชิ้นโตหั่นสไลซ์ และอีกเมนูที่คนรักของหวานต้องลิ้มลอง อย่าง The Four Seasons Cheesecake – Spring ที่ได้ตัวชูโรงอย่างโฮมเมดชีสเค้ก Velvet เนื้อเนียนแน่นสุดละมุนลิ้น ท็อปด้วยไอศกรีมส้มยุสุที่ให้รสหวานอมเปรี้ยวกำลังพอดี กินคู่กับผลไม้สดอย่าง ส้มแมนดาริน และกีวี ก็ยิ่งช่วยเสริมรสชาติและความสดชื่นให้แก่กันได้อย่างลงตัว
♥
Botanica Cafe
ซอยนครทอง 2 สำโรงเหนือ (ติด BTS สถานีสำโรง ทางออก 6)
โทร. 081 663 8884
จากความหลงใหลในศิลปะของการตกแต่งบวกกับความชอบในจานชามและข้าวของเครื่องใช้สไตล์แอนทีค จึงได้รวบรวมของสะสมวินเทจสวยแปลกตามารวมไว้ภายในร้านที่ตั้งใจให้เป็นศูนย์รวมสิ่งดีๆ ที่เกิดจากความชอบส่วนตัวทั้งหมดเอามาแบ่งปันให้ลูกค้าได้ชื่นชม ภายในห้องแถวเก่าที่ถูกปรับให้กลายเป็นคาเฟ่สุดร่มรื่น มาพร้อมกับความเขียวขจีของต้นไม้ที่เป็นของจริงทั้งหมดภายในคาเฟ่ 2 ชั้น อีกทั้งยังใส่ความละเมียดละไมลงไปในทุกเมนูทั้งเครื่องดื่มและของหวานด้วยดอกไม้กินได้ที่เลือกสั่งมาโดยเฉพาะจากเชียงใหม่เพื่อเพิ่มอรรถรสทางสายตาให้ลูกค้าได้รับความประทับใจในทุกๆ ออเดอร์ โดยมีเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ อย่าง Botanica Coffee ที่เมื่อได้ลองชิมก็ประทับใจในดีเทลที่เป็นการแบ่งเลเยอร์อย่างชัดเจนระหว่างกาแฟเอสเพรสโซ่กับมัทฉะสุดเข้มข้นจากเกียวโต กลิ่นหอมติดจมูกชนิดที่วางแก้วไม่ลง กินสลับกับของหวาน อย่าง Strawberry Versailles เมนูบัตเตอร์เค้ก 2 ชั้นเนื้อแน่นสอดแทรกด้วยสตรอเบอร์รี่สดชิ้นโตระหว่างชั้น แล้วท็อปด้วยวิปครีมสุดพรีเมียมที่ตีขึ้นใหม่สำหรับเสิร์ฟแบบจานต่อจาน แล้วเพิ่มความเย็นฉ่ำด้วย Botany Fruity ไอศกรีมที่ตกแต่งจานมาได้สวยขึ้นกล้อง ที่สามารถเลือกซอสได้ถึง 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็น ช็อกโกแลต มัทฉะ หรือกาแฟ แล้วเติมความละมุนลิ้นแบบหวานอมเปรี้ยวด้วยเครื่องดื่มสีชมพูหวานอย่าง Strawberry Milk ที่ใช้ซอสสตรอเบอร์รี่สูตรพิเศษของทางร้านไปปั่นจนเนื้อเนียนละเอียดละมุนลิ้น ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบร้อนและเย็น
♥