เห็นภาพเจ้าหมูจ้ำม่ำว่ายน้ำชูจมูกอยู่ในทะเล ที่แชร์กันตาม Social Media น่ารักเกินห้ามใจ จนต้องรีบไปเสิร์ชดูว่ามีจริงไหม แล้วอยู่ส่วนไหนของโลก คำตอบที่ได้คือ Pig Beach บนเกาะ Big Major Cay ประเทศบาฮามาส (The Bahamas) ซึ่งน้ำทะเลใสแจ๋วที่เจ้าหมูว่ายอยู่คือทะเลแคริเบียนนั่นเอง

ทริปนี้พาเดินทางไปกับ คุณแป๋ม บล็อกเกอร์สาวสวย PP GALLERY  นั่งเครื่องบินจากฮาวาน่า ประเทศคิวบา ประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงเมืองแนสซอ (Nassau) เมืองหลวงของประเทศบาฮามาส ที่เลือกมาตั้งหลักเมืองนี้เพราะเราสามารถซื้อทัวร์แบบ One day trip นั่งเครื่องบินเล็กตรงไปยังหมู่เกาะ Exuma ที่ประกอบด้วยเกาะเล็กๆ ที่เรียกว่า “Cay” จำนวนกว่า 365 Cays มีอยู่เกาะหนึ่งที่เจ้าหมูยึดเป็นพื้นที่ส่วนตัวนั่นคือ Big Major Cay ที่พวกเรากำลังจะไปเยี่ยมเยือน เกาะนี้ค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2009 โดยช่างภาพ Eric Cheng และกัปตัน Jim Abernathy ที่ล่องเรือผ่านมาและเห็นเจ้าหมูว่ายน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนาน จึงถ่ายภาพเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก

ตาราง One day Trip เริ่มตั้งแต่ 8 โมงเช้า ขึ้นเครื่องบินเล็กจาก Nassau ไป Staniel Cay ประมาณ 30 นาที (หรือนั่ง Speed Boat 2 ชั่วโมงแทนได้ ราคาก็จะย่อมเยาว์กว่า) คนที่มาขึ้นเครื่องสนามบินนี้แต่งตัวกันชิวมาก มีตั้งแต่กางเกงขาสั้น ชุดว่ายน้ำ บิกีนี จนถึงใส่เสื้อคลุมอาบน้ำของโรงแรมเดินขึ้นเครื่องกันเลย ระหว่างที่นั่งบนเครื่องบิน จะได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามของเกาะต่างๆ น้ำทะเลสีฟ้าคราม เมื่อถึงสนามบิน Staniel Cay จะมีคนมารอรับเพื่อไปขึ้น Speed Boat โดยมีคนขับเรือที่ควบตำแหน่งไกด์นำเที่ยวท้องถิ่น พาไปวนเที่ยวตามเกาะต่างๆ (Cay) ทัวร์นี้ไม่ได้พาเราไปว่ายน้ำกับหมูเท่านั้น ยังแวะเล่นกับอีกัวน่า (Rock Iguanas) ว่ายน้ำกับปลาฉลาม (Nurse Shark) เดินเล่นบนหาด Sand Bars และดำน้ำ (Snorkeling) ไปในถ้ำตามรอยภาพยนตร์ James Bond Thunderball อีกด้วย ถึงแม้เดือนมีนาคมอากาศไม่ร้อนมาก แต่ระหว่างนั่งอยู่บนเรือก็ต้องชโลมครีมกันแดดเพิ่มไปเรื่อยๆ เพราะนั่งตากแดดตลอดทาง

พอเรือเข้าใกล้ฝั่ง Pig Beach เจ้าหมูทั้งหลายจะว่ายน้ำมาที่เรือ คงคุ้นเคยว่าในเรือต้องมีของกินแน่นอน ไกด์ของเราเตรียมขนมปังไว้พร้อม แถมทักทายเรียกชื่อหมูแต่ละตัวอย่างสนิทสนม พอเจ้าหมูเห็นขนมปังก็ว่ายน้ำเข้ามาอย่างรวดเร็ว บางตัวมีโชว์ยืนสองขาในน้ำได้ด้วย แป๋มมีพกขนมไปเอง แต่ไกด์ขอว่าอย่าเอาของแปลกๆ ให้กินเลย เมื่อไม่นานมานี้มีนักท่องเที่ยวเอาเบียร์ให้หมูกิน ปรากฏว่าตายไปตัวหนึ่ง คราวนี้เลยต้องเก็บขนมไว้กินเอง เวลาเราลงไปในทะเล น้องหมูจะว่ายมาเล่นด้วยอย่างใกล้ชิด หรืออาจจะคิดว่าเรามีอาหารให้ก็ได้ เวลาเล่นกับหมูต้องระวังดีๆ ถึงจะดูเชื่องน่าเอ็นดู แต่แป๋มเคยเห็นคลิปหนึ่ง นักท่องเที่ยวเดินอยู่บนหาด โดนเจ้าหมูเดินมางับเข้าที่ก้น วิ่งหนีแทบไม่ทันเลย เกาะแห่งนี้ที่ไร้ผู้อยู่อาศัย ไม่มีบ้านเรือน ทำให้หลายคนสงสัยว่าหมูเหล่านี้มาตั้งรกรากบนเกาะนี้ได้อย่างไร บางคนเล่าว่าตอนสงครามมีทหารเรือนำหมูมาปล่อยไว้ที่เกาะ เพื่อตอนกลับมาอีกครั้งจะจับหมูมาเป็นอาหาร แต่พวกเขาไม่ได้กลับมา เจ้าหมูเลยอยู่ยาว แพร่พันธุ์บนเกาะนี้ต่อมาเรื่อยๆ บ้างก็เล่าว่าชาวบ้านเอาหมูมาเลี้ยงไว้ในเกาะที่ไม่มีคนอยู่ เพราะต้องการกำจัดกลิ่นในละแวกใกล้ที่อยู่อาศัย กับอีกทฤษฎีหนึ่งก็คือ คนบาฮามาสเอามาปล่อยไว้เองเพื่อทำเป็นจุดท่องเที่ยว ซึ่งก็ไม่มีใครฟันธงว่าอันไหนจริงกันแน่

นั่งเรือต่อไปที่เกาะ Bitter Guana Cay ซึ่งเป็นที่อยู่ของ Bahamas Rock Iguanas สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของบาฮามาส เพราะในอดีตโดนจับกินเป็นอาหารจนเกือบสูญพันธุ์ โชคดีที่ตอนนี้ถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ทำให้สามารถอาศัยและเจริญเติบโตอยู่ในเกาะนี้ได้อย่างปลอดภัย เจ้าอีกัวน่าดูเชื่องไม่ดุร้าย ลูบหัว ป้อนผักผลไม้ให้กินจากมือได้เลย สำหรับคนที่กลัวเวลาเห็นเจ้าอีกัวน่าเดินจ้ำมาหาด้วยความเร็ว ไกด์แนะนำว่าให้วิ่งหนีลงน้ำไปเลย เพราะอีกัวน่าว่ายน้ำไม่เป็น! จากนั้นไปดำน้ำ (Snorkeling) ดูปะการังต่อกันในถ้ำ Thunderball Grotto ที่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ James Bond 007 Thunderball ในปี 1965 ซึ่งในเรือมีอุปกรณ์สำหรับ Snorkel เตรียมไว้ให้เรียบร้อย เรือจะจอดไว้ใกล้ปากถ้ำเราต้องว่ายน้ำต่อไปอีกประมาณ 50 เมตร เพื่อลอดเข้าไปในถ้ำ เมื่อเข้าไปจะเป็นโถงกว้างๆ ด้านบนมีช่องให้แสงแดดส่องลงมาเหมือนสปอตไลท์ในถ้ำ สวยงามมาก พอก้มหน้าไปในน้ำจะเห็นปลาตัวเล็กตัวน้อยว่ายอยู่ ส่วนปะการังก็พอมีบ้าง จังหวะนั้นมีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งปีนขึ้นไปบนถ้ำแล้วกระโดดลงมาจากช่องด้านบน ดูน่าตื่นเต้น แต่ไม่กล้าเลียนแบบ แค่ถ่ายวิดีโอเก็บไว้ดูก็พอ ถ้าวันไหนสภาพอากาศไม่ดี ฝนตก หรือน้ำขึ้นสูง ไกด์จะข้ามกิจกรรมจุดนี้ไปเลย ระหว่างทางไกด์จะหยุดแวะที่ Sand Bars หาดทรายเล็กๆ ที่มาจากการเกิดน้ำขึ้นน้ำลงตามธรรมชาติ ในเวลากลางวันที่น้ำลง จะเห็นเราตัวเล็กๆ ยืนอยู่กลางหาดทรายที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีคราม เห็นได้ชัดตอนถ่ายรูปจากกล้องโดรน ตกเย็นน้ำขึ้น หาดทรายนี้ก็จะหายไป

หนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือการว่ายน้ำกับฉลามพยาบาล (Nurse Sharks) ที่เกาะ Compass Cay เกาะส่วนตัวแห่งนี้มีฝูงฉลามพยาบาลอยู่ประมาณ 50 ตัว เป็นฉลามใจดี ไม่ทำอันตรายต่อมนุษย์ แถมยังเป็นฉลามเฟรนลี่อีกด้วย เวลาว่ายน้ำด้วยจะมีความหวาดเสียว เวลาน้องฉลามว่ายมาชน เพราะหนังจะสากๆ ต้องระวังอย่าให้อาหารปลาขณะว่ายน้ำอยู่ เพราะบางทีปลาอาจเข้าใจผิดว่าแขนขาเราเป็นอาหารได้ ทางไกด์จะคอยโยนอาหารเรียกน้องฉลามมาอยู่รวมกัน เราก็ต้องรีบโพสท่านอนกรรเชียงบนผิวน้ำให้ด้านล่าง เป็นฉลามว่ายน้ำอยู่เต็มไปหมดเหมือนรูปที่เห็นเค้าแชร์กัน พยายามอยู่นานก็ไม่สำเร็จ เพราะคนอยู่ในน้ำเยอะมาก และรอถ่ายท่าเดียวกันหมด กระแส Social Media นี่แรงมากจริงๆ สำหรับแป๋มแค่ได้มาว่ายน้ำกับน้องฉลามแบบใกล้ชิดอย่างนี้ก็แฮปปี้มากแล้ว

ปิดท้ายด้วยมื้อกลางวันที่ Staniel Cay Yacht Club และเตรียมตัวรอขึ้นเครื่องบินกลับไปที่ Nassau เวลารวมๆ ที่อยู่บนเรือประมาณ 4 ชั่วโมง เป็นทริปที่เต็มอิ่มประทับใจ และไม่เหนื่อยอย่างที่คิด ไฟล์ทขากลับมีลมแรงและฝนตกปรอยๆ ตอนเครื่องบินลดระดับลงจอด ใจนี่ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มหลายรอบเหมือนกัน สำหรับผู้เดินทางมา Nassau ด้วยเป้าหมายหลักคือเดินทางไปหมู่เกาะ Exuma ด้วยเครื่องบินเหมือนแป๋ม แนะนำให้พักที่ Grand Hyatt Baha Mar เพราะอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 15 นาที ห้องพักดี สะดวกสบาย ติดทะเล มีสวนน้ำขนาดใหญ่ คาสิโน และอาหารเช้าดีมาก ส่วนร้านอาหารเก่าแก่ชื่อดังของเมืองนี้อย่าง Graycliff Restaurant ก็ต้องชื่นชมว่าทำอาหารได้อร่อยมากทุกจาน บริการดีเยี่ยม เป็นอาหาร Bahamian Influenced ค่อนไปทางฝรั่งเศส เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องไวน์ Private Cellar ที่นี่จัดว่าใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก (คนดูแลห้องไวน์บอกมา) ใน Cellar มีห้องส่วนตัวสุดคลาสสิค ที่แขกสามารถจองล่วงหน้าไปนั่งดินเนอร์ในนั้นได้อีกด้วย