TOP

คิดสมาร์ต สัมผัสพลังบวก ของนักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุด ‘พีพี ปุญญ์ปรีดี’

The Next Shining Star

ในยุคที่วงการบันเทิงไทยเต็มไปด้วยนักแสดงหน้าใหม่ พีพี ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์ คือหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุด ด้วยเสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครและความสามารถทางการแสดงที่เข้าถึงบทบาท ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มาเพื่อแค่ส่องแสง แต่กำลังสร้างพื้นที่ของตัวเองในวงการนี้ และจากเด็กสาวสาวขี้อาย ที่ไม่กล้าพูดจา แต่เธอก็เติบโตมากับความฝันที่ว่าสักวันจะก้าวมายืนอยู่หน้าจอทีวี อะไรคือแรงผลักดันที่เปลี่ยนแปลงเด็กขี้อายคนหนึ่ง ให้เอาชนะความกลัวและกล้าเดินตามความฝัน? อะไรทำให้เธอแตกต่าง? และเส้นทางข้างหน้าของพีพีจะไปไกลแค่ไหน? วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักตัวตนของเธอให้ลึกซึ้งกว่าที่เคย

AROUND: การแสดงบทบาทในซีรีส์ล่าสุด ทำให้เราเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองที่ไม่เคยรู้มาก่อน?

PP: ถ้าเป็นละครก็คงเป็นความแสบ ความซนของเรามั้งคะ ที่พีก็ไม่คิดว่าเราสามารถแสบและซนได้ขนาดนี้ คือต้องบอกเลยว่าที่คนเห็นตอนนี้ว่าพีเป็นคนสดใสร่าเริง พูดเก่ง ก่อนเข้าวงการพีเงียบมาก แทบไม่ค่อยพูดเลย แต่งานในวงการบันเทิงเป็นความฝันวัยเด็กของพี และเราก็คาดไม่ถึงว่าจะต้องพูดคุยพบปะผู้คนมากขนาดนี้ (หัวเราะ) พอเราแสดงละครเป็นบทบาทต่าง ๆ พีก็รู้สึกว่าพีสามารถซึมซับคาแรกเตอร์เหล่านี้มาได้ เป็นการเปิดโอกาสให้พีได้ลองไปใช้อีกชีวิตหนึ่ง ทำให้เราพูดเก่งขึ้น ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองในบางเรื่อง

 

AROUND: จากคนขี้อาย ไม่ค่อยพูด เปลี่ยนมาเป็นคนแบบนี้ฝืนความเป็นตัวเราไหม?

PP: ฝืนค่ะ (หัวเราะ) ฝืนมาก คือเริ่มจากการเรียนแอ็กติ้งเลย ที่ครูจะให้เราลองทำนู่นทำนี่ เราก็ไม่ค่อยอยากทำ อาย จนครูดุนั่นแหล่ะ ซึ่งครูก็จะคอยส่งพลังว่าต้องทำให้ได้นะ แล้วก็ลองหาแบบฝึกหัดให้เราทำไปเรื่อย ๆ รวมถึงพอเรามาถ่ายละคร ทำงานจริง ๆ แน่นอนมันไม่เหมือนตอนเรียนเลยค่ะ ตอนเรียนคือสอบตกก็ซ่อม อันนี้คือโดนว่าจริง ๆ ซึ่งหนูว่าดุหรือการสอน หรือการตักเตือนบางอย่างที่เป็นในรูปแบบที่ไม่ทำร้ายจิตใจ หรือทำให้เสียเซลฟ์จนเกินไป ก็ช่วยผลักดันให้เราลองกล้าที่จะทำอะไรมากขึ้นเหมือนกันค่ะ

AROUND: เพลง หนังสือ หรือภาพยนตร์เรื่องใดที่รู้สึกว่าสะท้อนตัวตนได้ดีที่สุด และเพราะอะไร?

PP: ถ้าเป็นภาพยนตร์เรื่อง Charlies and the chocolate factory น่าจะสะท้อนพีได้ดีที่สุดมั้งคะ (หัวเราะ) แน่นอนพีมีความฝัน แต่ถ้าความฝันของพีทำให้ต้องแยกย้ายกับครอบครัวอย่างถาวร หรือต้องทิ้งครอบครัวไปเลย พีคงบ๊ายบาย เหมือนกับตัวชาร์ลีที่เขาได้โอกาสเข้าไปบริหารโรงงานช็อกโกแลต แต่ไม่ให้เอาครอบครัวไปด้วย ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเป็นความฝันของหลายคน แต่ถ้าต้องเลือกพีคงเลือกครอบครัวก่อนเหมือนกัน เพราะสุดท้ายถ้าประสบความสำเร็จสูงสุดอย่าง Willy Wonka แต่โดดเดี่ยวและขาดครอบครัวไปในตอนแรก ๆ ของเรื่อง ก็คงไม่ได้เติมเต็มความรู้สึกอบอุ่นเท่าไหร่ และยังคงเหงาเหมือนมีอะไรติดค้างในใจอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายเขาก็เลือกกลับไปหาพ่อของเขา และก็กลับมากินข้าวอย่างมีความสุขกับครอบครัวของชาร์ลี มันทำให้พีรับรู้ได้ว่า สุดท้ายความสุขบางครั้งมันง่ายมาก ๆ อยู่กับคนที่เรารัก ครอบครัว คนใกล้ชิด สนับสนุนกัน แค่นั้นคือพอแล้ว หรือแม้แต่เงินที่ในเรื่องมีคนจะซื้อ gold ticket จากชาร์ลีในราคาหลายเหรียญที่จะช่วยให้ครอบครัวสบายได้ขึ้น พีมองว่าเงินเราหาเพิ่มได้ ไม่มีตอนนี้เราก็ทำให้มีได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่โอกาสในบางครั้งมันเข้ามาแค่ครั้งเดียว หรือเป็นโอกาสที่แม้แต่คนที่มีเงินก็ใช่ว่าจะได้มันมา นั่นแปลว่าเป็นโอกาสที่สำคัญและดีมาก ๆ ในขณะที่เงินก็ไม่สามารถซื้อได้ เราก็ต้องเอาโอกาสนั้นไว้ เพราะฉะนั้นบางงานที่เป็นโอกาสดี ๆ เข้ามา ไม่มีบัดเจ็ตด้วยซ้ำ หรืออาจจะน้อยกว่าที่เราตั้งไว้ พีก็เลือกที่จะไปเพราะพีมองว่านั่นคือโอกาสที่เราอาจจะต่อยอดในอนาคตได้ค่ะ

PP: สำหรับเพลงพีเลือก the simple things ของ Michael Carreon พีรู้สึกว่าถ้าพีมีความรัก พีจะรักคน ๆ นั้นในความเป็น simple things ของคนนั้น ๆ ที่ไม่ต้องประดิษฐ์หรืออะไรเลย เป็นอะไรง่าย ๆ ที่เขาทำ และถ้ามีความรักพีก็จะบอกรักเขาทุก ๆ วันค่ะ (หัวเราะ) ไม่รู้ทำไม แต่ทุกวันนี้ก็บอกรักคุณแม่ทุกวันเหมือนกัน หรือบอกกู๊ดไนต์ก่อนนอน และสิ่งสำคัญคือครอบครัวเราก็ต้องรักเขา ครอบครัวเขาก็ต้องรักเราด้วย และความรักก็ต้องเป็นความรู้สึกที่เป็นเพื่อนกันได้ สนุกไปด้วยกันได้ กล้าที่จะทำอะไรตลก ๆ ด้วยกัน มากกว่าจะแคร์สายตาคนอื่นที่เขามองมา แต่ก็ตลกแบบไม่ละเมิดสิทธิ์ใครนะคะ (หัวเราะ)

AROUND: การเดินทางในวงการนี้ เปลี่ยนมุมมองของตัวเราเกี่ยวกับชีวิตในแง่ใดบ้าง?

PP: เยอะมากค่ะ ทั้งทำให้เราได้ทำงานกับคนหลากหลายอายุ เจอคนหลากหลายความคิด ต้องทำงานร่วมกัน ทำให้เราต้องเปิดรับคน สังเกตคนแล้วก็เข้าใจธรรมชาติของแต่ละคน เลยทำให้หนูเข้าใจ ได้เห็น และเรียนรู้ความหลากหลายของมนุษย์ หรือความคิดของแต่ละคน นอกจากนี้ยังได้รู้มุมมองการใช้ชีวิตผ่านตัวละครต่าง ๆ คนจะชอบว่าละครน้ำเน่า แต่ในหลาย ๆ ครั้งละครหรือภาพยนตร์มันสะท้อนสังคมได้ดีจริง ๆ ซึ่งในสังคมเราอาจจะเห็นได้ไม่ชัด รวมถึงสร้างความอดทนให้หนูได้เยอะขึ้น (หัวเราะ) เหมือนกันนะ เพราะว่าการทำงานในวงการบันเทิงก็ต้องมีวินัย แล้วก็ทุ่มเท ทำให้หนูเชื่อในเรื่องของประสบการณ์ หนูว่าการที่หนูได้เข้ามาในวงการบันเทิงหนูได้ทำอะไรที่หลากหลายทั้งในสิ่งที่หนูเคยทำและไม่เคยทำ เมื่อหนูเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงก็ทำให้ยอมรับความเป็นจริงของโลกได้ แล้วก็เชื่อในเรื่องของการลงทุนและต้นทุนชีวิตมาก ๆ ค่ะ เชื่อว่ากว่าทุกอย่างจะค่อย ๆ เบ่งบานหรือเติบโตอย่างแรกเลยต้องลงทุนก่อน ตามด้วยการใช้เวลา ไม่ใช่ว่าไม่ลงทุนอะไรเลยแล้วจะได้มา

AROUND: บทบาทไหนที่ทำให้รู้สึกว่าเราได้เติบโตในเชิงอารมณ์หรือทักษะการแสดงมากที่สุด?

PP: ละครเรื่องแสนรัก รับบทเป็นราณี เพราะเป็นตัวละครที่มีพัฒนาการ ได้เริ่มตั้งแต่ยังเด็ก ๆ เรียนหนังสืออยู่ จนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ไปเรียนต่างประเทศ จนกลับมามีครอบครัว แล้วครอบครัวของเราและคนรักก็ไม่ถูกกัน พี่น้องมีปัญหากัน พีเลยรู้สึกว่า นี่คือชีวิตของคนจริง ๆ ที่เราเห็นตั้งแต่เล็กจนโต ว่าสิ่งที่เขาต้องพบเจอมันไม่มีอะไรง่าย เขาไม่ได้พบเจอสิ่งดี ๆ เขาจะทำอย่างไรให้เขาต่อสู้อุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ หรือการที่เขาโดนกลั่นแกล้ง จะตอบโต้อย่างไรให้เราไม่ทำร้ายคนอื่นเหมือนกัน แต่เราแค่เอาตัวรอด และอยากให้เขาคิดให้ได้ พีว่าแสนรักเป็นละครที่ให้อะไรหลาย ๆ ทั้งคุณธรรม ให้ความคิดดี ๆ ซึ่งพอพีได้มารับบทนี้ พีรู้สึกว่าชีวิตเราดูง่ายไปเลย (หัวเราะ) ขนาดเขาเจอเหตุการณ์แบบนี้ยังสู้ชีวิตได้ขนาดนี้พีก็รู้สึกว่า นี่แหล่ะเป็นตัวละครที่พีน่าจะได้เรียนรู้ชีวิตจริง ๆ

 

AROUND: หากสามารถเปลี่ยนแปลง หรือพัฒนาอะไรบางอย่างในวงการบันเทิงได้ อยากให้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน อย่างไร?

PP: ถ้าทำได้ทุกอย่างเลยก็คงอยากจะให้งบในการทำโปรเจ็กต์เพิ่มขึ้น แล้วก็การทำงานก็อยากให้เป็นระบบจริง ๆ รวมถึงเรื่องของ sexual harassment ก็สำคัญจากข่าวต่าง ๆ พีก็รู้สึกว่าอยากจะให้มีขอบเขต แล้วก็มีกฎที่ชัดเจน รวมถึงการ bully กันในกอง พีว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าวงการบันเทิงไทยสามารถรักษากฎและทำให้สภาพแวดล้อมในกองเป็นไปได้แบบนี้ก็คงดีมากเลยค่ะ ส่วนตัวถ้าเจอเหตุการณ์แบบนั้นก็คงพูดออกมาเลย อาจจะทำเสียงดังขึ้นมาในกองให้ทุกคนได้ยิน เพราะว่าหนูมองว่าคนที่ควรจะอาย ไม่ใช่เรา คงเป็นคนที่คิดจะทำมากกว่า รวมถึงอีกเรื่องคือ เวลาในการทำงาน พีคิดว่าถ้าสามารถคุมเวลาในการทำงานให้ไม่เกินระยะเวลาของแรงงานขั้นต่ำก็น่าจะดี และงานก็น่าจะมีคุณภาพมากขึ้น เพราะวันถัดไปทีมงานนักแสดงทุกคนก็จะได้พร้อมและเต็มที่กับงานอีกวันหนึ่ง

AROUND: การรักษาความสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวและชื่อเสียงมีความสำคัญกับเราอย่างไร?

PP: พีว่าไม่มีใครที่จะวิน ๆ ไปเสียทุกอย่าง หรือว่าได้อะไร 100% อยู่เสมอ คือถ้าเราได้อะไรมาเราก็ต้องยอมสละอะไรไปบ้าง สำหรับพีความเป็นส่วนตัว พีไม่ได้มีอะไรที่ต้องปกปิดอยู่แล้ว ดังนั้นเจอกันทักกันไม่เป็นไร แต่สมมติเรากินข้าวอยู่ แล้วพุ่งเข้ามาเลย ถึงเราไม่ใช่ดารานักแสดงเป็นมนุษย์ปกติด้วยกัน ใครทำแบบนี้ก็คงไม่โอเค ถ้าถามว่าความเป็นส่วนตัวกับชื่อเสียงส่งผลกระทบอะไรกับพีไหม อาจจะส่งนิดหน่อยในแง่ที่ว่าเราอาจจะมีเวลาส่วนตัวน้อยลง หรือทำอะไรได้น้อยลง แต่พีรู้สึกว่า ก็ในเมื่อพีอยากทำงานตรงนี้ เวลาส่วนตัวของพีก็คือการที่เราเอาเวลาตรงนี้มาพัฒนาและเอามาทุ่มเทกับการงานที่พีชอบ พีรัก และพีอยากทำมากกว่า แล้วก็รวมถึงแฟนคลับ พีว่าถ้าเป็นแฟนคลับพีจริง ๆ ค่ะ เขาน่ารักมาก ๆ ให้เกียรติพีมาก

AROUND: ในฐานะนักแสดงรุ่นใหม่ พีพีรู้สึกว่าอะไรในตัวเราที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นเดียวกันได้บ้าง?

PP: น่าจะเป็นการดูแลตัวเอง การออกกำลังกาย การกินอาหารที่มีประโยชน์ พีว่าอันนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลย มันส่งผลในระยะยาวกับเรา ในตอนที่เราอายุเพิ่มขึ้น แล้วก็ความตั้งใจและความพยายามที่พีรู้สึกว่าทุกคนน่าจะเห็นอยู่แล้ว เพราะว่าพีไม่ได้มาถึงแล้วเราได้เป็นนางเอกเลย หรือว่าได้บทเด่นเลย แต่ทุกความพยายาม ทุกการกระทำของเราพีว่ามันส่งผลอย่างละเล็กอย่างละน้อยหมดเลยค่ะ

 

จากความสามารถและความมุ่งมั่นของเธอ คือสิ่งที่จะการันตีว่าแสงที่ส่องจากดาวดวงนี้ไม่ใช่แค่ชั่วคราว แต่จะเป็นหนึ่งในดาวที่ส่องประกายบนท้องฟ้าวงการบันเทิงไทยต่อไปอีกยาวนาน

MODEL: Punpreedee Khumprom Rodsaward

PHOTOGRAPHER: Ploypat

STYLIST: Organic Boy

MAKEUP ARTIST: bannahm_makeup

HAIR STYLIST: taktine_hairstylist

CLOTHES: FENDI ชั้น M สยามพารากอน โทร. 0 2610 9287-8 / Vickteerut 122 ทองหล่อซอย 4 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 082 782 8179 / Velade 916/24 ซอยสุขุมวิท 55 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 0 2714 9377 / Disaya ชั้น 2 เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 0 2646 1828 – 9 LOCATION: Okura Cruise www.okuracruise.com

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด