มีหลายสิ่งในโลกนี้ที่เกิดขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล “ความรัก” ก็ถือเป็นหนึ่งในหลายสิ่งนั้น ที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่เลือกรูปแบบและเวลา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงสวยงามเสมอ เหมือนกับความรักของ “เทียน – จิว” จากละครเรื่องคุณชาย ที่ยังคงได้รับการพูดถึงอยู่แม้ว่าละครจะลาจอไปแล้ว จนเราต้องรีบชักชวน 2 หนุ่ม ฟิล์ม – ธนภัทร กาวิละ และ แจม – รชตะ หัมพานนท์ เบรกคิวทองมานั่งจับเข่าพูดคุยถึงทุกกระแสความฮอตแบบเกินต้าน แข่งกับความร้อนแรงของอากาศช่วงซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึง ท่ามกลางบรรยากาศความสะดวกสบายของ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ ที่ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานนัก แต่ก็สร้างความผ่อนคลายให้พร้อมที่จะกลับไปลุยงานต่อได้ 

ฟีดแบคละครที่เพิ่งจบไป

🙍 Film: ฟีดแบคดีครับ แฟน ๆ ให้การตอบรับดีมาก และส่วนใหญ่ก็จะมีคนค่อนข้างติดภาพตัวละครไปเยอะเหมือนกัน จนมองเราไม่เหมือนเดิม (หัวเราะ) แต่ก็ดีใจครับ เพราะจริง ๆ ผมเคยคุยกับผู้ใหญ่ไว้นานแล้วว่าผมอยากลองเล่นบทที่เป็น LGBTQ สักครั้ง เพราะอยากเข้าใจคนที่เป็น LGBTQ แล้วผมเชื่อว่าคนที่เป็น LGBTQ หลายคนเขายังถูกกดดันจากครอบครัว คือผมรู้สึกว่าบางครอบครัวยังมีความคาดหวังกับตัวลูกตามเพศสภาพ ผมจึงพูดเสมอว่าละครคุณชายไม่ใช่ซีรี่ส์วาย แต่เป็นละครครอบครัว ซึ่งผมอยากให้สารที่ผมและทีมงานรวมถึงนักแสดงทุก ๆ คนพยายามที่จะสื่อส่งไปถึงคนดู ไม่ใช่แค่คนที่เป็นสายวายที่ชอบดูซีรี่ส์วาย แต่ผมอยากส่งสารนี้ถึงครอบครัวบางครอบครัวที่ยังไม่เปิด ผมรู้สึกว่าอยากให้เขาเปิดใจและยอมรับตัวลูกหลานในแบบที่เขาเป็นครับ

🙍‍♂️ Jam: ใช่ครับ ฟีดแบคดีมาก ทั้งที่เราก็ไม่คิดมาก่อน เพราะว่าเราเป็นนักแสดง มันคืออาชีพ คือหน้าที่ที่จะถ่ายทอดตัวละครตัวนี้ออกไปให้ดีที่สุดแค่นั้นพอแล้ว ไม่ได้มองถึงว่ากระแสจะต้องดี หรือเราจะแมสกับกลุ่มคนดูหรือเปล่า เพราะถ้าไปตั้งเป้าหมายไว้ว่าเรื่องนี้เราต้องดัง เรื่องนี้เราต้องเป็นกระแส เราต้องมีอีเวนต์เยอะ แล้วถ้ามันไม่ได้ เราก็เฟลกับอาชีพตัวเองเปล่า ๆ ซึ่งการทำงานเรื่องนี้ทำให้ผมต้องทำการบ้านหนักมาก ๆ เพราะต้องแสดงร่วมกับนักแสดงสุดยอดฝีมือทั้งนั้น แล้วเราเป็นเหมือนนักเรียนใหม่ที่เข้าไป ต้องแอกทีฟแล้วก็พัฒนาตัวเองเยอะมาก เพราะว่าเราจะทำยังไงให้เราอยู่ในฉากนั้นแล้วไม่หายไป ซึ่งพวกพี่ ๆ เขาก็แนะนำเทคนิค เรื่องมุมกล้องที่ควรจะปรับใช้ เรื่องความเข้าใจการตีความกับบท และบอกให้เล่นไปตามธรรมชาติ เพราะเราเป็นคนที่รู้จักตัวละครดีที่สุด ดังนั้นสุดท้ายแล้วเราก็ต้องกลับมาที่ตัวเองอยู่ดี เพราะทุก ๆ ซีนจะเกิดขึ้นมันอยู่ที่การตั้งต้นของตัวละคร ต่อให้เราสร้าง back story แน่นขนาดไหน ถ้าเราไม่แน่น เล่นไปสุดท้ายมันก็ไม่รู้สึกอยู่ดี

ยากไหมกับการทำงานในเรื่องนี้ถ้าเทียบกับเรื่องที่ผ่าน ๆ มา

🙍 Film: สำหรับผมความยากหรือความท้าทายในเรื่องของคุณชาย มันคือความละเอียดอ่อนทางอารมณ์ของตัวละคร ที่ภายนอกต้องดูเหมือนจะเข้มแข็ง แต่ข้างในอ่อนโยน ช่วยทุกคน เป็นหัวหน้าครอบครัว แต่แบกทุกอย่างไว้คนเดียว ผมว่ามันเป็นเรื่องของรายละเอียดทางการแสดง ที่ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรให้เล่นเยอะมาก แล้วด้วยความที่ตัวละคร LGBTQ ในยุคสมัยนั้น ตอนแรกผมยังนึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นแบบไหน เพราะว่าไม่เหมือนในยุคนี้ที่โลกเปิดกว้างแล้ว ที่สามารถแสดงออกได้ว่ารักก็คือรัก แต่ในสมัยนั้นการเป็น LGBTQ คือเรื่องต้องห้าม และไม่มีใครยอมรับ เราก็กลัวว่าถ้าแสดงน้อยไปเดี๋ยวคนดูก็จะไม่รู้ แต่ถ้าแสดงมากไปก็กลัวว่าจะดูเกินไป รวมถึงบริบททางสังคมที่เราต้องทำการบ้านค่อนข้างเยอะเหมือนกัน 

🙍‍♂️ Jam: ในส่วนผมมองว่าสุดท้ายมันโฟกัสที่ความรัก ซึ่งเป็นเรื่องของจิตใจมนุษย์ที่ลึกกว่านั้น มันมีความคิดที่หลากหลาย แต่ผลสุดท้ายทุกอย่างมันคือหัวใจ อยู่ที่ความรักครับ ตัวผมเองก็เหมือนกัน ผมตั้งสเปกว่าผมชอบคนสวย เอาจริง ๆ  แล้วเราก็ชอบคนที่จิตใจอยู่ดี ถึงเขาจะสวยขนาดไหน ถ้าจิตใจเขาไม่ตรงกับเรา ไม่ใช่ว่าจิตใจเขาไม่ดีนะ มันอาจจะไม่ตรงกับเรา ก็คงไม่ได้ไปด้วยกัน เหมือนในละครที่เขาอาจจะหัวใจตรงกันก็ได้ คือไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่เขาจะรัก แต่เป็นแค่คนนี้ ต้องเป็นคนนี้เท่านั้น จิวต้องรักเทียน เทียนต้องรักจิว สองคนนี้เขาหัวใจตรงกัน วันหนึ่งเขาเลิกกันไปอาจจะไม่มีผู้ชายที่เขารักแล้วก็ได้ เขาอาจจะไปชอบผู้หญิงแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้ ถ้าหัวใจมันตรงกัน ก็แค่นั้นเอง เวลาผมทำการบ้านผมก็จะโฟกัสที่ความรักของเขาที่เขารักแค่คนนี้พอ ไม่ได้คิดที่เรื่องเพศสภาพอะไรทั้งนั้นครับ

ถ้าในชีวิตจริงต้องเจอกับสถานการณ์รักต้องห้ามแบบในละครจะทำอย่างไร

🙍 Film: ผมต้องถามหาเหตุผลก่อนว่าทำไมถึงต้องห้าม ถ้ากับคนทั่วไป ผมว่ามันต้องแคร์ความสุขตัวเอง อันนี้คือในมุมมองของผมคนเดียวนะครับ ผมพูดก่อนคือโอเคสถานะทางสังคมก็มีส่วนนะ เราต้องยอมรับว่ามีส่วนในการใช้ชีวิตคู่ คือมีความรักที่ดีต้องคอยซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน คุณจะบอกว่าแค่มีความรักอย่างเดียวสำหรับผมมันไม่พอ เพราะว่าด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างสมมติผมเป็นหนี้ 20 ล้าน ผมพยายามหาเงินแทบตาย แต่ผู้หญิงอีกคนดีนะน่ารัก มีความรักที่ดีต่อเรา ดีทุกอย่าง แต่ก็ใช้ชีวิตชิลอยู่เรื่อยไป ไม่อยากที่จะขวนขวายอะไร แล้วแบบนี้จะเดินทางไปด้วยกันได้อย่างไร มันจะเป็นชีวิตคู่ได้อย่างไร ผมรู้สึกว่ามันอาศัยหลาย ๆ ปัจจัย ซึ่งปัจจัยของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

🙍‍♂️ Jam: ส่วนของผมถ้าเจอรักต้องห้ามนะ ในความคิดสมัยก่อนคือเลือกทำตามหัวใจไปก่อน พ่อแม่เขาจะห้ามอย่างไรก็สู้ไปก่อน ถ้าเขายังไม่เอาปืนมายิงก็ถือว่ายังโอเคอยู่ สมัยก่อนเป็นแบบนี้จริง ๆ นะ คือในความคิดของเรา เรารู้สึกว่าความรักมันคงชนะทุกอย่างได้ แต่พอโตขึ้นมาหน่อยมันเริ่มจะมีเรื่องความเข้าใจ เรื่องอนาคต เรื่องครอบครัวของสองบ้าน ว่าจะเข้ากันได้หรือเปล่า แต่ถามจริง ๆ ถ้าเขาห้ามเรารักกัน สุดท้ายแล้วผมว่าความรักมันอยู่ที่คนสองคน ต่อให้เขาจะห้ามแค่ไหน ถ้าคนสองคนอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข มันก็ยังรักกันไปได้อยู่ดีครับ

มีภาพความรักในชีวิตจริงที่คิดไว้ไหม

🙍 Film: มีนะครับผมเคยคิดไว้เหมือนกัน คือจริง ๆ ผมอยากแต่งงานตอนอายุ 30 นะ แต่ปีนี้ผม 30 แล้ว ก็เลยขยายเวลาออกไปสัก 35 ครับ (AROUND: ถ้า 35 นี่แปลว่าเราก็ต้องมีคนในใจแล้วนะ) มันคือแพลนเฉย ๆ (หัวเราะ) มันคือแพลนที่อยากแต่ง เพราะว่าแม่ก็อยากมีหลาน แม่อยากเลี้ยงหลานซึ่งภาพงานแต่งงานของผม ผมชอบเรียบ ๆ ง่าย ๆ แขกไม่เยอะ อยากเชิญแค่คนสนิทไม่ถึง 100 คน บางทีอาจจะ 50 คน จัดริมทะเล คนที่สำคัญจริง ๆ ในชีวิตเรา ผมรู้สึกว่าอันนี้คือมุมผมนะ ผมต้องพูดเสมอว่ามันคือมุมของผม เพราะว่าเดี๋ยวนี้โลกค่อนข้างเซนซิทีฟ แล้วบางทีก็ตัดสินโลกจากมุมของตัวเองคนเดียว ผมเลยต้องพูดไว้ก่อนว่านี่คือมุมมองผมคนเดียว คืองานแต่งงานของผม ผมรู้สึกว่าอยากให้งานมันเรียบง่าย

🙍‍♂️ Jam: ตอนผมเป็นครู ผมคิดเลยว่าถ้าทำอาชีพนี้จนเกือบจะถึง 30 อายุราชการก็สักประมาณ 4 – 5 ปี คงพร้อมที่จะมีครอบครัวได้แล้วในจุดนั้น เพราะอาชีพก็มั่นคงในระดับหนึ่ง พอคิดแบบนั้นแล้วก็เลยมีความคิดต่อไปว่าอยากมีน้อง อยากอุ้มเด็ก อยากมีเด็กผู้หญิง คือเป็นพาร์ตของอายุที่พอ 18 ก็อยากเข้ามหาวิทยาลัย เข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็อยากมีแฟน มีแฟนเสร็จอยากเรียนจบ พอเรียนจบแล้วก็อยากทำงาน ทำงานได้เงินมาแล้ว ก็อยากมีครอบครัวเหมือนคนอื่น คิดต่อไปเรื่อย ๆ จนมองไปถึงว่าอยากมีน้อง ก็คิดเล่น ๆ ครับ มันเป็นสเต็ปที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน คงแก่ขึ้นมั้งครับ (หัวเราะ) แต่ถ้าถามตอนนี้ไม่พร้อมครับ ด้วยเวลาการทำงานของเราด้วย ผมว่าผมยังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัวขนาดนั้น เราสร้างตัวเองไปก่อนดีกว่า จนถึงวันหนึ่งที่พร้อมทุกอย่าง ไม่ใช่แค่เงิน จิตใจด้วย เวลาด้วย เราก็อยากมีเวลาให้คนที่เรารักมากพอที่จะซัพพอร์ตให้เขาได้ตรงนั้น ไม่ใช่ซัพพอร์ตได้แค่เงินครับ

ด้วยกระแสความฮอตของคู่นี้ที่ตีคู่มากับสภาพอากาศที่กำลังจะเข้าหน้าร้อน ซึ่งทั้งสองคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ชอบหน้าร้อนเอาซะเลย จึงได้ แนะนำเคล็ดลับเอาตัวรอดในหน้าร้อนทิ้งท้ายไว้อย่างอารมณ์ดีแบบนี้

🙍 Film: สำหรับคนที่ประหยัดค่าไฟก็เดินห้างเอานะครับ อยู่ห้างบ่อย ๆ ไปอยู่ห้างตั้งแต่เช้ากลับบ้านตอนเย็น จะได้ไม่เปลืองค่าแอร์ที่บ้านครับ ส่วนคนที่บ้านมีเงินก็ทำเหมือนกันครับจะได้เปิดแอร์ที่เดียว ช่วยกันประหยัดไฟไปด้วย (หัวเราะ)

🙍‍♂️ Jam: เอาผ้าชุบน้ำโปะที่ตัว แล้วเปิดพัดลม ผมทำมาแล้ว เย็นมาก แต่ก่อนผมอยู่ที่จังหวัดเลย ช่วงหน้าร้อนก็ร้อนมาก ร้อนสุด ๆ พอหน้าหนาวก็จะหนาวมาก แล้วพอหน้าร้อนมันทำอะไรไม่ได้ เพราะในห้องไม่มีแอร์ ที่นั่นจะเป็นหอที่ไม่ค่อยมีแอร์ เพราะอากาศมันจะเย็นตลอด แล้วพอหน้าร้อนปีนั้นน่าจะ 40 – 41 ช่วงสงกรานต์ผมใช้วิธีนี้เลย แล้วก็เอามาโปะตัวแล้วนอน แต่ก็ระวังเป็นหวัดด้วย อาจจะโปะเป็นบางจุด กับจะมีอีกวิธีหนึ่งคือเอาน้ำแข็งมาแปะตรงชีพจร คือผมไปเจอวิธีนี้มาจากอินเทอร์เน็ตมั้งหรือว่าในยูทูปนี่แหล่ะ เขาบอกว่ามันจะเย็นขึ้น พอมันเย็นขึ้นแล้วนอนง่ายจริงครับ ส่วนหลังจากนี้ในระหว่างรอไปสนุกกับงานแฟนมีตติ้งคู่ครั้งแรกที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็ฟินไปกับภาพแฟชั่นเซตสดใสรับซัมเมอร์แบบเต็มอิ่มใน AROUND ฉบับนี้ได้เลย

MODEL: ธนภัทร กาวิละ / รชตะ หัมพานนท์

PHOTOGRAPHER: Akkapon Tuu

STYLIST: @boatkanyamai

STYLIST ASSISTANT: @p_prai

HAIR STYLIST: @mairatchada1

MAKEUP ARTIST: @hollyhua 

CLOTHES: PAINKILLER Atelier ชั้น 4 เซ็นทรัลเวิลด์ www.facebook.com/PAINKILLERATELIER / SODA ซอยทองหล่อ 13 โทร. 0 2712 9257 / CASMO ซอยสุขุมวิท 77 โทร. 085 545 8492 / ATELIER PICHITA www.instagram.com/atelier_pichita  / TEEMA RUCKSAJIT 

www.instagram.com/teemarucksajit 

SHOES: CAMPER ชั้น G เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 096 843 0489 / TEVA https://teva.rev.co.th

LOCATION: Grand Richmond Hotel 282 ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โทร. 0 2831 8888 www.grandrichmondhotel.com

___________________________________

อ่านนิตยสาร AROUND ฉบับย้อนหลังได้ ที่นี่