TOP

ตามรอย PPGALLERY รีวิวท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี 2 วัน 1 คืน

เดือนนี้ขอพาไปรับลมหนาวที่จังหวัดอุดรธานีกัน 2 วัน 1 คืนนะคะ เพื่อนร่วมทริปอีก 2 คนช่วยกันแพลนที่เที่ยวแบบครบทุกอรรถรสเลยค่ะ เริ่มจากการนั่งเครื่องบินไฟล์ทเช้า มาถึงอุดรฯ ตอน 8.40 น.เราเดินทางทริปนี้ด้วยรถตู้ เช่าพร้อมคนขับวันละ 1,600 บาท (ไม่รวมค่าน้ำมัน) มาถึงพี่คนขับก็รอรับที่สนามบินและพามากินอาหารมื้อแรกที่ “คิงส์โอชา” ร้านอาหารเช้าเก่าแก่สไตล์เวียดนาม เมนูเด็ดที่นี่เป็น ไข่กระทะ ขนมปังยัดไส้ ข้าวเกรียบปากหม้อและกาแฟโบราณ เป็นอาหารท้องถิ่นที่ราคาย่อมเยาว์

จากนั้นนั่งรถต่อไปอีก 1 ชั่วโมง ก็มาถึงไฮไลต์ของจังหวัดอุดรธานี คือ การนั่งเรือชม “ทะเลบัวแดง” นั่นเองค่ะ ทะเลบัวแดงเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่มาก มีพื้นที่รวมกว่า 29,000 ไร่ บัวแดงจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี มีสัตว์น้ำ นกนานาชนิดและพืชน้ำอีกเต็มไปหมด ซึ่งดอกบัวจะเริ่มบานในตอนเช้าจนถึงช่วง 11.00 น. ก็จะเริ่มหุบ ความสวยงามของดอกบัวที่บานสะพรั่งตามธรรมชาติแบบนี้ ทำให้ทะเลบัวแดงถูกจัดอันดับเป็น 1 ใน 15 ทะเลสาบที่แปลกที่สุดในโลกโดยสำนักข่าว CNN ช่วงที่ไปเป็นต้นเดือนพฤศจิกายน บัวแดงออกดอกน้อยมาก (เหมือนในรูป) พี่คนขับเรือก็พานั่งเรือต่อไปอีกหน่อยเพื่อไปดูบัวหลวงที่ใบมีทรงกลมๆ ขนาดใบใหญ่กว่า ดอกบัวกำลังบานสีอมชมพูระเรื่อ ค่อยรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง สำหรับเพื่อนๆ ที่วางแผนจะมานั่งเรือดูบัวแดง ที่นี่มีเรือให้เลือก 2 แบบคือ เรือหางยาวนั่งได้ 2 คน ราคาลำละ 300 บาท และเรือลำใหญ่ขึ้นมาหน่อยนั่งได้ 6 คน ราคาลำละ 500 บาท ถ้าอยากได้รูปสวยๆ แนะนำเช่าทั้ง 2 ลำ แล้วข้ามไปโพสท่าสวยๆบนเรือหางยาว ส่วนเพื่อนฝากอยู่เรือลำใหญ่ ให้คอยถ่ายรูป รับรองสวยแน่นอนค่ะ ส่วนคนที่มีกล้องโดรน เอาไปบินถ่ายได้ตามสบาย ไม่มีข้อห้ามค่ะ

กลับมากินข้าวกลางวันที่ “ส้มตำเจ๊ไก่” ร้านส้มตำชื่อดัง มีหลายสาขา อาหารจานใหญ่โต เมนูขึ้นชื่อเป็นไก่ย่าง คอหมูย่าง ตำกุ้งสด ส้มตำปลาร้า ส่วนเมนูพิสดารคือ ตำสลบ ที่ใส่พริกครึ่งกิโลกรัม ใส่ทั้งปู ทั้งปลาร้า เพื่อนชิมคำแรกบอกว่าเผ็ดจนหูอื้อ แป๋มแค่แตะน้ำจิ้มกับข้าวเหนียวยังเหงื่อแตก เจ้าของร้านบอกว่าคนส่วนใหญ่สั่งมาถ่ายรูปแล้วห่อกลับ คิดในใจว่า…คล้ายเราสินะ

จิบกาแฟยามบ่ายที่ร้าน “บ้านนา คาเฟ่” (Barn Naa Cafe) คาเฟ่ท่ามกลางต้นไม้ร่มเย็น กับบ่อบัวแดงหน้าร้าน ที่ตกแต่งเหมือนอยู่คาเฟ่ชานเมืองในยุโรป ที่สำคัญขนมทั้งสวยและอร่อย มีเมนูให้เลือกเยอะอีกต่างหาก ติดใจเค้กมะพร้าว ที่หอม เนื้อเนียนนุ่ม หวานกำลังดี จนต้องซื้อห่อใส่กล่องกลับมาฝากที่บ้านด้วย จากนั้นก็เข้าไปเช็คอินที่ Amman Unique Hotel ที่พักตกแต่งสไตล์ตะวันออกกลาง ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก เลือกพักเป็นห้อง Family Suite ที่มี 3 เตียงในห้องเดียว เพราะทริปนี้ไม่มีใครอยากนอนเดี่ยวค่ะ

ก่อนไปกินข้าวเย็น แวะไปออกกำลังกาย ย่อยอาหารกันที่ “สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม” หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า “หนองประจักษ์” หนึ่งในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เหมือนเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดอุดรธานีก็ว่าได้ มีเป็ดเหลืองยักษ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ และความสามัคคี สูงประมาณ 8 เมตร ลอยอยู่กลางน้ำ และมีจักรยานปั่นในน้ำที่ทำหลังคาเป็นเป็ดเหลืองเข้าชุดกันอีกด้วย แป๋มไม่ได้เอารองเท้ากีฬาไป เลยเช่าจักรยานปั่นรับลมเย็น ดูวิวรอบหนอง ชั่วโมงละ 30 บาท ติดใจตรงที่มีการแยกเลนคนเดินหรือวิ่งกับคนปั่นจักยานเป็นคนละเลนกันเลย ไม่ต้องกังวลว่าจะชนใคร ช่วงที่ไปอากาศเย็นพอดี ชิวมากใกล้ๆ กันจะมี “พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี” เป็นพิพิธภัณฑ์อันสวยงามจัดแสดงศิลปะ วัฒนธรรม และวัตถุทางโบราณคดีในท้องถิ่น รวมถึงประวัติศาสตร์ของเมืองอุดรธานี เป็นอาคารเก่าแก่แต่สวยงามมาก นิทรรศการด้านในใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการเล่าเรื่อง ใครที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์อยู่แล้ว ลองแวะไปดูนะคะ

มาถึงร้านอาหารชื่อดัง ที่เรียกว่าเป็นจุดหมายปลายทางของนักกินหลายๆ คน “หมากแข้ง by Samuay & Sons” ร้านอาหารไทย – อีสาน ที่เลือกใช้วัตถุดิบปลอดสารพิษ และภูมิปัญญาการทำอาหารของคนอีสาน รวมถึงร่วมมือทำงานกับเกษตรกร – ชาวประมงท้องถิ่น เพื่อช่วยกระจายรายได้ให้คนในชุมชน รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูต่างๆ เช่น ยำกุ้งย่างมะเขือยาว คอหมูย่างเมืองตรังย่างกับกะปิผัด หรือแกงจืดลูกรอกน้ำมะพร้าวอ่อน ที่ซดจนเกลี้ยงชามเริ่มมื้อเช้าวันที่ 2 ด้วยร้าน “มาดามพาเท่ห์ 2515” (Madam Pahtehh 2525) ร้านอาหารท้องถิ่นที่ผสมผสานระหว่างความเป็น เวียดนาม ฝรั่งเศส และไทย ในบรรยากาศย้อนยุค เมนูแนะนำเป็น สามสหาย ประกอบด้วยขนมปังไส้ปาเต๊ะ ครัวซองทูน่า และโรตีไส้รวม เสิร์ฟคู่กับสลัดหลวงพระบาง รวมถึงเมนูกาแฟ ชานมชงแบบโบราณอีกด้วย มุ่งหน้าต่อไปที่ “วัดคำชะโนด” วัดดังจากละครเรื่อง “นาคี” เชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ดินแดนลี้ลับของพญานาค เป็นที่สิงสถิตของพญานาคปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีประทุมมา และสิ่งลี้ลับต่างๆ ว่ากันว่า เกาะคำชะโนด เกิดจากซากพืชที่ลอยน้ำได้โดยเฉพาะผักตบชวา ทั้งเกาะมีแต่ต้นชะโนดซึ่งมีรากฝอยแผ่ลงไปใต้น้ำ คอยพยุงลำต้น จนกลายเป็นเกาะลอยน้ำได้ ใครที่ชื่นชอบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ลองแวะไปสักการะหรือขอพรดูกันได้นะคะ

ปิดท้ายด้วยร้านขนมที่ยกให้เป็นขนมหวานที่อร่อยที่สุดในอุดรฯ “เลอ บอนเนอร์” (Le Bonheur Patisserie) ร้านขนมที่เปิดพื้นที่ของบ้านพักส่วนตัว จัดแต่งบริเวณหน้าบ้านด้วยต้นไม้ร่มรื่นหลากหลายชนิด กับเมนูสุดประทับใจ “La Poire Rouge” ลูกแพรตุ๋นไวน์แดง ที่ตุ๋นได้เข้าถึงทุกอณู เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมไวน์ เสิร์ฟบน Pecan Cream สนนราคาอยู่ที่จานละ 650 บาท เห็นราคาตอนแรกก็ตกใจ แต่พอได้ชิมแล้วขอบอกเลยว่าคุ้มค่ะ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น บอกเลยว่าจังหวัดนี้มีที่เที่ยว ร้านอาหาร คาเฟ่ ให้เลือกอีกเยอะมากใครสนใจเตรียมตัวไปดูบัวได้เลยตั้งแต่เดือนนี้นะคะ


ขอขอบคุณ : คุณปิยะดา ปุณณกิติเกษม
เจ้าของเพจ PPGALLERY (พีพีแกลเลอรี่)

ชลธิช วรรณอุบล I บรรณาธิการดิจิทัล