เปิดแล้ว!! แคมเปญระดับโลก “Only in Madrid” ณ ประเทศไทยกับการฉายแสงโชว์ความงดงามของเมืองหลวงสเปน
อะราวด์พาเปิดประสบการณ์ใหม่กับแคมเปญระดับโลกอย่าง “Only in Madrid” ณ ประเทศไทย โดย MADRID TURISMO by IFEMA Madrid ที่ Uno Mas at Centara Grand เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นแคมเปญที่เปิดตัวในทวีปเอเชียโดยเอเจนซีระดับโลก Connecting Travel และ Select Holding โดยมีเป้าหมายเพื่อโปรโมตเมืองต่าง ๆ รวมถึงเผยแพร่ความยิ่งใหญ่ของเมืองมาดริดสู่สายตาของสาธารณชน สร้างหมุดหมายใหม่แห่งการท่องเที่ยว
เมืองมาดริดถือเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญที่สวยงามอื่น ๆ เช่น จัตุรัส Plaza Mayor พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Prado สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว แต่ละย่านในมาดริดมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่ย่าน Malasaña แสนเก๋ ไปจนถึงย่าน Salamanca หรูหราสุดชิคที่เหล่านักท่องเที่ยวสามารถไปดื่มด่ำกับโลกแห่งการช็อปปิงร้านอาหาร และระบำฟลามิงโก นอกเหนือไปจากความน่าดึงดูดและความคึกคักของเมืองหลวงสเปนแล้ว ยังมีอีกด้านที่ไม่ค่อยมีใครรู้แต่น่าหลงใหลไม่แพ้กันของมหานครมาดริด เพียงขับรถออกไปไม่ไกลจากเมืองหลวง คุณก็จะพบกับชนบทอันเขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ทรงเสน่ห์ของยุคกลาง
พาคุณมาพบกับโรงบ่มไวน์และสวนสาธารณะที่ควรค่าแก่การถ่ายภาพ เสน่ห์อันแตกต่างจากแสงสีในเมืองหลวง อีกทั้งมหานครมาดริดยังเป็นที่ตั้งของสามเหลี่ยมมรดกโลกของ UNESCO อย่างเมืองมรดกโลก Alcalá de Henares, พระราชฐาน San Lorenzo de El Escoria และพระราชวังหลวง Aranjuez และห่างจากนั้นไม่ไกลมากจากตัวเมืองประมาณ 30 นาที ก็จะพบกับชนบทที่สวยงามไม่แพ้กันของหมู่บ้าน Patones, เมือง Chinchon และไร่องุ่นในเมือง San Martín de Valdeiglesias ซึ่งปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยที่ร่ำรวยย้ายเข้ามาอยู่ในละแวกกรุงมาดริดมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการลงทุนจากต่างประเทศตามมามากขึ้น และนำมาซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติ โรงแรมหรู ร้านอาหาร บาร์ และร้านกาแฟใหม่ ๆ โดยมีห้องพักในโรงแรมหรูเกิดขึ้นใหม่กว่า 2,700 ห้อง ภายในปี 2023 ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นมาถึง 50% ในรอบ 10 ปี
การรายงานของบริษัท JLL ได้กล่าวไว้ว่ากรุงมาดริดจะมีโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้นอีก 33 แห่งตามแผนการดำเนินงาน และกว่าครึ่งจะเป็นโรงแรมระดับ upscale อีกทั้งการลงทุนด้านโรงแรมของมาดริดมีมูลค่าสูงถึง 802 ล้านยูโรในปี 2022 และเมื่อเร็ว ๆ นี้ โรงแรมสุดหรู Four Seasons Hotel ได้เปิดให้บริการใกล้กับใจกลางย่านจัตุรัส Puerta del Sol ด้วยพื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตร พร้อมแหล่งช็อปปิงแบรนด์เนมสุดหรู เช่น Dior และ Hermes และนอกจากนี้บริเวณข้าง ๆ ยังมีโรงแรมระดับลักซ์ชูรี Mandarin Oriental Ritz ที่พึ่งได้รับการอัปเกรดมาอีกด้วย และมาดริดยังเป็นบ้านเกิดของเหล่าแฟชั่นแบรนด์มากมาย ทั้งระดับสุดหรูหราไปจนถึงระดับแฟชั่นทั่วไป ตั้งแต่ Loewe, Balenciaga และ Manolo Blahnik ไปจนถึง Zara และ H&M ด้วยเหตุนี้เองทำให้มาดริดเป็นหนึ่งในเมืองหลวงด้านแฟชั่นระดับนานาชาติที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง หรือถ้าคุณต้องการจะหลีกหนีจากแฟชั่นอันหรูหรา คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเสื้อผ้า สินค้าพื้นเมืองที่ผลิตอย่างมีคุณภาพระดับพิเศษ และราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับแบรนด์ต่างประเทศอื่น ๆ ย่านสตูดิโองานศิลปะของมาดริด ประกอบไปด้วยบริษัททั้งขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ในการสร้างสรรค์ผลงานที่สอดคล้องไปกับการให้คุณค่าใน ‘slow fashion’ แฟชั่นเพื่อความยั่งยืน และมุ่งเน้นไปยังการออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา สนับสนุนแรงงานในท้องถิ่น มีการตัดเย็บที่ประณีต ตลอดจนถึงใช้วัสดุและผ้าที่มีคุณภาพ จริง ๆ แล้ว สเปนเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในยุโรปที่มีการอนุรักษ์งานฝีมือจากผ้าพื้นเมือง ช่างฝีมือที่ส่งต่อความเชี่ยวชาญจากรุ่นสู่รุ่น เป็นดั่งจุดหมายปลายทางของการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ และความเพลิดเพลินในแฟชั่นของสเปน
นอกเหนือไปจากเรื่องราวของแฟชั่นแล้ว มาดริดยังมีเรื่องราวความหอมเย้ายวนของอาหารที่แทรกซึมอยู่ในทุก ๆ แง่มุมวัฒนธรรมและชีวิต ตั้งแต่อาหารกลางวันวันอาทิตย์แบบดั้งเดิมกับครอบครัว เพลิดเพลินไปด้วยทาปาส (อาหารเรียกน้ำย่อย) กับเพื่อนฝูง ไปจนถึงการใช้เวลาหลายชั่วโมงเลือกซื้อผลิตผลสดใหม่ของท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นได้ชัดว่า “วัฒนธรรมมาดริดกับอาหาร” เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาตลอด ซึ่งมีเพียงแค่ในมาดริดเท่านั้นที่คุณจะสามารถรับประทานอาหารในร้านที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อย่างร้าน Sobrino de Botín อัญมณีเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1725 โดยมีเมนูที่ควรลอง ได้แก่ roast suckling pig หมูหันสไตล์สเปนที่ดีที่สุดในโลก Cochinillo asado เมนูลูกหมูย่างเตาอบแบบพิเศษ และ cordero asado เนื้อแกะย่างที่นุ่มละลายในปาก นอกจากนี้ยังพลาดไม่ได้กับเมนูสุดคลาสสิกอย่าง caracoles หอยทากสเปน หรือจะ Cocido Madrileño (สตูว์โกซิโดมาดริเลญโญ) ที่เป็นอาหารพื้นเมืองของมาดริด และยังเป็นอาหารจานพิเศษของพื้นที่ข้างเคียงอย่างเมือง Chinchon อีกด้วย สตูว์นี้มีส่วนผสมของถั่วลูกไก่ เนื้อสัตว์ และผักนานาชนิด เป็นอีกหนึ่งในประสบการณ์อาหารที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด หรือหากคุณต้องการที่จะลิ้มลองรสชาติแบบฉบับคนท้องถิ่น ก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปที่ตลาด Mercado de San Anton ในย่าน Chueca ตลาดแห่งนี้เดิมมีมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 19 แต่ได้มีการปรับปรุงในปี 2011 ให้ดูทันสมัยมากขึ้น และเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้ออาหารจากแผงอาหารเลิศรสในตลาด หรือจะรับประทานที่ร้านอาหารบนดาดฟ้าก็ได้เช่นกัน Janel Kok หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการสื่อสารประจำภูมิภาคเอเชียกล่าวว่า “ในที่สุดก็ถึงเวลาของมาดริดที่จะได้เฉิดฉาย งานเปิดตัวแคมเปญของเราตั้งใจทำมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานกันระหว่างศิลปะ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม อาหาร แฟชั่น และกีฬา ที่มีเอกลักษณ์ที่สามารถหาได้ในมาดริดเท่านั้น กรุงมาดริดเป็นสถานที่ที่คุณจะไม่มีวันเบื่อ เป็นสถานที่ที่คุณจะรู้สึกพิเศษและเป็นหนึ่งเดียวกับคนท้องถิ่น”
ในช่วงปีแรกของการเปิดตัวแคมเปญ จะมีการโปรโมตใน 16 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย จีน เกาหลี และญี่ปุ่น โดยโครงการนี้ประกอบด้วย การทำการตลาดดิจิทัลในตลาด B2B และ B2C, เว็บไซต์โครงการ 11 ภาษา, เผยแพร่เนื้อหาโครงการในสื่อทั่วไปและในสื่อธุรกิจ, ดำเนินการสื่อสารทางการตลาดร่วมกับสื่อมวลชน และ TTOOs, ทำแคมเปญทางการตลาดกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางความคิดและอินฟลูเอนเซอร์, เน้นการทำการสื่อสารทางการตลาดอย่างยืนยาว และผลิตและเผยแพร่เนื้อหาสำหรับแคมเปญ #onlyinmadrid โดยทั้งหมดนี้เพื่อสร้างเสริมศักยภาพของมาดริด ในการเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวชั้นนำสำหรับนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย
ในแง่ของอุตสาหกรรมการบิน โครงการนี้ได้มีแผนเชิงพาณิชย์ที่มีการเจรจากับสายการบินต่าง ๆ กว่า 10 สายการบิน โดยมีเป้าหมายในการสร้างเส้นทางตรงสู่จุดหมายปลายทางในเอเชีย มีการลงนามข้อตกลงกับ Iberia กลุ่มบริษัทขนส่งชั้นนำของสเปน สำหรับเส้นทางเชื่อมต่อทางอากาศระหว่างมาดริด-โดฮาแห่งใหม่ โครงการนี้จะเพิ่มเส้นทางใหม่ 44 เส้นทางในเอเชีย และ 26 เส้นทางในตะวันออกกลาง ที่จะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อภูมิภาคเป็นมูลค่า55 ล้านยูโรในปีแรก
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่จะได้เห็น ได้ทำ และได้ชิมในกรุงมาดริด สามารถหาข้อมูลได้จาก:
https://www.turismomadrid.es/en/