TOP

สัมผัสความรักอวลความอบอุ่นของคู่รักโรแมนติก “แมทธิว – ลิเดีย” ผ่านแฟชั่นเซตชุดพิเศษ ณ เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย

“ความรักที่ยิ่งใหญ่จะสามารถเอาชนะได้ทุกอุปสรรค” ประโยคที่ดังขึ้นมาในความคิดของเราหลังจากที่ได้เห็นภาพอันอบอุ่นของ ครอบครัว “ดีน” ยิ่งหลังจากที่ได้มาสัมผัสกับทริปการเดินทางมาเก็บภาพแฟชั่นเซตอบอุ่น ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามของโรงแรมใหม่ล่าสุด Centara Reserve Samui ก็ยิ่งทำให้แน่ใจกับประโยคนี้ได้แบบไม่ต้องสงสัย

ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้เรามากันเป็นกลุ่มใหญ่ โดยมีจุดปลายทางเป็นที่เช็คอินแห่งใหม่บนเกาะสมุย นั่นจึงทำให้การมาสมุยในครั้งนี้ไม่เหมือนเป็นการมาทำงานเลยสักนิด แถมยังพิเศษกว่าครั้งไหนๆ ด้วยการได้สัมผัสกับความอบอุ่นและความรักของคู่รักโรแมนติก ที่แม้จะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยน่ารักถึง 2 คนแล้ว แต่ดีกรีความหวานของ แมทธิว – ลิเดีย ก็ไม่ลดน้อยลงเลยและยังมีสีสันและความน่ารักจาก 2 ตัวน้อยที่คอยสร้างความสดชื่นสดใสให้กับทีมงาน โดยทันทีที่สิ้นเสียงรัวชัตเตอร์ของช่างภาพในชอตสุดท้าย พร้อมๆ กับเสียงเฮและปรบมือของทีมงานซึ่งแปลว่าช่วงเวลาทำงานได้เสร็จสิ้นลงแล้ว สองคุณพ่อคุณแม่คนเก่งก็ตรงมานั่งประจำที่ พูดคุยกับเราอย่างสนุกสนานเป็นกันเอง

 

ตอนนี้ลูกๆ มีแฟนคลับเยอะมาก

ในฐานะของคุณพ่อคุณแม่ รู้สึกอย่างไรบ้าง

L: ก็ดีใจและขอบคุณที่เอ็นดูลูก จริงๆ แล้วลูกๆ ก็ถือว่าโชคดีนะที่เกิดมาแล้วมีคนรัก เป็นโชคดีของเขา แต่เราก็ต้องเลี้ยงเขาให้ไม่สปอยล์ เพราะว่าพอทุกคนให้ความรักเขาเยอะ ก็รู้สึกว่ามันก็เป็นดาบสองคมเหมือนกัน
M: คือเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่อยู่ในวงการบันเทิงแบบนี้ ก็ดีตรงที่มีคนรู้จักบ้าง แต่ว่ามันก็เพิ่มอุปสรรคอีกหลายๆ อย่างเข้ามาในชีวิตเขา เพราะฉะนั้นเราก็พยายามจะสอนเขาให้มากที่สุด แล้วก็พยายามจะควบคุมสิ่งที่เขาจะต้องเจอให้น้อยที่สุด ก็ถือว่าเป็นงานของเราที่จะต้องดูแลเขาให้ดี

 

สิ่งสำคัญเลยที่เราสอนน้องคือเรื่องอะไร

M: ก็เป็นเรื่องของมารยาท เรื่องของวิธีการพูด วิธีการปฏิบัติตัว เพราะว่าเด็กต้องเจอคนเยอะ ก็อาจจะชินกับการที่คนเอาใจเยอะ
L: ที่สำคัญก็คือต้องรู้จักสวัสดี ต้องรู้จักขอบคุณ
M: ก็จะเป็นเรื่องเบสิคของทุกคน เพราะการที่เขาเจอคนเยอะพร้อมๆ กับเรา มันก็เป็นอุปสรรคที่เราต้องคอยเตือนเขาตลอดเวลา

 

การเลี้ยงลูกเล็กๆ ในช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ เป็นอย่างไรบ้าง

L: ก็แน่นอนว่าเราต้องระมัดระวังเรื่องของโควิด-19 ก็คือจะต้องใส่แมสก์ ต้องล้างมือ แต่สิ่งที่ต้องส่งเสริมเพิ่ม ก็คือในส่วนของเดมี่ เขาไม่ได้มีโอกาสเหมือนดีแลนที่ได้ไปเข้าคลาส หรือร่วมกรุ๊ปต่างๆ เพราะตอนเดมี่ 6 เดือนโควิดก็มา แถมแม่ก็ติดโควิดอีก เราก็เลยพยายามสนับสนุนเขาหากิจกรรมที่สามารถเรียนรู้ที่บ้านได้ค่ะ
M: ในเมื่อไปที่อื่นไม่ได้แล้ว เราก็ต้องหากิจกรรมให้เขาทำ คือก็ต้องบอกตรงๆ ว่าช่วงที่ล็อกดาวน์ประมาณ 3-4 เดือนเต็มๆ เราเองก็อยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหนจริงๆ ซึ่งก็ดีตรงที่ว่าเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเยอะ แต่มันไม่ดีตรงที่ว่าเด็กๆ ไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่น ไปทำกิจกรรมในที่ต่างๆ ไปเจอเด็กคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นเราก็จะพยายามหากิจกรรมเพื่อให้เขาได้มีโอกาสพัฒนาตัวเอง
L: เรารู้สึกว่าถ้ามีบ้านอยู่ต่างจังหวัดจะดีมาก เขาจะได้อยู่เอ้าต์ดอร์ ฉะนั้นที่ที่ไปบ่อยๆ ก็คือเขาใหญ่ เพราะว่าขับรถใกล้แล้วก็เป็นพื้นที่ที่ Social Distancing จริงๆ ไม่ต้องอยู่ใกล้ใคร แล้วลูกก็สามารถเล่นในธรรมชาติได้ คิดว่านี่เป็นสิ่งที่จำเป็นเหมือนกัน
M: แล้วเราชอบฟีลของลูกๆ เวลาที่เขาไปต่างจังหวัด คือเขาไม่ได้ต้องการอะไรมาก จริงๆ จะว่าเด็กติดจอ มันก็มีส่วนหนึ่งนะ แต่ว่าถ้าให้เขาเลือก ผมว่าเขาเลือกที่จะไปวิ่งเล่นอยู่ข้างนอกมากกว่า เลือกปั่นจักรยาน เลือกที่จะวิ่งเล่นบนสนามหญ้าแบบนี้มากกว่า อย่างสองคนนี้เวลาไปเขาใหญ่นี่เขาก็แทบไม่ดูจอ ไม่ดูการ์ตูนเลย ทำให้เราเห็นว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่เด็กต้องการจริงๆ เราก็ต้องขยันพาเขาไปบ่อยๆ
L: อย่างการมาทะเลนี่ก็เป็นสิ่งที่เขาแฮปปี้เหมือนกัน เดมี่นี่แค่การได้สัมผัสทรายก็เป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่งว่าเวลาเท้าอยู่บนทรายมันจะเป็นแบบนี้ texture เป็นแบบนี้ น้ำทะเลมันมีรสชาติเค็มแบบนี้ ก็เป็นการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้ ทุกที่เป็นที่เรียนรู้สำหรับเขา

 

การอยู่เป็นครอบครัวใหญ่แบบนี้

ทุกคนได้ช่วยดูแลน้องๆ อย่างไรบ้าง

M: ถือว่ามีคนที่เราไว้ใจได้อยู่ใกล้ๆ ที่จะฝากลูกได้ สมมติว่าเราต้องไปทำงานพร้อมกันก็ฝากดูได้ อยู่ในบ้านเขาก็เล่นกับทุกคน เพราะเขาชินกับการที่เจอคนเยอะ
L: ใช่ คือเขาโชคดีตรงที่ว่าปู่ ย่า ตา ยาย พี่ น้า อา คือทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เติบโตมาในครอบครัวใหญ่ แล้วก็สนิทคุ้นเคยกับทุกๆ คน เขาจะมีคนที่เล่นกับเขาได้ คือแต่ละคนก็จะเล่นไม่เหมือนกัน อย่างปู่ย่าก็จะเล่นแบบหนึ่ง ตายายก็จะอีกแบบหนึ่ง น้าก็จะอีกแบบหนึ่ง เขาก็อบอุ่นนะคะ

 

ครอบครัวดีนถือเป็นครอบครัว content creator เหมือนกันนะคะ แต่ละคนมีรายการยูทูปของตัวเอง เริ่มต้นมาทำตรงนี้ได้อย่างไร

M: คือมันเริ่มจากการถ่ายคลิปง่ายๆ ที่ถ่ายกันเองก่อน เวลาเราไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ แล้วตอนหลังก็รู้สึกว่าคลิปมันเยอะจนเราสามารถเอามาเชื่อมกันได้เป็นหนึ่งเรื่องราว
L: เราเริ่มทำมาพร้อมๆ กับลูก ก็เหมือนเป็นไดอารี่ ทุกวันนี้พอย้อนกลับไปดูก็ยังคุยกันอยู่เลย เหมือนเป็นสารคดีการเติบโตของลูกด้วย เป็นบันทึกความทรงจำด้วย และอีกอย่างคือแทนที่จะเก็บคลิปต่างๆ ไว้ เรายังตัดต่อเชื่อมโยงกัน ใส่เพลงเข้าไป พอดูแล้วมันก็เพลิดเพลินมากขึ้น ตอนแรกก็เริ่มจากที่พี่แมทบอก ก็คือเริ่มจากการถ่ายจากมือถือ แต่จริงๆ แล้วช่องยูทูปนี่ทำมาเพื่อปล่อยเพลง มิวสิกวิดีโอต่างๆ แต่พอหลังๆ มามีลูก มีครอบครัวใหญ่ เราก็เกิดไอเดียว่าทำแบบนี้ก็สนุกดีนะ เลยเอามาทำเป็นอีก playlist หนึ่ง

 

ตอนนี้มีกี่รายการหลักๆ

L: หลักๆ ก็มีรายการที่รวมครอบครัวใหญ่ และครอบครัวเรา 4 คนคือ Daily Deanes จะเป็นชีวิตประจำวัน ที่เก็บเรื่องราวไปเที่ยว แล้วก็อีกรายการหนึ่งก็คือ D-Day Dish ซึ่งตอนแรกเป็น Demi Dish ก่อน จุดเริ่มต้นรายการนั้นก็คือ first time ของเดมี่ในการชิมกล้วย ชิมอโวคาโด หรือสตรอว์เบอร์รี่ เป็นการดู reaction เขา คือเราก็เก็บไว้เพราะเราชอบดู reaction เขา ก็เลยเอามาทำเป็นคลิปยาวไปเลย พอเขาเริ่มโต ก็จะมี reaction ระหว่างพี่น้อง บวกกับว่าโควิด-19 ด้วย เราเลยหาอะไรให้ลูกๆ ทำ เขาก็ชอบเข้าครัว ทำขนมทำอาหาร เขาดูเอนจอย และเป็นการเรียนรู้อีกแบบหนึ่งเหมือนกัน ดีแลนก็จะคอยสอนน้อง คอยดูแลน้อง

 

จากที่เห็นดีแลนเขาดูรักน้องมากเลย มีวิธีการสอนอย่างไร

L: ดีแลนรักน้องนะคะ ถือว่าเราโชคดีตรงนี้ ตอนแรกก็กังวลว่าพอมีลูกคนที่สองเขาจะอิจฉากันไหม เขาจะทะเลาะกันไหม แต่ก็ได้คำแนะนำจากผู้ใหญ่
M: เขาแนะนำว่าให้เอาพี่เข้ามามีส่วนร่วมเยอะๆ ช่วยน้องทำนู่นทำนี่ หยิบขวดนม
L: คือรู้สึกว่าการมีน้องคนนี้เป็นความรับผิดชอบของเขาด้วย ว่าต้องปกป้องน้อง ต้องช่วยเลี้ยงนะ ถ้าไม่มีดีแลนนี่น้องลำบากนะ จะกินนมอย่างไร จะอาบน้ำอย่างไร
M: คือเขาก็ชอบบทบาทตรงนั้น เราก็ให้เขาดูแลในส่วนของเขาไป

 

ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นแบบนี้ คิดว่าสำหรับลูก 2 แล้ว พอหรือยังคะ

L: พอค่ะ (ตอบอย่างรวดเร็ว พร้อมส่งเสียงหัวเราะสดใส)

 

จะมีแพลนคนที่ 3 ไหม

L: (หัวเราะเสียงดัง) พ่อเขาอยากมี
M: (คุณพ่อส่งเสียงหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า) ก็เดี๋ยวดูก่อน
L: (หัวเราะดัง ก่อนจะหันไปกระซิบสามีว่า 2 พอแล้ว) คือรู้สึกว่า 2 คนกำลังโอเค เรายังแบ่งกันดูคนละคนได้ ถ้าสมมติเวลาพี่แมทไปทำงานก็ยังหิ้วดีแลนไปภูเก็ตด้วยได้เลย คือเดียก็เลี้ยงเดมี่ สามารถ hand on one on one ถ้ามีมาอีกคนจะไหวไหมพ่อ? (หันไปถามสามี)
M: อ่าว คนเราก็มีคนละ 2 มือ
L: จะเอาจริงเหรอ (หัวเราะ) ไม่ไหวนะพ่อ

 

ใจจริงคืออยากมีกี่คนคะ

M: ก็ไม่ได้คิดไว้ขนาดนั้น
L: อย่าเลยตอนแรกบอกจะเอา 4 คน (หัวเราะ)
M: คือถ้ามี 2 3 4 คนก็ดี คือเห็นเด็ก 2 คนเขาก็มีความสุขแล้ว ก็เลยคิดว่าถ้าเกิดว่าเรามีมากกว่านั้น ความสุขมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
L: หรือเปล่า
M: ไม่รู้ (ยิ้ม)

 

เป็นครอบครัวที่อบอุ่น เต็มไปด้วยความรักขนาดนี้

ลิเดียอยากจะพูดอะไรกับหัวหน้าครอบครัวอย่างคุณแมทธิวบ้างไหม

L: (หัวเราะ) ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วเราก็คือคบกันตั้งแต่เดียอายุ 18 พี่แมทอายุ 27 ถึงตอนนี้ก็คือ 15 – 16 ปี พอมองย้อนกลับไปวันนั้น ตั้งแต่แรกเลยก็คิดว่าเราจะแต่งงานกับคนนี้ได้เหรอ จากการเป็นผู้ชายวัยรุ่น จากหนุ่มมาดเซอร์ที่ได้ข่าวว่าเจ้าชู้มาก (ลากเสียงยาว) ขนาดคุณแม่เดียยังบอกว่าผู้ชายคนนี้เดียต้องระวังเลยนะลูก แล้วทุกคนก็จะคอยเตือนตลอดเวลา จากจุดนั้นมาถึงจุดนี้เราเห็นบทบาทที่เปลี่ยนแปลง จากตอนต้นที่เป็นแฟนกัน เป็นสามี จนเป็นพ่อของลูก มันทำให้เราเห็นว่าเขาก็ทำแต่ละบทบาทได้ดีเลย จนเดียคิดว่าถ้าเดียไม่อยู่คนหนึ่งก็สามารถทิ้งลูก 2 คนไว้กับพ่อเขาเลี้ยงได้ คือรู้สึกว่าเขาคงไม่ลำบาก เขาเป็นเพื่อนของลูกได้ ดูแลลูกได้ ก็เห็นเขามาในทุกๆ บทบาทจนรู้สึกว่าเราเลือกคนไม่ผิด (หัวเราะ)

 

แล้วพี่แมทธิวมีอะไรจะพูดถึงคู่ชีวิตที่ใช้ชีวิตร่วมกันมายาวนานคนนี้บ้างคะ

L: อะไรก็ได้อย่าบอกว่าขอลูกอีกคนนะ (หัวเราะสดใสเสียงดัง)
M: เขาก็ทำหน้าที่ภรรยาที่ดี เป็นคนที่รักครอบครัวดี เป็นคนที่ใส่ใจในเรื่องรายละเอียดของแต่ละบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะลูก คือเราก็จะเห็นบางอย่างที่คนอื่นไม่เห็น ใส่ใจวางแผนให้ ใส่ใจในรายละเอียด
L: เป็นคนจู้จี้ค่ะ (หัวเราะ)

 

ปีใหม่นี้มีวางแผนสำหรับครอบครัวอย่างไรบ้าง

L: ก็จริงๆ แล้ว outlook สำหรับแต่ละปี ก็อาจจะไม่ได้ลงละเอียดมาก แต่ว่าจากที่อยู่โรงพยาบาลกันมาแล้ว เราก็คิดว่าอะไรก็ได้ ขอให้เรามีความสุข ขอให้ได้มีเวลาอยู่กับทุกคนแล้วก็ทุกคนเอนจอย รู้สึกว่าอันนั้นคือ bottom line ของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะปีนี้ ปีหน้า หรือปีไหน เราก็รู้สึกว่าทำให้มันคุ้มค่ากับเวลาที่มีอยู่ จบแค่นี้ ที่เหลือก็เป็น short term decision ต่างๆ ที่จะทำ เรียกว่าเป็นไปตามสถานการณ์ค่ะ
M: อย่างระยะสั้นตอนแรกว่าจะเที่ยว ผมว่าการเที่ยวในประเทศเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเราคนไทยทุกคนตอนนี้ เพื่อที่จะช่วยๆ กันให้ประเทศกลับมาเหมือนเดิม แต่ก็ต้องเผื่อใจไว้นิดนึงในเรื่องของการระมัดระวังต่างๆ เพราะมันก็ยังไม่เรียบร้อยสำหรับโควิด-19 ในบ้านเรา

MODEL: แมทธิว พอล ดีน, ศรัณย์รัชต์ ดีน

PHOTOGRAPHER: พลอยภัทร

STYLIST: #styledbykn

HAIR STYLIST: สมเจตน์ กล่อมน้อย

MAKEUP ARTIST: สุรปีย์ อชิรกุล

CLOTHES: VVON SUGUNNASIL 14/1 ซ.สมคิด ถ.เพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 061 827 6768, 0 2001 8744 / Scotch & Soda ชั้น 2 เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ โทร. 0 2160 5807 / Coach ชั้น 1 สยามพารากอน โทร. 0 2129 4664 / DOLCE&GABBANA ชั้น M ดิเอ็มควอเทียร์ โทร. 0 2003 6415

LOCATION: Centara Reserve Samui

AIRLINE: Bangkok Airways

———————————

เรื่องโดย: จักรีรัตน์ อัสดรวุฒิไกร

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด