ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิต 'วัดทักซัง' ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของภูฏาน

ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิต ‘วัดทักซัง’ ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของภูฏาน

January 28, 2024

1.16k

ต้อนรับปีมังกร ด้วยทริปภูฏาน (Bhutan) ดินแดนหุบเขาแห่งมังกรสายฟ้า ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ขุนเขา และอากาศบริสุทธิ์ ภูฏานเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่มีประชากรเพียง 7 แสนคน ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย และเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ใช้ “ความสุขมวลรวมประชาชาติ” หรือ Gross National Happiness (GNH) เป็นดัชนีวัดความเจริญของประเทศมาเป็นเวลานาน จนกลายเป็นที่นิยมชมชอบไปทั่วโลก

ทริปนี้แป๋มเพิ่งไปเมื่อต้นเดือน ธันวาคม 2566 โดยไปพักที่ โรงแรม Amankora เมืองพาโร (Paro) และ เมืองทิมพู (Thimphu) เมืองละ 2 คืน ค่าใช้จ่ายในการมาเที่ยวที่ภูฏาน จะประกอบไปด้วยค่าโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าไกด์ ค่ารถ และค่าธรรมเนียม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDF) ในราคา 100 USD ต่อคนต่อคืน โรงแรมจะรวบรวมเอกสารทั้งหมดจากเรา เพื่อขอวีซ่า จองไกด์ จองรถ รวมถึงวางแผนการเที่ยวให้เราด้วย ซึ่งราคาห้องพักที่ Amankora จะรวมอาหารและเครื่องดื่ม 3 มื้อ (รวมแอลกอฮอล์บางชนิด) รวมค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งจัดว่าค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น

โรงแรม Amankora Bhutan มีอยู่ใน 5 เมืองหลักของประเทศ แต่ละที่จะมีห้องพักไม่มาก (พาโรมี 24 ห้อง ทิมพูมี 16 ห้อง) ห้องพักแต่ละที่จะมีสีสัน รูปแบบการตกแต่งเรียบหรูคล้าย ๆ กัน ตัวห้องขนาดใหญ่มีอุปกรณ์ครบครัน มีชุดประจำชาติเตรียมไว้ให้ใส่ไปรับประทานข้าวเย็น ระหว่างวันเราจะออกไปทำกิจกรรมของโรงแรม เช่น ยิงธนู (กีฬาประจำชาติ) เดินเขา นวดสปา วันที่เช็กเอาต์ก่อนจะไปขึ้นเขา ที่โรงแรมจะมีพระมาทำพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล มีการผูกข้อมือ อวยพรให้เราเดินขึ้นเขาอย่างปลอดภัย เรียกว่าเป็นกำลังใจได้ดีมากทีเดียว

หากใครกำลังกังวลเรื่องอาหาร ว่ามาที่ประเทศภูฏานจะรับประทานได้รึเปล่า บอกเลยว่าถ้ามาพักที่ Amankora ก็สบายใจได้ เพราะเมนูอาหารและรสชาติคล้ายกับอาหารในโรงแรมบ้านเรา ค่าโรงแรมที่นี่รวมอาหารและเครื่องดื่มทั้ง 3 มื้อแล้ว สำหรับอาหารเช้าจะมีลิสต์ให้เลือกสั่งได้แบบบุฟเฟ่ต์ มีเมนูไข่ ขนมปัง น้ำผึ้ง แยม โยเกิร์ต ผลไม้สด โซบะร้อน โจ๊ก ชา กาแฟ น้ำผลไม้คั้นสด อาหารกลางวันจะเป็นอาหารจานเดียวเลือกสั่งได้ตามเมนู ส่วนอาหารเย็นจะมีเป็นอาหารฝรั่งทั่วไปให้เลือกสั่งแบบ a la carte และเซ็ตเมนูอาหารแต่ละประเทศ ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกวัน เช่น เซ็ตอาหารอินเดียหรืออาหารภูฏาน แถมมีดนตรีสดมาเล่นให้ฟังในห้องอาหารอีกด้วย (สามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าประเทศได้คนละไม่เกิน 2 ลิตร)

แล้วก็มาถึงไฮไลต์ของทริปนี้คือ วัดทักซัง หรือ วัดถ้ำเสือ (Tiger’s Nest Monastery/ Taktsang Monastery) ที่เมืองพาโร วัดศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูฏาน และยังได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกประจำปี 2023 ใครไปเที่ยวภูฏานแล้วไม่ได้ขึ้นไปวัดแห่งนี้ ก็เหมือนมาไม่ถึงภูฏาน วัดทักซังตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 900 เมตร อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากถึง 3,120 เมตร ช่วงที่ไปเป็นฤดูหนาว อุณหภูมิตอนกลางวันอยู่ที่ 7 องศา พอเดินขึ้นเขา อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้น รู้สึกว่าอากาศเย็นสบายกำลังดี (ควรเตรียมไม้ปีนเขาไปเองจากเมืองไทย)

เราเดินทางจากจุดเริ่มต้นประมาณ 12.00 น. ด้วยการขี่ม้าขึ้นไปจนถึง คาเฟ่ Taktshang Cafeteria ซึ่งเป็นจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นวัดทักซังได้ชัดเจน แวะพักดื่มกาแฟ กินขนม เข้าห้องน้ำ แล้วเริ่มการเดินเท้าต่อไปด้านบน ทางเดินค่อนข้างชัน มองลงไปรู้สึกหวาดเสียวบ้าง กว่าจะถึงวัดก็ต้องแวะพักหายใจจิบน้ำตลอดทาง เมื่อถึงวัดด้านบน ไกด์จะเตรียมของปิกนิกเป็นแซนด์วิช เครื่องดื่มร้อน-เย็น ผลไม้ ขนมต่าง ๆ ให้เรารับประทานก่อนเข้าไปไหว้พระ ด้านในวัดห้ามถ่ายภาพ สัมภาระทุกชิ้นต้องฝากไว้ด้านนอก แต่สามารถนำเงินติดตัวไปทำบุญได้ ไกด์เล่าถึงตำนานของวัดนี้ว่า ครั้งแรกที่มีการสร้างวัดนี้ ท่านกูรุรินโปเช (ผู้ที่ชาวภูฏานเชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 2) ได้ขี่นางเสือตัวหนึ่งเหาะขึ้นมาบำเพ็ญเพียรในถ้ำของวัด จนเมื่อครบ 3 เดือน ท่านจึงออกมาแสดงธรรมแก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหุบเขาพาโร จากนั้นมาถ้ำนี้กลายเป็นสถานที่สำหรับการเจริญสมาธิและบำเพ็ญเพียรของพระลามะอีกหลายรูป

วัดทักซัง จึงเป็นที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำเสือ หรือ Tiger’s Nest เราได้เข้าไปนั่งสวดมนต์ ทำสมาธิในห้องสำคัญ ๆ 3 ห้อง แล้วเดินทางกลับลงจากวัด โดยใช้เวลาเดินทางไป-กลับรวมทั้งหมด 6.5 ชั่วโมง ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก ส่วนหนึ่งที่ขึ้นไปถึงได้ ต้องขอขอบคุณไกด์และคนขับรถที่ช่วยอำนวยความสะดวกทุกอย่าง และเป็นกำลังใจให้ตลอดทาง

เวลาที่เหลือก็นั่งรถเข้ามาเที่ยวสถานที่สำคัญในเมืองพาโร เช่น วัดคิชู (Kyichu Lhakhang) หนึ่งในวัดเก่าแก่ที่สุดในภูฏาน หรือ พาโรซอง (Paro Rinpung Dzong) ที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีชื่อดัง Little Buddha อีกด้วย สำหรับเมืองทิมพู เมืองหลวงของประเทศภูฏาน ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น วัดพระใหญ่ (Buddha Point Bacho), วัดตัมโช (Tamchoe Monastery), เขตอนุรักษ์สัตว์ตาคิน (Takin Zoo) ในเมืองยังมีเอกลักษณ์ที่ต้องสังเกตคือป้อมตรงกลางสี่แยก จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ควบคุมทางแยกเพื่อควบคุมการจราจร โดยเฉพาะในถนนที่พลุกพล่าน ต้องมองหาผู้บังคับใช้การจราจรก่อนที่จะข้ามหรือเลี้ยว เพราะภูฏานเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร!