ช่วงเวลาแห่งวันหยุดพักผ่อน คงจะมีความหมายและน่าจดจำมากยิ่งขึ้น หากได้ออกเดินทางไปยังสถานที่ที่มีครบทุกความสุข และความต้องการซึ่งจุดหมายปลายทางที่ว่านั้นอาจอยู่ใกล้กว่าที่คิด เพียงแค่เดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มาลงที่สุราษฎร์ธานี หรือนครศรีธรรมราช ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง แล้วเดินทางต่อด้วยรถยนต์อีก 50 นาที จากสนามบินก็จะถึง ขนอม จุดหมายปลายทางที่มีครบทั้งเส้นทางแห่งศรัทธา สายประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม พร้อมด้วยการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ โดย ขนอม เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นอำเภอแรกสุดเมื่อเดินทางมาจาก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงนับว่าเป็นประตูสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ขนอมยังเป็นเมืองเก่าแก่ ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ได้มี คุณบัลลังก์ บัวเชย ในฐานะชาวขนอม กรรมการผู้จัดการ Blue Terrace Cafe & Bar และร้านอาหารอ่าวขนอม ซีฟู้ด รับหน้าที่เป็นเจ้าบ้านดูแลและให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ในทันทีที่เครื่องแลนด์ดิ้งลงจอดยังดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์แห่งนี้ สิ่งแรกที่เราได้ทำคือการเดินทางไปสักการะ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร โบราณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สวยงาม อันเป็นเสมือนสัญลักษณ์ประจำจังหวัด เพื่อความเป็นศิริมงคล ซึ่งความน่าสนใจของที่นี่นอกจากจะเป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ทั้งที่ตั้งอยู่หัวเมืองใต้แล้ว บริเวณยอดของเจดีย์ยังหุ้มด้วยทองคำแท้ และมีประเพณีสำคัญประจำปีคือ ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุซึ่งจะจัดขึ้นในวันสำคัญทางศาสนา 2 วันคือ วันมาฆบูชา และ วันวิสาขบูชา

จากนั้นเราแวะไปฝากท้องมื้อกลางวันกันที่ ร้านขนมจีนเมืองคอน ร้านขนมจีนเก่าแก่ ที่เสิร์ฟเส้นขนมจีนเหนียวนุ่มเส้นสด ทำกันวันต่อวัน มาพร้อมตะกร้าผักที่มีให้เลือกเติมได้อย่างจุใจ เช่นเดียวกับน้ำยาเผ็ดร้อนรสจัดจ้านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาปู น้ำยาใต้ แกงป่า แกงเขียวหวาน ฯลฯ ทั้งยังสามารถสั่ง ทอดมันกุ้งใบเล็บครุฑ หรือ ปีกไก่ทอด มากินตัดรสชาติความเผ็ดร้อนได้อีกด้วย

หลังจากอิ่มใจและอิ่มท้องแล้ว เราจึงมุ่งหน้าไปยัง ราชาคีรี รีสอร์ท แอนด์ สปา สถานที่พักกายและใจของเราในคืนนี้ ซึ่งที่นี่เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว มีเนื้อที่ประมาณ 16 ไร่ ตั้งอยู่บนเนินผาริมหาดในเพลา มาพร้อมวิวทะเลแบบพาโนรามาของอ่าวไทย รายล้อมด้วยขุนเขา ทะเล และโขดหิน อีกทั้งยังมี “สะพานรักทะเลใต้” ที่ทอดยาวลงสู่ทะเล

เป็นแลนด์มาร์คโดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์โคโลเนียล สมัยต้นรัชกาลที่ 5 แบบประยุกต์กับบ้านทรงไทยปักษ์ใต้ ที่ผสมผสานความเป็นไทยกับความเป็นสากลได้ลงตัว โดยมีห้องพักสไตล์วิลล่า 12 ห้อง สปาสวีท 16 ห้อง มินิสวีท 3 ห้อง และแกรนด์สวีท 2 ห้อง ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนไทย ในแบบศิลปะแบบไทยร่วมสมัย ที่เล่นระดับลดหลั่นไปตามไหลเขา เกิดเป็นภาพที่ลงตัวในทุกๆ มุมมอง แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สงบ ร่วมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

ในส่วนของมื้อเย็นเราได้ไปลิ้มลองความอร่อยที่ อ่าวขนอม ซีฟู้ด ร้านอาหารซีฟู้ดเปิดใหม่ล่าสุดริมทะเล ติดถนนเลียบชายทะเล สิชล-ขนอม ที่นี่นับว่าเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของขนอม ซึ่งคุณจะได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์จากลมทะเล ด้วยการจัดวางที่นั่งให้มีความโปร่ง โล่ง สบาย ทั้งยังรักษาระยะห่างในรูปแบบ New Normal

บริเวณชั้นหนึ่งพร้อมเสิร์ฟความอร่อยกับซีฟู้ดสดๆ จากทะเลใต้ เสริมด้วยอาหารญี่ปุ่น ซึ่งมีเมนูแนะนำ ได้แก่ กุ้งแม่น้ำเผา, กุ้งมังกรซาซิมิ, แกงส้มปลากะพง, แกงเนื้อปูใบชะพลูกับเส้นหมี่, ปลาหมึกโบราณ, ใบเหลียงผัดไข่, ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ปูดำไข่นึ่ง ทำหน้าที่ส่งเราเข้านอนอย่างเต็มอิ่ม และฝันดีในคืนนี้ นอกจากนี้ที่ชั้นสองยังเปิดให้บริการในรูปแบบคาเฟ่ ให้คุณได้กิน ดื่ม ฟังเพลง แบบชิลๆ ร่วมด้วยความสบายที่ชั้นสาม ในรูปแบบรีสอร์ท ที่มีห้องพักแบบเอ็กคลูซีฟ จำนวน 5 ห้อง ให้คุณได้ดื่มด่ำกับวิวทะเล และวิวภูเขาอย่างเต็มตา

หลังจากชาร์จพลังตลอดคืนจนแบตเต็มแล้ว เช้าวันถัดมาเรามีนัดกับ โลมาสีชมพู ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมห้ามพลาดเมื่อเดินทางมาที่นี่ และหลังจากที่ล่องเรือมาถึงจุดนัดพบ เหล่าโลมาก็ไม่ปล่อยให้เรารอนาน ขึ้นมาโชว์ลีลาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง

เสร็จจากโชว์โลมาสุดประทับใจแล้วเราขอแวะดื่มด่ำกับบรรยากาศและความอร่อยกันต่อที่ Blue Terrace Cafe’ & Bar อีกหนึ่งคาเฟ่น้องใหม่ซึ่งตั้งอยู่บนเขากลางป่าที่ขนอม เปิดโอกาสให้ได้สัมผัสกับความสวยงามของวิวทะเลจากทุกมุมมอง สามารถเดินทางมาได้ทั้งทางขนอม และทางถนนเลียบชายทะเล สิชล-ขนอม ภายในมีทั้งโซนคาเฟ่ห้องแอร์นั่งสบาย และโซนเอ้าต์ดอร์ โซนบาร์ โซนใต้ต้นไม้ และอีกหลากหลายมุม

โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ 2 จุดเช็คอิน ได้แก่ บริเวณซุ้มที่ยื่นออกเข้าไปหาทะเลพื้นแดง และ สะพานสีน้ำเงิน Fortune bridge จุดถ่ายภาพที่สวยงาม พร้อมการจัดโซนที่นั่งอย่างลงตัว ให้คุณได้ใช้เวลาเพลิดเพลินกับบรรยากาศและความอร่อยจากอาหารที่หลากหลาย ทั้งไทย ฝรั่ง และฟิวชั่น ร่วมด้วยเครื่องดื่มอีกมากมาย

ก่อนจะเตรียมตัวเดินทางกลับ โดยไม่ลืมแวะขอพร ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่โด่งดังประจำจังหวัด ปิดท้ายการเดินทางไปแบบอิ่มท้อง อิ่มกาย…และอิ่มใจ

RACHA KIRI RESORT AND SPA
99 หมู่ 8 ถ.ในเพลา – ท้องหยี ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
โทร. 075 300 245, 086 479 2491, 084 240 0999

———————————-

เรื่อง : จักรีรัตน์ อัสดรวุฒิไกร