ดอกรวงผึ้ง…ผลิดอกบานในวันพระราชสมภพ พันธ์ุไม้ประจำรัชกาลที่ 10
รวงผึ้งเมื่อกลีบแย้ม เหลืองอร่าม
ชูช่อสนงดงาม อ่อนช้อน
พฤกษาถิ่นสยาม ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง
ฝนหยดหยาดลงย้อย แต่งแต้มดอกใบ
ต้นรวงผึ้ง พันธุ์ไม้ประจำรัชกาลที่ 10
ต้นรวงผึ้ง…ดอกสีเหลือง สีประจำวันพระราชสมภพ
ไม้หอมที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ให้ดอกสีเหลืองเป็นสีที่ตรงกับวันพระราชสมภพ คือ วันจันทร์
ดอกรวงผึ้งบาน…ผลิดอกในวันพระราชสมภพ
ดอกรวงผึ้ง ผลิดอกสีเหลืองบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมขจรไกล ในช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือนพระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ชึ่งเป็นช่วงดอกจะเริ่มต้นผลิบานตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม
ต้นรวงผึ้งเป็นต้นไม้ทรงปลูก
หากคราใดที่พระองค์ท่านเสด็จฯ กอปรพระราชกรณียกิจ ตามสถานที่ต่างๆ จะทรงปลูกต้นรวงผึ้ง พระราชทานไว้เพื่อเป็นตัวแทนแห่งพระองค์ท่าน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ราษฎร
กรมป่าไม้แจกต้นกล้าของต้นรวงผึ้ง เฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10
ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2562 ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ออก ณ สีหาบัญชร กรมป่าไม้ได้ทำการแจกต้นกล้าของต้นรวงผึ้ง แก่ประชาชน จำนวน 2,000 ต้น
ลักษณะเด่นของต้นรวงผึ้ง
ต้นรวงผึ้ง หรือ Yellow star (ชื่อสามัญ) จัดอยู่ในวงศ์ MALVACEAE มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schoutenia glomerata King subsp. peregrina (Craib) Roekm. พบมากในป่าทางภาคเหนือ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000-1,100 เมตร เป็นพันธุ์ไม้พวกเดียวกับปอกระเจาและตะขบฝรั่ง ลักษณะเด่นของต้นรวงผึ้ง คือ ดอกสีเหลืองเข้ม มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน มีช่อดอกดกที่เกิดตามซอกใบเป็นช่อสั้น โคนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น 5 แฉกคล้ายรูปดาว ไม่มีกลีบดอก มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ซึ่งส่วนที่มองเห็นเป็นสีเหลืองเหมือนดอกนั้น คือเกสรตัวผู้ที่รวมกันเป็นกระจุก ลำต้นแตกกิ่งต่ำ กิ่งค่อนข้างเล็กเรือนยอดเป็นพุ่มมน ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปแผ่นใบสองข้างไม่เท่ากัน ผิวใบด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีน้ำตาลอมนวล สามารถขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งและเพาะเมล็ด
ผลิดอกเหลืองสวยเบ่งบาน
ดอกรวงผึ้งจะเบ่งบานในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ผลิดอกได้นาน 7-10 วัน เมื่อดอกสีเหลืองบานพร้อมกันทั้งต้น จะดูงดงามอร่ามตา และส่งกลิ่นหอมชื่นใจตลอดทั้งวัน
เหนือสุดสยามไพร บ่มิคลายพนาพรรณ
รวงผึ้งวิลาวัณย์ ดรุนั้นประจำองค์
เจ้าฟ้าสยามแดน นฤแคว้นฤดีคง
เทิดไท้ ธ ยืนยง องค์บรมราชกุมาร
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : ลำต้นแตกกิ่งต่ำ กิ่งค่อนข้างเล็กเรือนยอดเป็นพุ่มมน
ใบ : ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปแผ่นใบสองข้างไม่เท่ากัน ผิวใบด้านบนเป็นสีเขียว ด้านล่างสีน้ำตาลอมนวล
ดอก : ดอกมีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน บานได้นาน 7–10 วัน ช่อดอกดกเกิดตามซอกใบเป็นช่อสั้น โคนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น 5 แฉกคล้ายรูปดาว ไม่มีกลีบดอกมีเกสรตัวผู้จำนวนมากซึ่งส่วนที่มองเห็นเป็นสีเหลืองเหมือนดอกนั้นเป็นเกสรตัวผู้รวมกันเป็นกระจุก เมื่อบานเต็มที่ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.4 ซม. มีกลิ่นหอม เมื่อดอกบานพร้อมกันทั้งต้น จะดูสวยงามอร่ามตาและส่งกลิ่นหอมชื่นใจ
ผล : เป็นผลแห้ง ทรงกลม มีขน เมื่อแก่จะไม่แตก ขนาด 0.5-1 เซนติเมตร
ระยะติดดอก : ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
สภาพนิเวศวิทยา : เป็นไม้กลางแจ้ง ชอบขึ้นในที่แล้งไม่มีน้ำท่วมขัง จึงจะมีดอกสีเหลืองดกเต็มต้น แต่หากได้น้ำมากหรือขึ้นบนที่ชุ่มน้ำจะมีดอกประปราย
การปลูกและการขยายพันธุ์ : การตอนกิ่ง และปักชำกิ่ง หรืออาจใช้การเพาะเมล็ดก็ได้ การตอนกิ่ง เป็นวิธีการที่เหมาะสมแต่ต้องใช้ฮอร์โมนในการเร่งรากจึงจะได้ผลดีในการขยายพันธุ์
รายละเอียดการใช้ประโยชน์ : นำมาปลูกเป็นไม้ประดับ ดอกสวยงามออกเต็มต้น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ร่มเงา ปลูกเลี้ยงง่าย ทนแล้ง เป็นไม้มงคลเหมาะสำหรับคนธาตุไฟ
ข้อดีของพันธุ์ไม้
– ออกดอกครั้งละมากๆ (เต็มต้น) เมื่อดินแห้งตามธรรมชาติ
– เป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีช่วงการปลูกกว้าง สามารถขึ้นได้ดีทั้งที่แห้งแล้งและที่ค่อนข้างชื้น
– เป็นพันธุ์ไม้ที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ไม่ต้องการการดูแลมาก ใบไม่ค่อยร่วง
– เป็นพันธุ์ไม้ที่มีระบบรากดีมาก ไม่มีการหักโค่นของต้นขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าจะเป็นกิ่งที่ได้จากการตอน
Credit : www.royalparkrajapruek.org
บริษัท แปซิฟิค อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด