‘ธรรมชาติ’ และ ‘ศิลปะ’ คือสองสิ่งที่แต่งแต้มสีสันและเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับโลกใบนี้มากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เราอาจหลงลืมความสำคัญของทั้ง 2 สิ่งนี้ไป แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ทำให้เราได้หยุดเพื่อหันมองสิ่งรอบข้าง ใช้เวลาอยู่กับตัวเองและทำในสิ่งที่รัก AROUND ฉบับนี้เพิ่มความพิเศษด้วยหน้าปกที่ดูสดใสโดดเด่นสะดุดตา จากผลงานการสร้างสรรค์ภาพศิลปะของ ยูน – ปัณพัท เตชเมธากุล ศิลปินมากความสามารถที่เคยร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง Gucci พร้อมด้วยผลงานอีกมากมายที่คุณอาจเคยผ่านตากันมาบ้าง นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้คุณได้แต่งแต้มสีสันในแบบที่เป็นตัวเอง เพื่อร่วมสนุกรับของรางวัลในโอกาสครบรอบปีที่ 10 ของ AROUND อีกด้วย แต่ก่อนหน้าที่จะลงมือสร้างสรรค์ความสวยงามในแบบของตัวเอง เราลองมาทำความรู้จักศิลปินมากความสามารถผู้นี้กันอีกสักนิด ก่อนจะมาเป็นศิลปินมากความสามารถผู้สร้างความสดใสให้กับโลกใบนี้ ยูน – ปัณพัท เริ่มต้นจับดินสอวาดภาพด้วยความที่เป็นลูกคนเดียว “เวลาอยู่บ้าน ก็อยู่คนเดียว ไม่ได้มีเพื่อนเล่น เพราะว่าพ่อแม่ก็ต้องทำงาน ไม่ค่อยมีเวลามาเล่นกับเรา ก็เลยจะอ่านหนังสือและวาดรูป เพราะฉะนั้นเราก็เลยจะชินกับกิจกรรมที่เราใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้ บวกกับว่าตอนนั้นมีพี่คนหนึ่ง ชื่อพี่ใจ เป็นหลานของช่างเย็บเสื้อที่บ้านมาสอนวาดรูป เราก็เลยวาดรูปเรื่อยมา พอไปโรงเรียนเรียนวาดรูป ครูก็ชม เพื่อนก็ชม เราก็เลยรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นความสามารถของเราก็เลยวาดมาเรื่อยๆ ค่ะ จนกระทั่งตอนที่ทำงานประจำ เป็นดีไซเนอร์ เราจะมีความเชื่อของเราเองว่าของที่เราทำ แม้ว่ามันจะเป็นเสื้อผ้า แต่ก็จะต้องมีความเป็นงานศิลปะอยู่ข้างในบางคนอาจจะคิดว่า เสื้อผ้าก็เป็นแค่เสื้อผ้า แค่ทำเสื้อผ้าที่ใส่ได้แล้วสวยก็จบ แต่สำหรับยูนมันจะมีอยู่วิชาหนึ่งตอนเรียน ชื่อ Wearable Art คืองานอาร์ตที่เราสวมใส่ได้ เพราะฉะนั้นพอเราได้รับโอกาสที่จะขึ้นมาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ ก็เริ่มที่จะเอาแนวคิดนี้เข้ามาใส่ เพื่อต้องการจะบอกว่าความเป็นศิลปะจำเป็นต่อการสร้างสรรค์ผลงานของเรา รวมถึงงานดีไซน์ในขณะนั้นด้วย เลยเป็นจุดเริ่มต้น เพราะเรารู้สึกว่าคนที่ได้รับของเราไป เราอยากให้เขาได้อะไรที่มากกว่าแค่ซื้อเสื้อผ้าปกติ เพราะฉะนั้นทุกคอลเลกชั่นก็เลยจะมีเรื่องราวและแรงบันดาลใจอยู่ข้างใน ซึ่งเราก็จะเล่าทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ก็ค่อยๆ เริ่มฝึกการตีความมาจากตรงนั้น” ภายหลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่เธอมักจะใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้น ก็คือตัวของเธอเอง “ปกติเวลาที่ได้ยินหรือได้ฟังอะไรมา แล้วเป็นสิ่งที่เราชอบก็จะจดเอาไว้ เราจะมีสมุดเอาไว้คอยจดบันทึก รู้สึกอะไรก็จะจดเก็บเอาไว้ คือตั้งแต่สมัยเรียนดีไซน์ ก็จะมีอาจารย์ที่สอนเราไว้ว่าทุกครั้งที่มีงานเข้ามา เราไม่อาจกำหนดได้หรอกว่าจะเจองานอะไรบ้าง แต่ถ้าเรามีคลังของตัวเอง ก็จะสามารถดึงทุกอย่างออกมาใช้ได้ นั่นจึงเป็นการฝึกฝนที่เราจะเก็บความทรงจำของเราเพื่อหยิบออกมาใช้เมื่อถึงเวลา” เช่นเดียวกับงานที่ได้เห็นบนหน้าปก AROUND เล่มนี้ ที่เธอบอกว่าได้สร้างสรรค์ไว้ก่อนในช่วงแรกที่เกิดวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากได้มีเวลาในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จนได้ไปรู้จักกับรายการ ‘เถื่อน Travel’ ของ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล “ก่อนหน้านี้เราได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการรักษาธรรมชาติมาเยอะ แต่ว่าก็จะทำได้แค่ในส่วนของตัวเอง อย่าง ลดการใช้พลาสติก ใช้ถุงผ้า หรือใช้พลาสติกซ้ำ แต่พอได้ดูรายการนี้ก็เลยรู้สึกว่าเป็นการเปิดโลกมากเลย ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วธรรมชาติเป็นเรื่องที่ผูกกันหลายอย่างมาก ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง รวมถึงทุนนิยม การที่วันนี้เราปลูกจิตสำนึกให้กับคนได้เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าก็ต้องอาศัยภาพรวมจากการเปลี่ยนแปลงของระบบใหญ่ด้วย”

นั่นจึงทำให้เกิดเป็นภาพวาดสวยงามภาพนี้ ที่เธอคัดเลือกมาเพื่อใช้เป็นปกสำหรับ AROUND “ด้วยธีมเล่มที่ว่า Green Heart Green Hero ก็เลยคิดถึงลูกนกที่ออกมาจากดอกไม้ เพราะรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นวัฏจักร ซึ่งรูปนี้อย่างที่บอกว่าวาดเอาไว้ก่อนอยู่แล้ว เพราะคิดถึงเรื่องธรรมชาตินี่ล่ะ คือก็อย่างที่เรารู้กันว่ามันเป็นวัฏจักรของสิ่งมีชีวิตกับธรรมชาติ อย่างนกหรือแมลงนี่ก็ช่วยทำให้ต้นไม้หรือสิ่งแวดล้อมเจริญเติบโต ขับเคลื่อนวงจรชีวิตให้ดำเนินต่อไปได้ แล้วก็ต้องย้อนกลับมามองว่าตอนนี้คนอย่างเราๆ ตอบโจทย์วงจรของธรรมชาตินี้แล้วหรือยัง ก็เลยเลือกเอารูปนี้มาใช้ในครั้งนี้” นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่ารู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ AROUND เพราะนอกจากจะได้เป็นเสียงสะท้อนเล็กๆ ในเรื่องของธรรมชาติแล้ว ยังจะเป็นการเชิญชวนผู้อ่านให้ได้ใช้เวลาว่างอย่างเพลิดเพลินไปกับการระบายสี ซึ่งศิลปินสาวมากความสามารถก็ได้ทิ้งท้ายพร้อมคำแนะนำในการลงสีไว้ด้วย

“โดยส่วนตัวเวลาทำงานยูนจะใช้สีตามอารมณ์เลยค่ะ ก็คือเทออกมากอง แล้วก็หยิบระบายเลย แต่ยูนจะยึดหลักการหนึ่งคือ ต้องไม่ยึดติดว่าสิ่งนี้ต้องเป็นสีนี้เท่านั้น เช่น ใบไม้ต้องเป็นสีเขียว หรือต้นไม้ต้องเป็นสีน้ำตาล เพราะฉะนั้นเลยอยากแนะนำให้ลงสีให้เต็มที่เลยค่ะ อย่าเกร็ง เพราะศิลปะที่เราเรียนในโรงเรียนกับที่ใช้ในชีวิตจริงมันไม่เหมือนกัน ที่โรงเรียนเราจะถูกสอนจนเราเกร็งมาก แต่ว่าในวันที่คุณคิดว่าศิลปะจะทำให้คุณมีความสุขก็ไม่ต้องคิดมาก ระบายไปเลย อยากจะทำอะไรทำ ดอกไม้จะเป็นสีอะไรก็เป็นได้ตามที่คุณชอบ ชอบสีอะไรก็เลือกใช้ได้เลย ส่วนคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบสีอะไร สิ่งที่ง่ายที่สุดก็คือให้ดูจากสีของช่อดอกไม้ที่เคยเห็น หรือสีที่อยู่บนหน้าปกหนังสือ แล้วคุณรู้สึกว่าคู่สีนี้มันสวยดี ก็เก็บคู่สีนี้ไว้แล้วค่อยเอามาใช้ ก็จะเป็นวิธีที่สามารถดูคู่สีได้ง่ายที่สุดค่ะ”

สำหรับผู้ที่สนใจและอยากติดตามผลงานอื่นๆ ของศิลปินมากความสามารถคนนี้

สามารถติดตามได้ทาง IG: phannapast