เปลี่ยนบรรยากาศหาสถานที่เช็กอินใหม่ๆ ในเมืองกับ 2 ย่านสุดฮิป ‘เจริญกรุง’ และ ‘ชิดลม’ ที่สายโซเชี่ยลต้องไม่พลาด!
เมื่อรูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป แน่นอนว่าสไตล์การท่องเที่ยวก็มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมด้วย ชวนคุณเก็บกระเป๋าเปลี่ยนบรรยากาศหาสถานที่ Staycation เช็กอินใหม่ๆ ในเมืองกรุง กับ 2 ย่านสุดฮิป คือ เจริญกรุง และ ชิดลม ที่สายโซเชี่ยลต้องไม่พลาด!
CHAROENKRUNG (เจริญกรุง)
ถนนสายสำคัญที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นกลุ่มถนนสายแรกๆ ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ในปี พ.ศ. 2405 – 2407 และเป็นจุดเริ่มต้นของย่านการค้าขาย โดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวและย่านศิลปะวัฒนธรรมที่สำคัญ มีการผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว อันเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ
PLACE TO STAY
Capella Bangkok
300/2 ถนนเจริญกรุง ยานนาวา สาทร กรุงเทพฯ
โทร. 0 2098 3888
www.capellabangkok.com
ตั้งอยู่ภายในโครงการเจ้าพระยาเอสเตส (Chao Phraya Estate) บนโค้งน้ำเจ้าพระยาที่งดงาม ให้บริการห้องสวีทและวิลล่า จำนวน 101 ห้อง แต่ละห้องมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา และถนนเจริญกรุง ถนนสายประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ย่านสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณี ที่หลอมรวมกับความร่วมสมัยของคาเฟ่ บาร์ และแกลเลอรี่ โดยสามารถดื่มด่ำกับสุนทรีย์แห่งการพักผ่อนเหนือระดับ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนด้วยบริการ “คาเพลลา คัลเจอร์ริสต์” (Capella Culturist) ผู้บรรจงเฟ้นหาประสบการณ์เฉพาะบุคคล สรรค์สร้างแรงบันดาลใจ และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมร่วมสมัยในท้องถิ่นให้กับคุณตลอดการเข้าพัก
ส่วนการออกแบบของโรงแรมฯ ได้สุดยอดสถาปนิกแห่งวงการสถาปัตยกรรมโลก Andy Miller และ Richard Scott Wilson มาร่วมมือกับทีมออกแบบตกแต่งภายในของบริษัท BAMO ที่มีผลงานการออกแบบตกแต่งโรงแรมฯ รีสอร์ท และร้านอาหารชื่อดังมาแล้วทั่วโลก โดยมีแนวคิดการออกแบบให้ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เป็นเสมือนรังไหมของความเงียบสงบ ท่ามกลางความเร่งรีบและวุ่นวายของเมืองหลวง ภายในประกอบด้วยห้องพักขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 61 – 595 ตารางเมตร ห้องพักทุกห้องมีความทันสมัย แต่ละห้องมีหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน รวมถึงระเบียงส่วนตัวด้านนอกที่ช่วยมอบความรู้สึกเหมือนนั่งชมการแสดง และเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ของผู้คนและชุมชนริมสายน้ำอย่างใกล้ชิด
———🏨———-
DON’T MISS!
Henryfry
ถนนเจริญกรุง สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
โทร. 096 791 0780
หลังเช็กเอ้าต์จากโรงแรมแล้ว ต้องไม่พลาดมาฝากท้องมื้อกลางวันที่ร้านไก่ทอดโฮมเมด ภายในพื้นที่บ้านหลังเก่าที่ถูกดัดแปลงให้เต็มไปด้วยบรรยากาศของความอบอุ่นเป็นกันเอง แถมอบอวลด้วยกลิ่นไก่ทอดหอมกรุ่น ที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ความใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบ นำมาผ่านการปรุงตามแบบฉบับของตัวเอง และทอดกันสดใหม่แบบจานต่อจาน จึงทำให้ได้ไก่ทอดที่เหลืองกรอบ ด้านนอก แต่ยังคงไว้ด้วยเนื้อที่เหนียวนุ่มชุ่มฉ่ำด้านใน เพิ่มรสชาติด้วยผงปาปริก้า
ที่โรยด้านบน จัดมาเป็นเซ็ตเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งทอด แตงกวาดอง และซอส Henryfry ที่มีสูตรลับความอร่อยเฉพาะตัว
ส่วนใครที่เป็นสายเส้น Fettucinee Classic Carbonara สปาเก็ตตี้เส้น Fettucinee คลุกเคล้ากับซอสคาโบนารา และชีสหอมมัน จะต้องทำให้คุณติดใจ เช่นเดียวกับเมนูของหวานสุดสร้างสรรค์กับ เยลลี่เก๊กฮวยหล่อฮั้งก๊วย ที่มีทั้งความหวานจากเยลลี่เก๊กฮวย และหล่อฮั้งก๊วย เติมความมันขึ้นอีกนิดด้วย พานาคอตต้า ก่อนจะเพิ่มรสชาติและความลงตัวด้วยเสาวรส เพื่อให้ได้รับครบทุกรสสัมผัสในแก้วเดียว
———-🍽———-
La Cabra Thailand
ถนนเจริญกรุง (ระหว่างซอยเจริญกรุง 29 – 31) สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
โทร. 084 155 4564
ก่อนกลับมาแวะจิบกาแฟยามบ่าย ที่คาเฟ่ซึ่งส่งตรงคุณภาพจากแบรนด์ร้านกาแฟในเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก มาให้นักดื่มชาวไทยได้ลิ้มลอง โดยยังคงคาแรกเตอร์อันโดดเด่นของ กาแฟ La Cabra ที่มีความสดชื่น หอมกลิ่นผลไม้อ่อนๆ มีรสชาติเบา และดื่มง่าย ด้วยความเป็นแบรนด์ร้านกาแฟ ที่นี่จึงเน้นเสิร์ฟเมนูกาแฟเป็นหลัก โดยมีครบครันทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็น Iced Americano กาแฟเย็นรสเบา ให้กลิ่นหอมของผลไม้อ่อนๆ Latte กาแฟนมรสนุ่มละมุน ส่วนคอกาแฟตัวจริง Hand Brew คือเมนูที่ต้องสั่ง เพราะให้รสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟอย่างชัดเจน ซึ่งทุกเมนูจะใช้เมล็ดกาแฟ Single Origin แบบคั่วอ่อน มาคั่วในสไตล์ One Roasted Profile ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง Espresso และ Filter Coffee อันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟร้านนี้
เช่นเดียวกับการตกแต่งร้านที่ได้หยิบเอาความคลาสสิกของถนนเจริญกรุงซึ่งเป็นที่ตั้ง มาผสมผสานกับคอนเซ็ปต์การตกแต่งในสไตล์นอร์ดิก ร่วมด้วยความเป็นแฟชั่น และเสน่ห์แบบไทยๆ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย ที่จะช่วยเติมเต็มความสุขให้ช่วงเวลาหยุดพักสั้นๆ ของคุณได้
CHIDLOM (ชิดลม)
จากอิทธิพลความเจริญเติบโตของย่านเพลินจิต ได้ส่งต่อมาถึงย่านชิดลม ซึ่งเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนในช่วงหลังปี 2500 ที่มีห้างร้าน บริษัทจากต่างประเทศ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐมาตั้งอยู่บนพื้นที่แห่งนี้ ปัจจุบันย่านชิดลมเป็นย่านช้อปปิ้งชั้นนำ เพราะถือเป็นหนึ่งใน Shopping Street สายสำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งต่อเนื่องมาจากสยาม ราชประสงค์ และส่งต่อไปยังเพลินจิต
PLACE TO STAY
Kimpton Maa-Lai Bangkok
78 ซอยต้นสน ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 0 2056 9999
สถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านหลังสวน ติดกับสวนลุมพินี ประกอบไปด้วยห้องพักทั้งหมด 362 ห้อง ซึ่งรวมถึง 131 เซอร์วิซ เรซสิเดนซ์ มาพร้อมร้านอาหาร 2 แห่ง ได้แก่ Stock.Room และ Ms.Jigger และบาร์อีก 2 แห่งคือ CRAFT และ Bar.Yard ซึ่งเป็นรูฟท็อปบาร์บนชั้น 40 ของโรงแรม ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ จึงเป็นตัวแทนของความมีชีวิตชีวาและความงดงาม ที่ไร้การปรุงแต่งของกรุงเทพฯ ซึ่งหลอมรวมเข้ากับบรรยากาศสบายๆ และดีไซน์ที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร เช่นเดียวกับมหานครแห่งนี้
ที่นี่คือศูนย์รวมของหลากหลายองค์ประกอบที่แตกต่าง แต่เข้ากันได้อย่างลงตัว ทั้งความรู้สึกที่เป็นอิสระแต่มั่นคง ความโดดเด่นสะดุดตาแต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม ตลอดจนเรื่องราวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ แต่แฝงไปด้วยความร่วมสมัย ที่สำคัญโรงแรมที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ แห่งนี้ ยังเปรียบเสมือนแหล่งสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินมากหน้าหลายตา ที่สะท้อนลักษณะความละเมียดของไทยที่สืบทอดกันมากว่าหลายศตวรรษ ภายใต้แนวคิดที่ว่า ชีวิตคืองานศิลปะที่ถูกกล่อมเกลาอย่างไม่รู้จบ ทั้งยังเป็น Pet-friendly Hotel ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกับสัตว์เลี้ยงแสนรักอีกด้วย
———🏨———-
DON’T MISS!
% Arabica
ลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์
โทร. 098 832 0100
หลังจากสร้างกระแสเปิดตัวสาขาแรกในเมืองไทยไปได้ไม่นาน คาเฟ่ชื่อดังจากโตเกียวที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์การตกแต่งร้านแบบมินิมอลแห่งนี้ ก็ได้ขยับเข้ามาใกล้ชิดกับคอฟฟี่เลิฟเวอร์ในเมืองกันมาขึ้น กับสาขา 2 ที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม และมาพร้อมคุณภาพอัดแน่นเหมือนเช่นเดิม โดยยังคงเน้นที่สีขาว และความเรียบง่าย ภายในแม้จะไม่กว้างขวางใหญ่โตเท่าสาขาแรก แต่มีการจัดสรรพื้นที่ได้ดี และคงคอนเซ็ปต์ See the world through coffee ด้วยการใช้กระจกใสด้านหน้า เพื่อให้สามารถรับแสงได้ตลอดทั้งวัน ส่วนที่นั่งด้านในร้านตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลัก สอดแทรกความสดชื่นมีชีวิตชีวาด้วยต้นไม้สีเขียว ในส่วนของที่นั่งได้
มีการออกแบบจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยใช้การก่อปูนเป็นขั้นๆ สลับไปมา เพื่อให้ไม่ว่าจะเลือกนั่งตรงไหนก็สามารถลิ้มลองความอร่อยได้อย่างสบายใจ ทางด้านเมนูกาแฟก็ยังคงความพรีเมียมไว้ได้เช่นกัน โดยคุณสามารถเลือกเมล็ดกาแฟที่หน้าเคาน์เตอร์ ส่วนบริเวณด้านข้างร้านเป็นพื้นที่ของโรงคั่วขนาดเล็ก ที่เปิดให้เห็นกรรมวิธีการคั่วกาแฟกันแบบสดๆ สำหรับเมล็ดกาแฟที่ทางร้านเลือกใช้ โดยปกติจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบคั่วเข้ม และคั่วอ่อน ซึ่งสามารถเลือกเมนู ตามด้วยรสชาติจากการคั่วเมล็ดกาแฟได้ในแบบที่ชื่นชอบ เพื่อให้คุณได้อร่อยกับกาแฟในรสชาติแบบที่เป็นตัวเอง
———-🍽———-
B2S Think Space Central Chidlom
ชั้น 6 เซ็นทรัล ชิดลม
หลังจากอิ่มท้องแล้วอย่าลืมเติมอาหารให้สมองที่ B2S Think Space แฟลกชิพสโตร์สุดล้ำบนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร บริเวณชั้น 6 เซ็นทรัลชิดลม ซึ่งถูกออกแบบให้เปิดโล่งมอบความรู้สึกของการเปิดประสบการณ์ สู่การค้นพบใหม่ โดยมีแลนด์มาร์คเป็นอุโมงค์หนังสือ Book Cave ที่คุณจะได้พบกับหนังสือมากกว่า 10,000 รายการ ทั้งภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ นอกเหนือจากนี้ยังมีโซนเครื่องเขียน Stationery Space ที่รวบรวมเครื่องเขียนทันสมัยจากทุกมุมโลกมาไว้ในที่เดียว โซนสี อุปกรณ์ศิลปะ และงานประดิษฐ์ Art&Craft Space ที่มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ เพื่อเปิดจินตนาการให้ลูกค้า โซน Lifestyle Space ที่รวม Gadget ซึ่งมีดีไซน์ทันสมัยตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ และสุดท้าย Play&Learn Space ที่มีหนังสือเด็กและสินค้าเสริมสร้างจินตนาการมากมาย แต่สำหรับใครที่ยังช้อปไม่จุใจ บีทูเอส ยังมีบริการระบบ E-ordering
ที่มีสินค้าอีกกว่า 60,000 รายการ ซึ่งพร้อมจะส่งตรงจากคลังถึงมือคุณอีกด้วย