TOP

Matara เจิดจรัสร่วมปรากฎโฉมคอมพลีตลุคเหล่าดาราเซเลบริตี้คนดังระดับอินเตอร์ บนพรมแดงเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 75

นับตั้งแต่ปี 2020 ที่ Matara เดินทางไปจัดงาน Private Event บน Roof Top ของโรงแรมในเวียงจันทน์ สำหรับลูกค้าลาวที่ชื่นชอบเครื่องประดับเพชรแท้ ไข่มุกแท้ เป็นภาพทิ้งท้ายอย่างสวยงามก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ต้องปิดเมืองและหยุดการเดินทางออกนอกประเทศของ Matara แบรนด์เครื่องประดับระดับไฮเอนด์ที่ใช้ช่างฝีมือระดับสูงมากประสบการณ์ของไทย ศิลปะการขาย การติดต่อประสานงานได้ถูกปรับไปอย่างสิ้นเชิงในทุกธุรกิจและทุกอุตสาหกรรม มองเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยวและการค้าปลีก ที่เปลี่ยนแปลงเป็นการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น และซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์จากแพลตฟลอมต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน จากคำว่าไม่เป็น ก็เริ่มเป็น จากการซื้อไม่บ่อย ก็เริ่มถี่ขึ้นในโลกออนไลน์ เมื่อประสบการณ์ใน 2 ปีที่ผ่านมา มีความท้าทายมากสำหรับคนทำงาน เราจึงคิดว่าถ้าเราผ่านมาได้ต้องมีศาสตร์และศิลป์ในการใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจ ที่มีความสามารถและศักยภาพสูงขึ้นเช่นกัน

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การเดินทางออกนอกประเทศครั้งใหญ่ของ Matara ได้กลับมาอีกครั้ง และเป็นการเดินทางที่เริ่มต้นปักธงไว้สูงมาก สูงจนผู้ร่วมเดินทางทั้ง 3 คนนั้นกลัว หวั่นไหว และสุดท้ายเปลี่ยนทุกอารมณ์มาเป็นการสร้างการเตรียมความพร้อมไปด้วยกัน การเดินทางที่ว่านั้นคือการนำแบรนด์ Matara ไปร่วมปรากฎโฉมเป็นครั้งแรก บนพรมแดงที่มีชื่อเสียงระดับโลก อย่าง เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 75 การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้เพียงแค่แพคกระเป๋า จองตั๋ว แล้วออกเดินทาง แต่จะเป็นอย่างไร ขอบันทึกลงในนิตยสาร Around ฉบับนี้ เพื่อร่วมแชร์ประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ เหมือนบินไปด้วยกันกับพวกเราทั้งสามคน เมื่อรู้ว่า Business Trip ครั้งนี้เกิดขึ้นจริง ท่ามกลางความตื่นเต้นของคนในวงการหนังทั่วโลก เพราะโควิด 19 ทำให้งานนี้เคยถูกเลื่อนจัดไปแล้วครั้งหนึ่ง งานเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 75 เดือนพฤษภาคม 2022 นี้กินเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งปีนี้ครบรอบ 2 ปี กับการปรับตัวไปกับ New Normal ของพวกเรา การเดินทางไปร่วมเปิดประสบการณ์ไกลถึง French Riviera นี้ จึงถือเป็น New Journey ที่พิเศษสำหรับพวกเราทั้ง 3 คนมาก แตกต่างจากการเดินทางต่างประเทศของพวกเราที่ผ่านมา ที่เป็นการร่วมงานแสดงสินค้าตามงานแฟร์ หรือพบกับคู่ค้า ลูกค้าโดยตรง แต่ครั้งนี้เป็นการไปเพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวแบรนด์กับเวทีระดับโลก ว่าเรามีความสามารถสร้างเครื่องประดับที่สวยเด่น มีคุณภาพชั้นสูง ให้เซเลบริตี้ทั่วโลกอยากสวมใส่ ดังนั้นโจทย์คือ เราจำเป็นต้องเดินทางพาตัวเองไปเป็นตัวเลือกแบรนด์เครื่องประดับหนึ่ง ที่อยู่ท่ามกลางเครื่องประดับระดับซูเปอร์ แบรนด์หลาย ๆ แบรนด์ที่เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่กันอย่างยาวนานหลายสิบปี ที่ดารา นักแสดง เซเลริตี้ทั่วโลกก็อยากสวมใส่ซักครั้งบนพรมแดง

ดังนั้นงานนี้จึงเปรียบเสมือนรันเวย์กูตูร์ของคนดังในชีวิตจริง ที่สายตาสื่อทั่วโลกให้ความสนใจ ถึงจุดนี้แล้วศาสตร์และศิลป์ที่ได้เรียนรู้จากการเดินทางในครั้งนี้ ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ ศิลปะแห่งความมั่นใจ ที่สามารถเรียนรู้ ฝึกฝนและสร้างได้ The Art of Confidence (The School of Life, 2017) ถูกตีพิมพ์ และถูกถ่ายทอดไว้อย่างเรียบง่าย “The difference between success and failure often hangs on a fascinatingly small and elusive concept that our standard education system never touches: confidence” และการเดินทางไปทริปเมืองคานส์ในครั้งนี้ ได้ตอกย้ำและสะท้อนได้เป็นอย่างดี เรื่องความมั่นใจจะนำพาซึ่งความสำเร็จ ซึ่งพวกเราได้รับทั้งประสบการณ์ตรง และได้เห็นจากเหล่าเซเลปที่มาร่วมงานในครั้งนี้

บรรยากาศในช่วงที่เราเรียกว่าทำงานนั้นเริ่มต้นตั้งแต่อยู่ไทย ที่มีการเตรียมตัว เตรียมเครื่องประดับ ค้นหาข้อมูล จองโรงแรมในช่วงพีคซีซั่นที่มีราคาสูงกว่าปกติ 5-6 เท่า ประสานงานต่าง ๆ เป็นต้น แต่ความเข้มข้นของการเดินทางเริ่มต้นตั้งแต่เท้าเหยียบโรงแรมชื่อดัง Hotel Martinez โรงแรมที่เต็มไปด้วยคนดังหลายศตวรรษที่มาจากทุกวงการ ทั้งแฟชั่นและภาพยนตร์ ปีนี้มีทั้ง Julia Roberts, Anne Hathaway, Tom Cruise, Bella Hadid บรรยากาศตั้งแต่เช็คอินที่รอคิวนานกว่า 1 ชั่วโมง ไปจนถึงการรอกระเป๋ามาที่ห้อง 2 ชั่วโมงเต็มนั้น เต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะ Carry on หนึ่งในนั้นมีเครื่องประดับที่นำมาให้เซเลบริตี้เลือกสวมใส่กลับไร้วี่แวว ในขณะที่กระเป๋าเดินทางบางส่วนได้ถูกจัดส่งมาที่ห้อง Junior Suite ของเรา เมื่อเราได้ไปสอบถามที่พนักงานด้านล่าง เจ้าหน้าที่ได้พาไปหากระเป๋าด้วยตัวเองที่ชั้นใต้ดิน ห้องเก็บของนี้ เต็มไปด้วยกระเป๋า เดินทาง และ Shopping Bags ระดับซูเปอร์แบรนด์ ร่วมร้อยกว่าใบที่เป็นของลูกค้าท่านอื่น ๆ ในโรงแรมเดียวกัน ในช่วงเวลาที่หากระเป๋าของตัวเองไม่เจอและรอการค้นหานั้น ทำให้พวกเราได้เรียนรู้และเข้าใจว่าต้องระมัดระวังและมีความรอบคอบ เพราะของมูลค่าสูงร่วม 10 ล้าน อยู่ในกระเป๋าลากใบเล็กนั้น ทำไมพวกเรา 3 คน จึงไม่ลากติดตัวขึ้นห้องมาด้วยตัวเอง คำสอนของพ่อแม่ที่ร่วมเดินทางในอดีตผุดขึ้นมาทันทีกับคำว่า “ต้องละเอียดและมีสติเสมอ”

 

เมื่อเวลาผ่านไปหลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่โรงแรม ส่งภาพผู้รับและภาพกระเป๋าให้ช่วยตามหา 40 นาที หลังจากนั้น กระเป๋าก็ถูกจัดส่งมาที่ห้อง ด้วยความดีใจไม่ถึง 5 นาที การทำงาน Unpack วิ่งเอาของให้เซเลบริตี้เลือก ลองใส่ เพื่อเดินพรมแดงวันนั้้นก็เริ่มต้นขึ้นทันที และภาพความวุ่นวายแบบนี้ก็เกิดขึ้นทุก ๆ วัน ที่พวกเราอยู่ที่นั้นตลอดทั้งสัปดาห์ เพราะทุกวัน ทุกชั่วโมง เป็นวันสำคัญของใครบางคนเสมอ ในการเดินพรมแดงไม่ใช่งานคน ๆ เดียว แต่เป็นการทำงานแบบ Teamwork และมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าชุดที่ใส่มีการเปลี่ยนแปลง ทรงผม การแต่งหน้า และเครื่องประดับจึงมีการปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน ศิลปะในการปรับตัว ความไว และเป้าหมาย ที่จะทำให้เครื่องประดับ Matara ของเราส่งเสริมผู้ส่วมใส่ เพิ่มความมั่นใจในลุคนั้น ๆ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

การทำงานตลอดสัปดาห์ที่คานส์ทำให้เราได้เจอ Influencers ระดับคุณภาพ ที่การมาร่วมเดินพรมแดงของบางคน คือการเปลี่ยนชุดเดินมากถึง 5 วัน บางคนมาร่วมงานและเดินพรมแดงแค่ 2 วัน ใส่แบรนด์ Chopard 1 วัน ใส่ Matara 1 วัน ความรู้สึกที่เห็นภาพ Matara ถูกสวมใส่บนพรมแดง เป็นความรู้สึกที่เอ่อล้น ที่พวกเราทั้ง 3 คน ยังมองหน้ากันแล้วยังไม่สามารถบรรยายออกมาได้หมด ความมั่นใจ ของผู้ส่วมใส่นั้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยของความสำเร็จของ การเดินทางในครั้งนี้ เพราะเมื่อผู้สวมใส่เดินย่างก้าวเข้าพรมแดง ภาพจะถูกจับจากสื่อทั่วโลกในทันที ว่าใส่ชุดของอะไร เครื่องประดับจากที่ไหน ส่วนใหญ่ใช้เวลาเพียงแค่ 5-10 นาที บนพรมแดงเท่านั้น การขอความร่วมมือให้ เดินไว ๆ จากกลุ่มเจ้าหน้าที่ในชุดสูทดำ จึงเป็นภาพที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน พรมแดงนี้จึงเป็นเหมือนรันเวย์สั้น ๆ ที่ห้ามสะดุด ห้ามเดินไม่สวย ห้ามตะกุกตะกัก ในทุกสถานการณ์สำหรับดารานักแสดงหรือเซเลบริตี้ แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ก็ต้อง The Show Must Go On

และ Matara Queens ที่ได้สวมใส่เครื่องประดับของเราเดินพรมแดงในปีนี้ มีทั้งหมด 5 คนคือ Thassia Naves, Jessica Wang, Jaime Xie, Leonie Hanne, Heart Evangelista ซึ่งปีนี้เซเลบริตี้ได้เลือกส่วมใส่ครบ ทุกคอลเลกชั่นของ Matara ไม่ว่าจะเป็น Matara Studio, Matara Fine Jewelry by S.Maneephand, Matara High Jewelry จากทุก ๆ ดีไซเนอร์ที่ร่วมทำงานด้วยกัน เช่น Guitar Patinya, Moo Teerapat, Paul Pawat ดังนั้นผลลัพธ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Matara in Cannes แต่เป็น Matara Family Takes Cannes ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สุดท้ายนี้ เราได้ร่วมบันทึกการเดินทางด้วยการนำเครื่องประดับชิ้นจริงที่ถูกสวมใส่บนพรมแดงนี้ กลับมาสลักคำว่า 75th Festival de Cannes พร้อมฝังทับทิมสีเหมือนพรมแดง และจะนำออกมาประมูลเพื่อการกุศลในปลายปีนี้ค่ะ

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด