‘ยูนิลีเวอร์’ ตอกย้ำพันธกิจสร้างวิถีชีวิตที่ยั่งยืน ท่ามกลางวิกฤตโลก มุ่งสร้างองค์กรและแบรนด์เพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม
ยูนิลีเวอร์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้เกิดกระแสการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น และทุกธุรกิจคำนึงถึงเรื่องความยั่งยืน นำมาเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างแบรนด์ที่เป็นมิตรกับโลก รวมถึงร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาสังคม ปัญหาโลกร้อน โรคระบาด รวมถึงความไม่เท่าเทียมในสังคมที่เพิ่มขึ้น การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อโลกและสังคม จึงเป็นสิ่งที่ต้องลงมือทำในวันนี้เพื่อโลกที่ยั่งยืน
นายอลัน โจป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูนิลีเวอร์ โกลบอล กล่าวในงาน AheadFest Thailand 2021 ว่า “การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในทุกภาคส่วนอย่างมาก และยังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คนที่มองเห็นความสำคัญของการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น เห็นได้จากผลสำรวจหลายแห่ง ที่พบว่าหลังจากเกิดโรคระบาด ผู้บริโภคได้นำเรื่องสิ่งแวดล้อมมาใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ในขณะเดียวกันโควิด-19 ยังเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล ทั้งในแง่ของการบริโภคสื่อและการซื้อสินค้าออนไลน์ด้วย สะท้อนให้เห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะโอกาสในการเข้าถึงวัคซีนที่ไม่เท่าเทียมกัน บริษัทใดก็ตามที่ต้องการได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในอนาคต ต้องคิดแล้วว่าจะปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการอย่างไร ทั้งในแง่ของการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม”
ยูนิลีเวอร์ กำหนดกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน
- การสร้างแบรนด์อย่างมีเป้าหมาย (Brand with Purpose) ในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ของยูนิลีเวอร์มีการเติบโตโดยเฉลี่ย 2-3 เท่า ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าการทำธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืน จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วกว่า ทั้งนี้ แบรนด์ต้องลงมือทำจริง
- ลดรายจ่าย ด้วยการเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
- ลดความเสี่ยง การทำธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน ทำให้ยูนิลีเวอร์ลดความเสี่ยงในทุกหน่วยธุรกิจลง
- ดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพ ความสำเร็จที่สำคัญที่สุดจากการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คือการได้รับการยอมรับจากบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เห็นได้จากการที่ยูนิลีเวอร์ เป็นองค์กรอันดับหนึ่งที่บัณฑิตจบใหม่ อยากเข้าร่วมงานมากที่สุดใน 54 ประเทศ
ในขณะเดียวกัน นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย และภาคพื้นอาเซียน กล่าวเสริมว่า “ยูนิลีเวอร์มีความผูกพันกับสังคมไทยมามากกว่า 88 ปี และครัวเรือนไทยใช้สินค้าจากแบรนด์ของยูนิลีเวอร์โดยเฉลี่ย 3 ครั้งต่อวัน จึงเป็นโอกาสที่เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้น และยังเป็นความรับผิดชอบในฐานะผู้นำทางธุรกิจด้วย พันธกิจในการดูแลโลกและสร้างความยั่งยืน จึงต้องเป็นหัวใจสำคัญของทุกเรื่องที่เราทำ เป้าหมายของยูนิลีเวอร์ คือการสร้างวิถีชีวิตที่ยั่งยืน ให้เป็นเรื่องสามัญในทุกหนแห่ง”
ยูนิลีเวอร์ประกาศเป็นหนึ่งในองค์กร
ที่ “ให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน มากที่สุดในโลก”
ยูนิลีเวอร์ ประกาศจุดยืน ในการเป็นบริษัทที่คำนึงถึงความหลากหลายมากที่สุด
▶️ สร้างโอกาสในการทำงานอย่างเท่าเทียมกันให้กับคนทุกกลุ่ม ปัจจุบันยูนิลีเวอร์มีผู้บริหารที่เป็นผู้หญิงถึง 51%
▶️ มุ่งเพิ่มจำนวนซัพพลายเออร์ และผู้กระจายสินค้าที่เป็นผู้หญิงให้มากขึ้น
▶️ รวมถึงเกษตรกรรายย่อยที่บริษัทร่วมทำงานด้วยผ่านการจัดซื้อ
▶️ สนับสนุนสิทธิของ LGBTQI+ โดยได้ร่วมกับเครือข่ายภาคี Unstereotype Alliance ในการคัดเลือกตัวแทนจากคนหลากหลายกลุ่ม ทั้งคนผิวสี ผู้พิการ และ LGBTQI+ เพื่อเป็นตัวแทนในแคมเปญโฆษณาและสื่อต่างๆ
▶️ ยูนิลีเวอร์ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2025 ในองค์กรต้องมีพนักงานที่เป็นผู้พิการอย่างน้อย 5% และต้องมีพนักงานที่มาจากทุกภาคของประเทศไทย