เดือนนี้ขอพาทุกคนย้อนไปดูบรรยากาศวันวาเลนไทน์ที่ เมืองวิสเลอร์ (Whistler) ประเทศแคนาดา เมื่อปี 2020 กันค่ะ ทริปนั้นเป็นการเดินทางต่างประเทศครั้งล่าสุด พอกลับมาถึงไม่กี่วัน ก็เข้าสู่โหมดจำศีลยาวมาจนถึงปัจจุบันเลย เรานั่งเครื่องบินจากสนามบินที่ San Francisco (USA) มาลงที่เมืองแวนคูเวอร์ แวะเที่ยวอีก 2 วัน ค่อยไปต่อที่ Whistler (ทริปนี้เป็นทริปเดียวกับตอนไป San Francisco และ Napa Valley นะคะ คลิกอ่านได้ที่ Around Magazine ฉบับเดือน พ.ย. 2021

ช่วงที่ไปอากาศเย็นกำลังดี ตื่นเช้าวอร์มร่างกายด้วยการเดินจาก โรงแรมที่พัก Rosewood Hotel Georgia ประมาณ 15 นาทีไป ย่านเมืองเก่า “Gastown” มีนาฬิกาไอน้ำหรือ Steam clock ที่จะพ่นไอน้ำ ร้องเพลง ตอนที่เข็มยาวชี้เลข 12 ต่อด้วย สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแวนคูเวอร์ “Stanley Park” บนพื้นที่ 1,000 เอเคอร์ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามหลากหลายแบบทั้งป่าเขาและชายหาด คนส่วนใหญ่นิยมมาปั่นจักรยาน นั่งปิกนิก หรือนอนอ่านหนังสือใต้ต้นไม้ใหญ่ ๆ

แล้วก็มาถึงไฮไลต์ที่ห้ามพลาด (สำหรับคนไม่กลัวความสูง) “Capilano Suspension Bridge Park” สะพานแขวน ที่มีความยาวถึง 140 เมตร และสูง 70 เมตร เหนือแม่น้ำคาปิลาโน่ (ค่าตั๋วเข้าคนละ 59.95 CAD หรือประมาณ 2,100 บาท ควรจองออนไลน์ล่วงหน้า) ระหว่างทางเดินไปสะพาน เหมือนเดินอยู่กลางป่า มีต้นไม้สูงใหญ่โอบล้อมตลอดทาง นอกจากความสวยงามของบรรยากาศความยิ่งใหญ่ของการสร้างแล้ว ยังท้าทายระหว่างที่เดินข้ามด้วยค่ะ เพราะสะพานแกว่งตลอดเวลา มองลงไปเห็นแม่น้ำข้างล่างรู้สึกเสียววาบอยู่

Seawall ที่มีความยาว 28 กิโลเมตร เรียกได้ว่าเป็นทางเดินรอบทะเลที่ยาวที่สุดในโลก จะเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ควบคู่กับการชมวิวอันสวยงามของแวนคูเวอร์ได้ตลอดทาง จาก Stanley Park ผ่าน Science World ไปจนถึง Spanish Bank ปิดท้ายด้วย ร้านอาหารจีน “Kirin” แนะนำ Lobster Noodle ที่ใช้กุ้งสด ๆ เนื้อเด้ง รสชาติเข้มข้น และ ร้าน Botanist ที่ตกแต่งร้านด้วยดอกไม้และต้นไม้นานาชนิด อาหารส่วนใหญ่ทำจากผักออร์แกนิกและอาหารทะเล

จากนั้นเราเดินทางต่อไปที่ Whistler, British Columbia ด้วย SUV Private Transfer ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ก็ถึง โรงแรม Four Seasons Resort Whistler โรงแรมสวย วิวดี บริการดี ห้องใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน (ประมาณ 18,000 บาท ต่อคืน) เราพักทั้งหมด 4 คืน แต่จ่ายค่าโรงแรมเพียง 3 คืน โดยใช้สิทธิพิเศษในการจองผ่าน Citi Call Center และชำระด้วยบัตร Citi Prestige (ใช้สิทธิได้ปีละ 2 ครั้ง) คุ้มมาก 

Whistler Ski Resort ประกอบด้วยสองภูเขา Whistler Mountain และ Blackcomb Mountain และมี Peak 2 Peak Gondola เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก ระยะทาง 4.4 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งเพียง 11 นาที วิวสวยสุดยอดมาก ๆ ดูจาก Trail Map ที่มีให้สกีลงมากว่าร้อยเส้นทาง คนที่ชอบเล่นสกีหรือสโนวบอร์ด อยู่เป็นเดือนยังไม่เบื่อ ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นค่า Ski Pass วันละประมาณ 4,000 กว่าบาท ต่อคน และค่า Private Lesson วันละประมาณ 30,000 บาท ต่อกรุ๊ป ซึ่งแพงกว่ายุโรปและญี่ปุ่นเยอะมาก ปกติจะชอบมีครูพาไปแนะนำ Track น่าสนใจ มาที่นี่จองครูแค่วันแรกวันเดียว วันที่เหลือลองไปเล่นเอง ดูแผนที่เอาก็ไม่ยากค่ะ

มาถึงเช้าวันวาเลนไทน์แจ้ง concierge ของโรงแรมให้เตรียม Surprise ด้วยดอกกุหลาบแดง เค้กช็อกโกแลต และการ์ดอวยพร มาเสิร์ฟพร้อมอาหารเช้าบนห้อง ทำให้วันวาเลนไทน์ปีนั้นพิเศษกว่าทุก ๆ ปี

มาดูร้านอาหารแนะนำที่นี่กันบ้าง ร้านส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองซึ่งโรงแรมมี Shuttle Bus บริการฟรีเป็นรอบ ๆ ตลอดทั้งวัน หากกลับเกินเวลาก็เรียกแท็กซี่แทนได้ เริ่มกันที่ “Araxi Restaurant & Oyster Bar” ร้านอาหารทะเล บรรยากาศดี มีหอยนางรมสด ๆ ให้เลือกหลายชนิด แถมปิดดึกด้วย “Hy’s Steakhouse” ที่ว่ากันว่าเป็นตำนานของ Tomahawk Steak และ “IL Caminetto” ร้าน Fine Dining บรรยากาศดี อาหารอร่อย ส่วนอาหารเช้าแนะนำ Crepe Montagne ร้านเล็ก ๆ เน้นขายเครปทั้งคาวและหวาน แป้งหอมเนย อาหารจานใหญ่และคิวยาวมาก 

ปิดท้ายด้วย Pop-up Cafe ใน โรงแรม Four Seasons Resort Whistler เปิดเฉพาะช่วงบ่าย เป็นรถเข็นขาย Hot chocolate ใส่ Snowman Marshmallow ส่วนที่นั่งของร้าน เป็นเก้าอี้ล้อมรอบ ตรงกลางเป็นเตาไว้เผา Marshmallow รับประทานเป็น s’more ชอบมากค่ะ

Our Influencer

คุณปิยะดา ปุณณกิติเกษม

เจ้าของเพจ PPGALLERY (พีพีแกลเลอรี่) ในช่องทาง 

Instagram: @ppgallery และ Facebook: PPGALLERY

www.ppgallery.net

📍 อ่านนิตยสาร AROUND อัปเดตเรื่องราวไลฟ์สไตล์และอินเทรนด์สุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย ฉบับ 137 ประจำเดือนมีนาคม – เมษายน 2565 และทั้งหมดได้ที่ https://www.aroundonline.com/blogissue/