ศิลปะผสาน’โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์’ ส่งต่อศิลปะผสานความงดงามของธรรมชาติ สู่ชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีซ ด้วยงาน ‘Presents of Presence A Lotus Art de Vivre Masterpiece 2020
หากลองสังเกตผลงานของ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ (Lotus Arts de Vivre) คุณจะได้สัมผัสถึงงานศิลปะชิ้นเอกที่ผสานความงดงามของธรรมชาติ เข้ากับเทคนิคงานหัตถกรรมชั้นสูงของช่างฝีมือทั่วเอเชีย ที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น รังสรรค์เป็นเครื่องประดับ กระเป๋า และของแต่งบ้านหลากดีไซน์ ในโอกาสครบรอบปีที่ 38 ของแบรนด์ นิกกี้ วอน บูเรน จัดงาน Presents of Presence A Lotus Art de Vivre Masterpiece 2020 (พรีเซนต์ ออฟ เพรซเซนซ์ อะ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ มาสเตอร์พีซ 2020)
เผยจิวเวลรี่คอลเลกชั่นมาสเตอร์พีซ อาทิ กำไล แหวน ต่างหู จากเปลือกหอยทะเลน้ำลึก หายาก มีราคาสูง แกะสลักปิดทอง, เซ็ทสร้อยคอ ต่างหู กะลามะพร้าวแกะสลักปิดทอง, แหวนทองคำประดับหยกแกะสลัก, กระเป๋าผ้ายกทองเมืองนครฯ จากโครงการศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง จังหวัดนครศรีธรรมราช สำหรับของแต่งบ้านชิ้นมาสเตอร์พีซ เช่น โต๊ะไม้ขนาดเล็ก โคมไฟดีไซน์เก๋ และ ไม้แกะสลักประดับเงินแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เป็นต้น โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมและครอบครองได้ ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป ณ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีค, โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
นิกกี้ วอน บูเรน ประธานกรรมการบริหาร โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ กล่าวว่า “โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ คือแบรนด์เครื่องประดับและของแต่งบ้าน ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แม้ผู้ก่อตั้งคุณพ่อ (คุณรอล์ฟ วอน บูเรน) จะเป็นชาวเยอรมัน และคุณแม่ (คุณเฮเลน วอน บูเรน) ลูกครึ่งไทย-สก็อตแลนด์ แต่ท่านทั้งสองหลงใหลในความอัศจรรย์ของช่างฝีมือไทยและวัฒนธรรมไทย โดยคุณพ่อพูดเสมอว่า “ประเทศไทยยังคงอนุรักษ์เรื่องของงานฝีมือ วัฒนธรรม ได้ดีกว่าหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ผ่านทางหน่วยงานอย่างเช่น มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ คอยส่งเสริมสิ่งเหล่านี้ให้ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้” เราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานความงดงามนี้ให้คงอยู่ต่อไป ดังนั้นจึงสร้างสรรค์ชิ้นงานมาสเตอร์พีซขึ้นมา รวมถึงยังได้จัดทำกระเป๋าผ้าไทย นำผ้ายกทองเมืองนครฯ 2 ผืน สีน้ำเงินและสีแดง จากโครงการศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง จังหวัดนครศรีธรรมราช มาตัดเย็บเป็นกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น เพียง 36 ใบ ซึ่งผ้ายกทองทั้งสองผืนนี้มีความวิจิตรงดงามของลายผ้าที่ถูกทออย่างประณีต นำมาผสานวัสดุหลากหลายกลายเป็นกระเป๋าผ้าไทยที่มีความโก้ หรู เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่”
อัครชญ แก้วอาภรณ์ ผู้เชี่ยวชาญผ้าไทย ที่สั่งสมประสบการณ์ด้านผ้าไทยกว่า 10 ปี อดีตภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เผยว่า “ในช่วงปี 2536 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่บ้านเนินธัมมัง พระองค์ได้ทรงรับทราบถึงปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรในพื้นที่ ซึ่งมีฐานะยากจน การประกอบอาชีพหลักคือการทำไร่ ทำนา พระองค์จึงได้ทรงพระราชทานโครงการศิลปาชีพขึ้น ณ บ้านเนินธัมมัง อ.เชียรใหญ่ และก่อสร้างศาลาศิลปาชีพขึ้น ปัจจุบันคือ โครงการศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมังฯ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ฟื้นฟูการทอผ้ายกเมืองนครฯ ซึ่งสูญหายไปแล้วขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างอาชีพให้ชาวบ้านได้มีรายได้เสริม ในช่วงนอกฤดูทำนา”
สำหรับผ้ายกทองเมืองนครฯ นับเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแบบฉบับของช่างฝีมือชั้นสูง เนื่องจากมีเทคนิคการทอที่ซับซ้อนทอค่อนข้างยาก โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดำริให้ครูจากศิลปาชีพนำผ้ายกทองโบราณที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ มาแกะลายและแกะเทคนิคการทอ ใช้ระยะเวลากว่า 2 ปี ถึงสามารถฟื้นฟูความรู้ด้านการทอผ้าเมืองนครฯ ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทั้งนี้ในสมัยโบราณผ้ายกทองเมืองนครฯ เป็นผ้าที่ได้รับการยกย่องมาแต่โบราณ ว่าสวยงามแบบอย่างผ้าชั้นดี เป็นผ้าที่พระมหากษัตริย์พระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ในปัจจุบันผ้ายกทองเมืองนครฯ ถูกทอขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องแต่งกายในการแสดงโขนพระราชทาน ทดแทนการสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป โดยใช้สีย้อมธรรมชาติ สีแดงย้อมด้วยครั่ง และสีน้ำเงินย้อมด้วยคราม
สำหรับชิ้นงานมาสเตอร์พีซของโลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ ได้แก่
กระเป๋าผ้ายกทองเมืองนครฯ อาทิ
Woven Jewelled Silapacheep Clutch with Diamond
กระเป๋าคลัชต์ผ้ายกทองเมืองนครฯ ที่ผสานความอ่อนหวานของดอกไม้ทองฝังเพชร เกสรเป็นมุก เข้ากับที่จับกระเป๋าที่ดีไซน์เป็นรูปแหวนทองสุดโก้
Woven Jewelled Silapacheep Hand bag with Carved red coral Blooming Roses
กระเป๋าผ้ายกทองเมืองนครฯ ใบนี้โดดเด่นด้วยลวดลายกรวยเชิง ซึ่งถูกทอด้วยเทคนิคชั้นสูง โดดเด่นด้วยช่อดอกกุหลาบทำจากหินสีแดงแกะสลักประดับเพชรทรง Rose-Cut 1.51 กะรัต กรอบกระเป๋าทำจาก Black Rhodium Silver (แบล็ค โรเดียม ซิลเวอร์) ที่จับทำจากไม้ black wood ประดับทอง
Woven Jewelled Silapacheep Hand bag with Lacquer rooster brooch
โดดเด่นด้วยลายดอกซีกดอกซ้อน ซึ่งเป็นลายผ้าโบราณของไทย นำมาดีไซน์เป็นกระเป๋ารูปแบบคลาสสิกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ประดับเพชรรวม 6.02 กะรัต เพิ่มความเก๋ด้วยเข็มกลัดรูปไก่ งานศิลปะแลคเกอร์ญี่ปุ่น ดวงตาฝังเพชร กรอบกระเป๋าด้านบนทำจากงานคร่ำ ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมโบราณของไทย ด้วยวิธีการฝังทองลงบนเหล็กโดยฝีมือของ อาจารย์แดง-อุทัย เจียรศิริ ผู้เชี่ยวชาญงานคร่ำที่เก่งที่สุดในประเทศไทย ตัวล็อคอเมทิสต์ 4.93 กะรัต และทัวร์มาลีนสีชมพู 3.32 กะรัต
Woven Jewelled Silapacheep Handbag with Gold Silk Cord and Diamonds and Spiral Red Ruby
กระเป๋าใบนี้ได้นำผ้ายกทองเมืองนครฯ ในส่วนของเชิงกรวยมารังสรรค์เป็นกระเป๋าใบงาม ตกแต่งด้วยโครงไม้ไผ่เป็นกรอบด้านบน ตัวล็อคทับทิมสีแดง สายกระเป๋าทำจากไหมสีทองประดับเพชร ใช้เวลาทำประมาณ 3 เดือน โดยช่างฝีมือ 16 คน
เครื่องประดับชิ้นมาสเตอร์พีซ อาทิ
Gold Ring with Rubellite Diamond
แหวนทองคำวงนี้โดดเด่นด้วย Rubellite (รูเบลไลต์) สีแดงเข้มอมชมพูประดับเพชรทรงบาแกตต์ ทรงสามเหลี่ยม และทรงกลม รวมน้ำหนัก 0.61 กะรัต ทั้งนี้รูเบลไลต์ ในสมัยโบราณอัญมณีชนิดนี้ ถูกใช้เป็นเครื่องประดับสำหรับสตรีสูงศักดิ์ในราชสำนัก และเป็นเครื่องรางป้องกันอันตรายจากคุณไสยต่างๆ รวมถึงเป็นอัญมณีที่ส่งผลในเรื่องของความรักอีกด้วย
Gold Ring with Carved Jade and Diamond
แหวนทองคำดีไซน์โก้ด้วยหยกแกะสลักอย่างประณีต ซึ่งช่างฝีมือต้องอาศัยทักษะชั้นสูงในการแกะสลักหยกที่มีลวดลายละเอียดสลับซับซ้อน นับเป็นศิลปะที่หาชมได้ยาก เพิ่มความหรูหราด้วยการประดับเพชรทรงบาแกตต์ 0.53 กะรัต
Dragon Ring with Carved Cinnabar Lacquer and Diamond
แหวนมังกรทองคำวงนี้ ลำตัวมังกรแต่งด้วย Cinnabar Lacquer (ซีนาบาร์ แลคเกอร์) หรืองานแกะสลักแลคเกอร์ของประเทศจีน เป็นศิลปะที่มีมานานกว่าสามพันปี โดยนำน้ำยางของต้นรักมีสีแดงเข้ม และมีคุณสมบัติพิเศษคือ กันน้ำ ทนความร้อน และมีความยืดหยุ่น มาแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ส่วนหัวและหางประดับเพชร 0.63 กะรัต ใช้เวลารังสรรค์ประมาณ 8 เดือน
การนำ “กะลามะพร้าว” มาสร้างสรรค์เป็นเครื่องประดับแสนงดงาม ซึ่งกะลามะพร้าวเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีคุณสมบัติน้ำหนักเบา มีความแข็งแรงทนทาน สามารถแกะสลักลวดลายต่างๆ แต่ต้องใช้ช่างฝีมือที่มีความชำนาญระดับครูมาแกะสลัก รวมถึงการนำมาปิดแผ่นทองให้สวยงามมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นเครื่องประดับที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติที่มีความงดงาม มีมูลค่า สวมใส่ได้สบาย ได้แก่
Carved Coconut Earrings with Pearl, Earrings and Tsavorite
ต่างหูกะลามะพร้าวแกะสลักลวดลายโบราณและคลาสสิก ปิดทองคำเปลว 24K ประดับไข่มุกน้ำจืดคุณภาพเยี่ยม มรกตแพนจ์เชียร์ (Panchshir Emeralds) 0.77 กะรัต ซึ่งเป็นมรกตที่ดีที่สุดของโลกจากอัฟกานิสถาน และ กรีน ซาโวไรท์ (Green Tsavorites) 2.76 กะรัต ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นอัญมณีแห่งมิตรภาพ ช่วยให้ประสบความสำเร็จในด้านการงานและการเงิน
Carved Coconut Necklace with Tsavorite, Pearl and Diamond
สร้อยคอกะลามะพร้าวแกะสลักโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญ เนื่องจากกะลามะพร้าวมีความแข็งแรงทนทานมาก ลวดลายได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ปิดทองคำเปลว 24K ประดับไข่มุก, พลอยซาโวไรท์ (Tsavorites) 1.3 กะรัต และเพชร 0.34 กะรัต
Carved Coconut Necklace with Diamond Pearl and Tsavorite
สร้อยคอกะลามะพร้าวแกะสลักหุ้มด้วยทองคำเปลว 24K ประดับไข่มุกน้ำจืด เพชร 1.05 กะรัต และ พลอยซาโวไรท์ (Tsavorites) สีเขียว14.82 กะรัต
Carved Coconut Earrings with Diamond and Tsavorite
ต่างหูกะลามะพร้าวแกะสลักหุ้มด้วยทองคำเปลว 24K ประดับไข่มุกน้ำจืด, เพชรทรงกลม 0.43 กะรัต, เพชรทรงสามเหลี่ยม 0.16 กะรัต, เพชรทรงหยดน้ำ 0.24 กะรัต และ พลอยซาโวไรท์ (Tsavorites) 6.02 กะรัต อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของมาสเตอร์พีซในปีนี้ ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ ผสานความสวยงามของธรรมชาติกับงานดีไซน์วิจิตรเหนือจินตนาการ และเทคนิคจากช่างฝีมือชั้นสูง ปรากฏเป็นเครื่องประดับคอลเลกชั่น Carved Shell นำเปลือกหอยจากทะเลน้ำลึก หายาก ที่มีความแข็งแต่เปราะบางมาแกะสลัก ปิดทอง 24K ได้อย่างละเมียดละไม โดยช่างฝีมือชั้นครู อายุเกือบ 80 ปี ผู้มีความชำนาญในการแกะสลักเปลือกหอยมานานกว่า 5 ทศวรรษ โดยคุณรอล์ฟ วอน บูเรน ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางรอบโลกเห็นงานศิลปะ Carved shell มีอายุ 300 ปี ตั้งแสดงในทุกพิพิธภัณฑ์
Carved Shell Earrings with Zambian Emeralds
ต่างหูดีไซน์เก๋ทำจากเปลือกหอยแกะสลักปิดทอง 24K ประดับมรกตแซมเบีย 33.50 กะรัต และเพชร 1.51 กะรัต
Carved Shell Ring with Zambian Emerald
แหวนไม้โดดเด่นด้วยเปลือกหอยแกะสลักปิดทอง 24K ประดับมรกตแซมเบีย 9.48 กะรัต และเพชร 1.18 กะรัต
สำหรับของแต่งบ้านชิ้นมาสเตอร์พีซมีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ อาทิ
“Tree of life” Sculpture with a bonsai cherry tree, birds and butterflies
บอนไซ ต้นเชอรี่แคระ เป็นพันธุ์ไม้หายาก นำมาจากจังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ต้นไม้แห่งชีวิตต้นนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ต้นไม้แห่งสรวงสวรรค์ ทำให้ผู้ที่ได้ครอบครองเกิดความปิติและมีความสุข ต้นไม้แห่งชีวิตต้นนี้ ประดับด้วยผีัเสื้อทำจากเปลือกหอยอบาโลน (Abalone) เนื้อเงิน ส่วนนกทำจากโลหะตกแต่งด้วยอเมทิสต์ (Amethyst) บุษราคัม (Citrine) และทัวร์มาลีน สีชมพู (Pink Tourmaline)
Lingzhi Mushroom Owl Sculpture
รูปปั้นนกฮูกนั่งบน Burl Wood ตั้งอยู่บนฐานหินแกรนิตสีดำ ตัวนกฮูกทำจากเห็ดหลินจือ ใบหน้าและขาของนกฮูกทำจากเงินแท้แกะสลัก ดวงตาและจะงอยปากทำจากไม้มะเกลือ หนึ่งในไม้สีดำที่บริสุทธิ์ที่สุดและราคาสูง เป็นไม้พื้นเมืองทางตอนใต้ของประเทศอินเดียและศรีลังกา
Lamp with Mulberry Paper and Lotus Brass Stand
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรังดักแด้ของหนอน ที่มีความซับซ้อนอย่างน่ามหัศจรรย์ สร้างมิติแห่งความสวยงาม จึงนำกระดาษสามาแทนเส้นใย และนำผ้าลายทองมาร่วมประกอบ เพื่อสร้างความหรูหราโดดเด่นและทรงคุณค่า โดยประกอบขาตั้งทองเหลือง ดีไซน์เป็นดอกบัว ฐานเป็นใบบัวคว่ำ เพิ่มความเป็นธรรมชาติ รังดักแด้ที่ยึดติดกับก้านบัว ตั้งอยู่เป็นฐานหินแกรนิต จึงเป็นที่มาของโคมไฟกระดาษสา (Mulberry paper)
สามารถมาชมความงดงามของเครื่องประดับ และของแต่งบ้านผลงานมาสเตอร์พีซจากช่างฝีมือไทยชั้นสูงได้ที่ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีค, โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
เวลา 10.00 – 18.00 น.
โทร. 0 2 250 0732 หรือ www.lotusartsdevivre.com, Instagram @lotusartsdevivre