ต้อนรับปีใหม่ด้วยดินเนอร์มื้อพิเศษ นั่งจิบเครื่องดื่มช่วงพระอาทิตย์ตกดินชมท้องฟ้าเปลี่ยนสีที่ “The Grotto” ใน “รายาวดี รีสอร์ท” (Rayavadee Resort) ร้านนี้แทรกตัวอยู่ใต้ภูเขาหินปูน บนพื้นหาดทรายขาว (หาดพระนาง จ.กระบี่) บรรยากาศเหมือนรับประทานอาหารอยู่หน้าทางเข้าถ้ำนั่งมองวิว Happy Island ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าตัดกับน้ำ ทะเลสีฟ้า เสียงคลื่นเบา ๆ ทำให้รู้สึกสงบผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อร้านนี้อยู่ใน Bucket List ของแป๋มมายาวนาน พอได้มาเข้าจริงๆ ต้องบอกเลยว่า ประทับใจกว่าที่คิด หากใครผ่านมาแถวนี้ ลองแวะมาเที่ยวสักครั้งรับรองไม่ผิดหวังค่ะ

นอกจากร้านอาหารแล้ว ด้านในรายาวดี รีสอร์ทก็สวยสงบร่มรื่น โอบล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้น้อยใหญ่ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 52 ไร่ ติดกับหาดพระนาง หาดไร่เลย์ และหาดน้ำเมาช่วงที่ไป (มีนาคม 2564) คนเข้าพักไม่เยอะมาก ทำให้ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้เต็มที่ การเดินทางจากสนามบินจังหวัดกระบี่ ทางรีสอร์ทจะไปรอรับที่สนามบิน นั่งรถตู้ประมาณ 30 – 40 นาทีมาที่ท่าเรือ เพื่อต่อเรือ อีก 15 นาที่เข้าไปยังรีสอร์ท หากดูเส้นทางจาก Google Map อาจจะสับสนว่ามีเส้นทางขับรถไปได้ ขอบอกว่าต้องนั่งเรืออ้อมภูเขาเข้ามาเท่านั้นค่ะ พอเช็คอินเรียบร้อย เราจะได้รับการต้อนรับจากบัตเลอร์ส่วนตัว (Butler) ผู้ที่คอยดูแล ประสานงานให้ทุกเรื่อง ตั้งแต่การขับรถกอล์ฟรับส่ง การสั่งอาหาร การจองสปาไปจนถึงการจองกิจกรรมต่างๆ

ห้องพักที่นี่เป็นวิลล่าทั้งหมด 104 หลัง มีหลายขนาด แป๋มพักเป็น Pool Pavillion เลขที่ 106 พอเปิด ประตูเข้า ไปก็เจอกับสระว่ายน้ำส่วนตัว สวนและต้นไม้ใหญ่ บ้านพักเป็นวิลล่าแบบ 2 ชั้น ด้านล่างเป็นห้องนั่งเล่น ดูทีวี มีห้องน้ำหนึ่งห้อง เปิดประตูเดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 เป็นโซนห้องนอนจะมีโต๊ะ เครื่องแป้งที่ว่างกระเป๋า เดินทาง ตู้เสื้อผ้า เตียงนอนขนาดคิงไซส์ และโต๊ะทำงานที่มองลงไปเห็นวิวสระว่ายน้ำในห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำ และที่ชอบมากคือ ห้องอาบน้ำและห้องสวมแยกโซนกัน แถมอ่างล้างหน้ามีสองอย่าง ยืนแปรงฟันพร้อมกันได้สบาย ถึงที่นี่จะสร้างมานานแล้วแต่ยังบำรุงรักษาทุกอย่างได้เป็นอย่างดี

การเดินทางในรีสอร์ทส่วนใหญ่จะใช้รถกอล์ฟเป็นหลักเนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างกว้างสถานที่ทำกิจกรรมจะกระจายตัว อยู่ทั่วทุกบริเวณ กิจกรรมที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะพาไปเที่ยวตามเกาะ เที่ยวในตัวเมืองบริการนวดและสปา หรือจะเป็น คลาสเรียนต่อยมวยโยคะก็มีให้เลือกเช่นกันส่วนตัวแล้ว ชอบเดินมากกว่านั่งรถเหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัวแต่สิ่งที่ต้องระวังมากคือน้องลิงที่แวะไปเวียนมาทั่วรีสอร์ทแนะนำว่าควรปิดประตูห้องให้มิดชิด เดินถือของถือขนมต้องระวังมากเป็นพิเศษ อาจจะโดนน้องลิงขอไปกินระหว่างทางได้

มาถึงไฮไลต์ดินเนอร์ใต้แสงเทียนบนหาดทรายขาวที่ “The Grotto” ทันทีที่เช็คอินเสร็จ แนะนำให้จองโต๊ะสำหรับมื้อเย็นในวันที่ต้องการไว้ก่อนเลย เพราะคิวจองค่อนข้างเยอะ เราสามารถจองโต๊ะได้ตามจำนวนคน เวลา แต่ไม่สามารถเลือกโต๊ะที่ต้องการได้ใครมาก่อนได้เลือกก่อน แป๋มเลยไปถึงตั้งแต่17.30 น. เพื่อจะได้นั่งดื่มน้ำ ดูวิวถ่ายรูปมุมต่างๆ จนพระอาทิตย์เริ่มตกท้องฟ้ากลายเป็นสีชมพูอมเหลืองเหมือนในรูปบอกได้เลยว่าวิวสวยมากเกินคุ้มจริงๆ อาหารที่นี่จะเป็นสไตล์อิตาเลียนแต่ก็ยังมีอาหารกินเล่นอาหารจานเดียวและเมนูบาร์บีคิวเสริมมาสำหรับมื้อเย็นในเลือกสั่งได้ นอกจากนี้ ในรีสอร์ทยังมีร้านอาหารอีก 3 แห่ง ได้แก่ “รายาไดน์นิ่ง” ที่จะให้บริการอาหารเช้า “ครัวพระนาง” เน้นเป็นอาหารไทยตำรับดั้งเดิม ที่เปิดให้รับประทานเฉพาะมื้อเย็น และสุดท้าย “ไร่ทะเลเทอร์เรส” เป็นเมนูอาหารที่มาจากทุกภูมิภาคทั่วเอเชีย

ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบ รายล้อมด้วยธรรมชาติ มีความเป็นส่วนตัว ใครกำลังมองหาที่พักผ่อนสบาย ๆ ช่วงนี้ ลองเช็คราคาดูนะคะ มีเพื่อนจองไปเมื่อเดือนตุลาคม 2564 ใช้โปรโมชั่นเราเที่ยวด้วยกัน จองห้อง Deluxe Pavilion สำหรับ 2 ท่าน รวมอาหารเช้า รวมบริการรับส่งถึงสนามบิน ในราคา 5,500 บาท/คืน (ราคาหลังหักส่วนลดเราเที่ยวด้วยกันแล้ว) เท่านั้นค่ะ

OUR INFLUENCER

คุณปิยะดา ปุณณกิติเกษม
เจ้าของเพจ PPGALLERY (พีพีแกลเลอร่)ี ในช่องทาง
Instagram: @ppgallery และ Facebook: PPGALLERY
www.ppgallery.net