ฤดูไหนก็เที่ยวได้! ตามรอยดอกไม้บานสะพรั่ง ที่ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” จ.เชียงใหม่
ใครที่กำลังมองหาทริปเที่ยวสุดฟินช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือช่วงวันหยุดยาว ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ฤดูไหนก็เที่ยวได้ แถมยังได้ชมพันธุ์ไม้หลากหลายสีสันบานสะพรั่ง ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ. เชียงใหม่ ภายในอุทยานหลวงฯ นี้ มีมุมถ่ายรูปสุดปัง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ชมไม้กลุ่มสีที่ออกดอกบานสะพรั่งสลับกันทั่วสวน ทั้ง ดอกประดู่แดง และ เหลืองอินเดีย ซึ่งมีดอกสีเหลืองสวยงามอร่าม นอกจากนี้ยังมีไม้กลุ่มสีอื่นๆ กำลังเริ่มทยอยแทงช่อออกดอกมาให้ชมกัน ไปจนถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี อุทยานหลวงฯ แห่งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับคนรักธรรมชาติ และชื่นชอบบรรยากาศของสวนดอกไม้หลากหลายพันธ์ุ เพราะสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้ตลอดวัน ในพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 470 ไร่ และ เปิดให้ชมสวนทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
เริ่มต้นเดินทางด้วยการเช็คตั๋วราคาโปรโมชั่น เปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินของแต่ละสายการบิน ผ่าน Traveloka ตัวช่วยจองตั๋วเครื่องบินที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว จองได้ทั้งตั๋วเครื่องบิน โรงแรม รถรับส่งสนามบิน หรือรถเช่าได้ครบแค่ปลายนิ้วคลิก ก่อนจองตั๋วเครื่องบินแนะนำให้เช็คมาตรการสนามบินได้ที่ > https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel
จากสนามบินเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 16 นาที ในการเดินทางถึงอุทยานหลวงฯ แนะนำให้เช่าจักรยานเพื่อขี่ลัดเลาะไปตามเส้นทาง พิกัดแรกที่สะดุดตาคือ “ลานดอกประดู่แดง” ที่ละลานตาไปด้วยสีสันสดของดอกที่มีสีแดงส้ม ของดอกประดู่แดงที่กำลังชูช่อ ให้ถ่ายรูปสวย ณ พิกัด Sky Walk หรือจะถ่ายภาพระยะใกล้ก็สวยไปอีกแบบ
อีกจุดที่สะดุดตาคือ “ดอกพวงคราม” เป็นอีกพันธุ์ไม้ไฮไลท์ให้ดอกสีม่วงเป็นพวงใหญ่สวยงามเต็มอุโมงค์ สร้างความประทับใจให้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก จะถ่ายรูปมุมไหนก็สวยปังแน่นอน ด้านในมีโซนความหลากหลายของพรรณไม้และไม้กลุ่มสี ที่ทำให้สะดุดตากับ “เหลืองอินเดีย” บานเต็มต้นสวยงามตระการตามาก
มาต่อกันที่ “ดอกสาวสันทราย” ให้พุ่มดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตลอดวัน พอดอกบานเป็นพุ่มยิ่งสวยมาก เป็นไม้พื้นเมืองของประเทศฟิลิปปินส์ ที่ชวนให้หลงใหล กับมุมถ่ายรูปสวยๆ
จากนั้นปั่นจักรยานมาเรื่อยๆ ที่ “สวนสวัสดี” เราจะเห็น “ทุ่งดอกคอสมอสสีขาว” อีกจุดเช็กอินที่สวยโดดเด่นให้ได้เก็บภาพกันอย่างจุใจ
เดินทางต่อกันที่ “เรือนกล้วยไม้” เราได้ชมกล้วยไม้ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ผสมท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น สดชื่นไปกับไม้ดอกเมืองหนาวสีสันสวยงามมากมาย นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้อื่นๆ ที่สวยสะดุดตาไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ศรีตรัง ให้ ดอกสีม่วงอ่อน, กัลปพฤกษ์ ดอกสีชมพูขาว, อินทนิลน้ำ ดอกสีม่วงชมพู, ราชพฤกษ์ ดอกสีเหลือง, หางนกยูงฝรั่ง ให้ดอกสีส้มแสดสดใส
สำหรับสายบุญแนะนำไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานในอุทยานหลวงฯ เริ่มกันที่ “สวนสยามประเทศ” ไหว้ พระอุปคุตปางสมาธิ หรือ พระบัวเข็ม โดดเด่นในเรื่องโชคลาภ คุ้มครองภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง ที่ “ลานโพธิ์แห่งความจงรักภักดี” ไปไหว้ พระพุทธรูปเฉลิมพระเกียรติ สมถะวิปัสสนากรรมฐาน พระพุทธรูป 2 องค์ ที่ได้จากการหล่อรวมใบโพธิ์ จำนวน 179,500 ใบ จากงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549
ที่ “สวนนานาชาติประเทศอินเดีย” ไหว้ องค์พระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเลิศปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง ขจัดอุปสรรคทั้งปวง กิจการทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
อีกจุดที่โดดเด่นอยู่ในพิกัด “สวนนานาชาติประเทศภูฏาน” ไหว้ พระศรีศากยมุนี พระพุทธรูปที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังซุก กษัตริย์ภูฏานเด่นในเรื่องนำพาสันติสุขมาให้ และชะลอความชราของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ใน “สวนนานาชาติประเทศลาว” ไหว้ พระพุทธรูปไม้แกะสลักปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปที่ทรงชนะเหล่ามาร ที่มารบกวนหากใครได้สักการะบูชาจะก่อบังเกิดความสงบสุขร่มเย็นปราศจากศัตรู มากันที่ด้านหลังของ “สวนนานาชาติประเทศเบลเยียม”
ไหว้ พระโพธิสัตว์กวนอิมอวโลกิเตศวร พระผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักความเมตตาต่อสรรพสัตว์ เป็นพระผู้เปี่ยมด้วยความกตัญญู และเป็นสัญลักษณ์แห่งเมตตามหาการุณย์ เพื่อโปรดสัตว์ให้หลุดพ้นจากห้วงทุกข์
ปิดท้ายทริปกันด้วยอีกหนึ่งความเป็นสิริมงคลที่ “หอคำหลวง” สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในวโรกาสจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และทรงเจริญพระชนพรรษา 80 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2549 เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่หาชมได้ยาก จุดเด่นภายในห้องโถงของหอคำหลวง เป็น ต้นไม้แห่งทศพิธราชธรรม รูปแบบต้นบรมโพธิสมภารเป็นรูปดอกบัวตูม 9 พุ่มเรียงซ้อนชั้นกันขึ้นไป มี 3 สี คือ สีเงิน สีทอง และสีนาค พุ่มละ 2,435 ใบ เป็นจำนวนใบโพธิ์รวมทั้งหมด 21,915 ใบ เท่ากับจำนวนวันที่ทรงครองราชย์ตลอดระยะเวลา 60 ปี
ภายในหอคำยังมีพระพุทธรูปปางประทานพร ภปร. พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปปางประทานพรและพระราชทาน พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ประดิษฐานไว้ที่ผ้าทิพย์ ได้ขอพรปิดท้ายทริปด้วย ทั้งนี้หากได้มาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่แล้ว “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้ มาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ชมพรรรณไม้นานาชนิด ฤดูไหนก็เที่ยวได้!