PPGALLERY แชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวไทย ไปกับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”
หลังจากที่ตั้งตารอกันมานาน สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่รัฐบาลช่วยสนับสนุนค่าที่พัก คูปองอาหารหรือท่องเที่ยว และค่าตั๋วเครื่องบิน ให้คนไทยเที่ยวในประเทศได้คล่องตัวขึ้น ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2563 แป๋มเอง ก็ไม่พลาดการรับสิทธิ และสรุปขั้นตอนการจองทริปสุดคุ้มมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ
เริ่มจากการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com และรอรับ SMS ตอบว่า “ลงทะเบียนสำเร็จ โปรดดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง เพื่อใช้ในโครงการ” จากนั้นโหลดแอปฯ “เป๋าตัง” มาไว้ในเครื่องเพื่อเข้าไปยืนยันตัวตน ในแอปฯ ยังมี G-wallet ที่เป็นเสมือนกระเป๋าสตางค์ ไว้รับคูปองอาหารหรือท่องเที่ยว หลัง Check-in เข้าพักแล้ว ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการต้องมีสัญชาติไทย และอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปเท่านั้น
ป้ายแรกของความคุ้มคือ “ส่วนลดการเข้าพักโรงแรม” รัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พัก 40% ของราคาสุทธิ (รวม Vat และ Service charges แล้ว) แต่ไม่เกิน 3,000 บาท/ ห้อง/ คืน ใช้สิทธิ์ที่พักได้สูงสุด 5 ห้องหรือ 5 คืนต่อคน หมายถึงถ้าจองใช้คืนเดียว 3 ห้อง ก็นับเป็น 3 คืน หรือแบ่งเที่ยว 5 ครั้ง เป็นทริปละคืนก็ได้ (ตรวจสอบโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ หรือสนใจไปพักที่ไหน โทรสอบถามกับโรงแรมโดยตรง) การจองโรงแรมสามารถจองได้ 2 วิธี คือ จองตรงกับโรงแรม หรือจองผ่าน Agoda ซึ่งแป๋มเลือกจองตรงกับโรงแรมค่ะ
ยกตัวอย่างการจองทริปที่ Hua Hin Marriott Resort and Spa ของวันที่ 2 – 4 สิงหาคม (อาทิตย์ – อังคาร) โดยเริ่มเช็คราคาหน้าเว็บของ Agoda 2 คืน รวมเป็นเงิน 13,474.80 บาท เป็นราคาปกติ จากนั้นโทรเข้าโรงแรมเช็คราคาแบบจองตรง และขอราคาสำหรับสมาชิก Marriott Bonvoy ราคารวมลดลงเหลือ 11,276.28 บาท ลดอีก 40% (ใช้สิทธิ 2 คืน) เหลือชำระแค่ 6,765.77 บาทเท่านั้น (ตามรูปตัวอย่าง) เมื่อทำการจองทางโทรศัพท์จนได้รับ Booking No. แล้ว ก็ส่งข้อมูลผู้ใช้สิทธิ์พร้อมรายละเอียดการจองไปที่ E-mail ของโรงแรม เมื่อได้รับอีเมลยืนยันตอบกลับ ก็เข้าไปชำระเงินทาง G-wallet ได้เลย แต่เมื่อชำระเงินแล้ว จะไม่สามารถยกเลิกหรือขอเงินคืนได้ (โรงแรมที่ใช้สิทธิ์ จะต้องไม่ตั้งอยู่ในจังหวัดตามทะเบียนบ้านของผู้รับสิทธิ์)
ป้ายต่อมา “คูปองอาหารหรือท่องเที่ยว” เมื่อเรา Check-in เข้าพักจากการใช้สิทธิ์ส่วนลดค่าโรงแรมแล้ว ก็เข้าไปรับคูปอง (E-Voucher) ใน G-Wallet แอปฯ เป๋าตัง ไว้ใช้เป็นส่วนลด 40% ในร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ (ได้รับคูปองหลัง 17.00 น. ของวัน Check-in และหมดอายุ 23.59 น. ของวัน Check-out) การเข้าพักวันธรรมดา จันทร์ – ศุกร์ จะได้รับคูปอง 900 บาท/ คืน หรือเข้าพักวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ จะได้รับคูปอง 600 บาท/ คืน ซึ่งไม่ต้องใช้ทีเดียวให้หมด สามารถสะสมเพื่อใช้วันถัดไป และทยอยใช้ได้
มาถึงป้ายสุดท้าย “รับค่าตั๋วเครื่องบินคืน” สามารถขอรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ของราคาตั๋วฯ แต่ไม่เกิน 1,000 บาท/ ผู้โดยสาร รับสิทธิ์ 2 คนต่อห้อง ซึ่งต้องชำระค่าตั๋วเต็มจำนวนไปก่อน หลังจากที่ได้รับอนุมัติทั้งหมดจะถูกโอนเป็น Cashback เข้า G-wallet ในแอปฯ เป๋าตัง ผู้มีสิทธิ์รับเงินคืนส่วนนี้ ต้องเป็นผู้ที่จองโรงแรมผ่านโครงการฯ เท่านั้น
โครงการนี้จำกัดจำนวนที่พักทั้งหมด 5,000,000 ห้อง/ คืน ตั๋วเครื่องบิน 2,000,000 ใบ ใช้สิทธิ์ได้ถึง 31 ตุลาคม 2563 เท่านั้น เพื่อนๆ ที่มีแผนจะเดินทาง ควรลงทะเบียนรับสิทธิ์ไว้ก่อนนะคะ สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องเงื่อนไขการรับสิทธิ์ได้ที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com หรือ 0 2111 1144
“หัวหิน” เมืองตากอากาศริมทะเลสุดคลาสสิค ที่ขับรถจากกรุงเทพฯ ไปเพียง 2 ชั่วโมงกว่า มีร้านอาหาร สถานที่เที่ยวและโรงแรมให้เลือกมากมาย อย่างไรก็ตาม THE BARAI Spa and Residential Suites ยังคงเป็นโรงแรมที่ประทับใจมากที่สุดในหัวหิน (สามารถใช้สิทธิ์ลดค่าห้องได้) นอกจากจะได้ดื่มด่ำหาดทรายกับน้ำทะเลแล้ว ยังได้ชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก นครวัด ในประเทศกัมพูชา โดยฝีมือการออกแบบของ คุณเล็ก บุญนาค เมื่อเดินเข้าไปใน The Barai Spa จะรู้สึกเหมือนหลุดไปอีกประเทศหนึ่ง
แป๋มเลือกพัก The Barai Balcony Suites#6 ขนาดกว้างขวาง 149 ตร.ม. ตั้งอยู่ชั้นบน ระเบียงหันไปทางอ่าวไทย มองเห็นทะเลได้ชัดเจน มี Private Spa Treatment และ Dining Area ที่สำคัญคือเตียงนอนใหญ่มาก ใหญ่กว่าทุกที่ๆ เคยพักมาเลย แต่ละห้องจะมี Butler ส่วนตัวคอยให้บริการ และอำนวยความสะดวกตลอดทั้งวัน ผู้เข้าพักสามารถรับประทานอาหารเช้า, Afternoon Tea, Pre-dinner, เครื่องดื่มและของว่างที่บ้านแมคฟาร์แลนด์ หรือรีเจนซี่ คลับ เลาจน์ได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงการนวดผ่อนคลาย 60 นาทีฟรีที่ The Barai Spa สำหรับ 2 ท่านต่อห้องต่อคืนอีกด้วย แม้ว่าที่นี่จะเป็นส่วนหนึ่งของ Hyatt Regency Hua Hin แต่มีความเงียบสงบ จากการแบ่งโซนห้องพักของ THE BARAI ที่มีเพียง 8 ห้อง ทำให้เราแทบไม่เจอคนที่มาพักในห้องอื่นเลย ใครที่รักสุขภาพ ชอบเที่ยวพักผ่อนแบบเงียบๆ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ
Our Blogger
คุณปิยะดา ปุณณกิติเกษม
เจ้าของเพจ PPGALLERY (พีพีแกลเลอรี่) ในช่องทาง
Instagram: @ppgallery และ Facebook: PPGALLERY
www.ppgallery.net